คอมพิวเตอร์ คือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่สามารถรับข้อมูล และคำสั่ง แล้วนำไปประมวลผล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ
เหตุผลที่นำคอมพิวเตอร์มาใช้งาน
- สามารถบันทึกข้อมูลต่างๆ ได้รวดเร็ว
- สามารถเก็บข้อมูลจำนวนมากๆ
- สามารถส่งข้อมูลจากที่หนึ่ง ไปยังอีกที่หนึ่งได้อย่างรวดเร็ว โดยอาศัยเทคโนโลยีสื่อสารข้อมูล
- สามารถจัดทำเอกสารต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ด้วยระบบประมวลผลคำ
- การนำมาใช้งานทั้งด้านการศึกษา การวิจัย
- การใช้งานธุรกิจ งานการเงิน ธนาคาร และงานของภาครัฐ
- การควบคุมระบบอัตโนมัติต่างๆ เช่น ระบบจราจร, ระบบเปิด/ปิดน้ำของเขื่อน
- การใช้เพื่องานวิเคราะห์ต่างๆ เช่น การวิเคราะห์สภาวะดินฟ้าอากาศ สภาพของดิน น้ำ เพื่อการเกษตร
- การใช้คอมพิวเตอร์เพื่อจำลองรูปแบบ เช่น จำลองโมเลกุล จำลองรูปแบบการฝึกขับเครื่องบิน
- การใช้คอมพิวเตอร์นันทนาการ เช่นการเล่นเกม การดูหนัง ฟังเพลง
- การใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกับเทคโนโลยีล้ำสมัยอี่นๆ เทคโนโลยีสื่อสารข้อมูล เกิดเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์
lคอมพิวเตอร์ยุคที่ 1 (พ.ศ. 2497-2501)
คอมพิวเตอร์ในยุคนี้ใช้หลอดสุญญากาศ (Vacuum tube) เป็นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องยังมีขนาดใหญ่มาก ใช้กระแสไฟฟ้าจำนวนมาก ทำให้เครื่องมีความร้อนสูงจึงมักเกิดข้อผิดพลาดง่าย คอมพิวเตอร์ในยุคนี้ได้แก่ UNIVAC I, IBM 600
เครื่องคอมพิวเตอร์ Mark1เครื่องคอมพิวเตอร์ ENIAC
คอมพิวเตอร์ยุคที่ 2 (พ.ศ. 2502-2507)
คอมพิวเตอร์ยุคนี้ใช้ทรานซิสเตอร์ (Transistor) เป็นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ และใช้วงแหวนแม่เหล็กเป็นหน่วยความจำ คอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กกว่ายุคแรก ต้นทุนต่ำกว่า ใช้กระแสไฟฟ้าน้อยกว่า และมีความแม่นยำ
คอมพิวเตอร์ยุคที่ 3 (พ.ศ. 2508-2513)
คอมพิวเตอร์ยุคนี้ใช้วงจรไอซี (Integrated Circuit) เป็นสารกึ่งตัวนำที่สามารถบรรจุวงจรทางตรรกะไว้แล้วพิมพ์บนแผ่นซิลิกอน (Silicon) เรียกว่า "ชิป"
คอมพิวเตอร์ยุคที่ 4 (พ.ศ. 2514-2523)
คอมพิวเตอร์ยุคนี้ใช้วงจร LSI (Large-Scale Integrated Circuit) เป็นการรวมวงจรไอซีจำนวนมากลงในแผ่นซิลิกอนชิป 1 แผ่น สามารถบรรจุได้มากกว่า 1 ล้านวงจร ด้วยเทคโนโลยีใหม่นี้ทำให้เกิดแนวคิดในการบรรจุวงจรที่สำคัญสำหรับการทำงานพื้นฐานของคอมพิวเตอร์นั่นคือ CPU ลงชิปตัวเดียว เรียกว่า "ไมโครโปรเชสเซอร์"
ประเภทของเครื่องคอมพิวเตอร์
การจัดแบ่งประเภทของ เครื่องคอมพิวเตอร์ จะอาศัยความเร็วของการประมวลผล และขนาดความจำ ของหน่วยบันทึกข้อมูล ซึ่งสามารถแบ่งได้ เป็น 4 ประเภท ได้แก่
