:::ความผิดพลาด:::


วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่ต้องทำหน้าที่ 'ครู' ให้กับเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ วัยหกขวบ

ซึ่งมักจะร้องตามไปไหนมาไหนด้วยเสมอ แต่ก่อนเคยคิดว่าตัวเองเป็นคนรักเด็ก แต่ตอนนี้เพิ่งรู้ว่าไม่ได้รักมากอย่างที่เคยรู้สึก เพราะในบางเวลาก็มีความรู้สึกว่าอยากอยู่เงียบๆ คนเดียว โดยไม่ต้องมีเด็กเล็กๆ มาคอยตามถามโน่นนี่ตลอดเวลา

ช่วงบ่ายจะเป็นเวลาที่นัดกับน้องไว้ว่า "ให้เอาสมุดกับหนังสือมาหาพี่ปุ้ยที่บ้าน" บ้านน้องเค้าอยู่ไม่ไกล (แม่เค้าทำงานอยู่ในบริษัทของที่บ้าน จึงพักในบ้านคนงานที่ถัดออกไปไม่ไกล) จึงเป็นปกติธรรมดาที่เวลาใครมองเข้ามาในรั้วบ้านจะเห็นผู้หญิงและเด็กตัวผอมๆ นั่งหรือทำอะไรอยูด้วยกันเกือบทั้งวัน ไม่นานมานี้เลยเกิดความคิดว่าไหนๆ ก็มาเล่นแล้วก็เลยมาเรียนเสียด้วยเลย ซึ่งน้องเค้าย้ายจากโรงเรียนที่บ้านเกิดมาเรียนที่นี่

หลังจากจัดการให้น้องเขียนพยัญชนะสูง กลาง ต่ำเรียบร้อย ฉันก็หันมาเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษลงในสมุดอีกเล่ม พอน้องเค้าเขียนอย่างแรกเสร็จก็หัดให้อ่าน หลายวันที่ผ่านมาเรียนคล้ายๆ กันกับวันนี้และฉันเป็นคนอ่านนำให้ทุกครั้ง วันนี้ตึงกะว่าจะให้เค้าอ่านเองบ้างเพื่อดูความคืบหน้า

ปรากฎว่าเค้าอ่านไม่ได้เลยสักตัวเดียว (ภาษาไทย) จึงรู้สึกว่า..."อะไรกันเนี่ย" (น้องอยู่ชั้น ป.1) ด้วยความที่เคยสอนแต่เด็กกรุงเทพ แล้วขีดความสามารถเค้าดีมาก มาพบในแบบนี้ไม่ใช่ว่าจะประหลาดใจสักเท่าไหร่เพราะน้องยังเล็กและแม่เค้าก็เคยเปรยๆ ก่อนจะสอนแล้วว่า "มันไม่ได้หนังสือเลยหนา..."

แต่ความรู้สึกที่คิดว่าตัวเองพลาดไปก็คือ รู้สึกว่าทำไมจำที่เราสอนมาหลายวันไว้เลยงั้นเหรอ (รู้สึกเสียใจมากมายในตอนนี้) ก็เลยหยิบเอาสมุดที่เขียนกันไปเมื่อหลายวันก่อนมาให้น้องอ่าน ปรากฎว่าเหมือนเดิม ณ เวลานั้นเริ่มโมโห (ร้ายกาจมากเลยยัยคนนี้)

แต่ก็พยายามทำใจเย็นๆ ถามน้องไปว่า "ที่อยากเรียนนี่ หนูตั้งใจเรียนหรือเปล่าทำไมจำไม่ได้เลย" น้องเค้าไม่ตอบค่ะ จริงๆ หลายวันที่ผ่านมาเค้าดูดี ทำตาม พูดตามที่บอกทุกอย่าง ปฏิกิริยาในวันนี้จึงเป็นเรื่องที่ไม่คาดว่าจะเจอ ช่วงเช้าๆ เค้าจะรบเร้าตลอดว่า "เรียนหนังสือได้หรือยัง?" (เป็นภาษาอีสาน พอฟังได้) ฉันก็จะบอกว่ารออีกเดี๋ยว

หลังจากที่ไม่ผ่านในรอบแรก เราก็มาเริ่มกันใหม่ ทีนี้ขอพักวิชาภาษาไทยไว้สักครู่ (เค้าเคยบอกว่าชอบภาษาอังกฤษมากกว่า) หันมาหยิบหนังภาพคำศัพท์ภาษาอังกฤษขึ้นมาเปิดกางแล้วให้เค้าอ่านตาม ทีนี้อ่านตามคล่องเชียวค่ะ ออกเสียงตามได้ชัดเปรี๊ยะ คราวนี้ฉันเลยให้อ่านเอง และแล้วก็เหมือนเดิม พอถามเค้าว่า "จำได้หรือเปล่า" ปรากฎว่าเค้าส่ายหัวดิก

เท่านั้นแหล่ะค่ะ มันเหมือนฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ลาหลังหัก...

ฉันโมโหนิดๆ ก่อนจะบอกให้เค้าสะกดคำอ่านภาษาไทยที่กำกับอยู่ข้างๆ เค้าก็สะกดไม่ได้ คนเป็นครูแทบอยากจะร้องไห้ วันนี้กับวันที่ผ่านมานี่มันเปลี่ยนไปอย่างกับหน้ามือเป็นหลังมือ สุดท้ายการสอนก็เป็นไปแบบที่พี่ที่ทำงานอยู่ในออฟฟิศแอบชะโงกหน้ามาดูแล้วถามว่า "สอนหนังสือหรือจะฆ่ากันแน่จ๊ะปุ้ย"

จบวันไปแบบน้องเค้านั่งเอามือปาดแก้มแต่ไม่มีแม้เสียงร้องไห้ที่ถูกดุ - - ส่วนคนสอนก็อารมณ์มัวๆ จนปฏิเสธคำชวนของน้องที่จะไปเดินเล่นในสวนอย่างเคย แล้วกลับเข้าบ้านทันทีแต่น้องเค้าก็ยังตามมาคุยปกติ เรานี่สิที่ยังโกรธไม่หาย

มาถึงตอนนี้จึงตำหนิตัวเองไม่เลิกที่ทั้งดุ แล้วยังไปโกรธเด็กตัวเล็ก เพียงเพราะว่าเค้าจำที่เราสอนไม่ได้ มาคิดถึงความเป็นจริงว่า น้องเค้าอาจได้รับการศึกษาไม่เทียบเท่ากับที่เราหลายๆ คนเคยเจอมา ถือว่าฉันโชคดี ขนาดว่าน้องเค้าตั้งใจเรียนเป็นอย่างดี ฉันกลับมาดุเค้าให้เสียกำลังใจในวันนี้

ไม่รู้จะจัดการกับความรู้สึกของตัวเองยังไง...

แม้ตอนนี้จะคิดได้และรู้สึกไม่ดีที่ทำแบบนั้นลงไป แต่มันคือสิ่งที่เอากลับคืนมาไม่ได้ ถ้าวันพรุ่งนี้น้องเค้าไม่มาตามต้อยๆ ฉันคงยิ่งรู้สึกไม่ดีมากกว่าตอนนี้เสียอีก

แม่เคยบอกว่า "สามสิ่งที่เราเอากลับคืนมาไม่ได้คือ คำพูด การกระทำ และโอกาส"

ฉันเอากลับคืนมาไม่ได้ทั้งสามสิ่ง เลยต้องมานั่งจมกับความรู้สึกนี้จนต้องหาที่จัดการกับมันคือที่นี่ มีใครช่วยฉันคิดทีว่าควรจัดการกับความคิดเหล่านี