Supercomputers
Mainframe Computers
Minicomputers
Microcomputers
Super Computer
เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง มีความเร็วในการประมวลผลที่สูงประมาณ 100 คำสั่งต่อวินาที และมีขนาดความจำปริมาณมาก ต้องการห้องที่สามารถปรับอุณหภูมิได้ และมักจะใช้งานในวิจัยต่าง ๆ เช่น การวิจัยเกี่ยวกับ ดินฟ้าอากาศ(อุตุนิยมวิทยา) การวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียม การวิเคราะห์ด้านโมเลกุลของสารต่าง ๆ
Mainframe Computer
เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพรองมาจาก Super Computer มีความต้องการการบำรุงรักษาคล้าย ๆ กับ Super Computer แต่มักจะพบในองค์กรขนาดใหญ่ เช่น ธนาคาร ธุรกิจการบิน บริษัท และมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เพราะเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถเชื่อมโยงกับเครื่องปลายทางได้จำนวนมาก ทำให้สามารถตอบสนองการใช้งานของผู้ใช้ได้พร้อมกันหลาย ๆ คน
Mini Computer
เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดกลาง ที่มักจะพบในหน่วยงานบริษัทที่ใช้งานเฉพาะด้าน เช่น ประมวลผลงานบัญชี โดยสามารถนำไปเชื่อมต่อกับเครื่องปลายทางได้หลายเครื่อง โดยมีลักษณะการทำงานแบบ การประมวลผลกระทำอยู่ที่ส่วนกลาง แล้วนำไปประมวลผลที่เครื่องปลายทาง โดยที่เครื่องปลายทางไม่ต้องประมวลผลเอง (Centralized)
Micro Computer
คอมพิวเตอร์ใช้งานที่พบได้อย่างแพร่หลาย โดยอาจจะพบได้ทั้งในรูปของเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลแบบตั้งโต๊ะ (Personal Computer) หรือแบบพกพา (Portable Computer) ลักษณะต่าง ๆ
ตอนนี้ด้านบนของมอนิเตอร์บางส่วน เป็นที่วางจานมาม่าครับ และก็ส่วนเคสตอนนี้วางเลย์ไว้ 1 ถุงครับ อิอิ
ถ้าเป็นตอนนี้คงวางมาม่าไม่ได้แล้วล่ะค่ะ
มาแอบชื่นชมห้องคอมจัดได้สวยงามเรียบร้อยดีมาก ชื่นชม แสดงว่าผู้ดูแลมีความรับผิดชอบสูงเอาใจใส่ดีมากๆ มีความวิริยะอุตสาหะ โดยมิได้เห็นแก่ความเหนื่อยยาก แบบนี้ต้องเอาไป 2 ขั้น....อิอิ.อิ
จริงครับ เยี่ยมครับ..
สวัสดีค่ะ ท่านผอ.ประจักษ์ ท่านผอ.คงสบายดีนะคะ พวกเรายังคิดถึงบางลี่อยู่เสมอค่ะ
ห้องคอมของเรามีวันนี้ได้ก็เพราะโรงเรียนได้รับความร่วมมือ การสนับสนุนจากคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียนของเราทุกคนค่ะ แต่ที่สำคัญที่สุดเพราะโรงเรียนมีผู้บริหาร คือ ผอ.ขวัญดี สิงห์ทอง ผู้อำนวยการโรงเรียน ที่มีวิสัยทัศน์ก้าวไกล คอยส่งเสริมและสนับสนุนในการใช้สื่อเทคโนโลยีที่ทันอยู่เสมอค่ะ
ขอกราบขอบพระคุณท่านเป็นอย่างสูงนะคะที่ติดตามชมค่ะ
ว่างๆ ขอเชิญแวะเยี่ยมโรงเรียนของเราค่ะ
http://school.obec.go.th/intarumphun
และขอบคุณคุณธนิตย์ ค่ะ ที่มาเยี่ยมชม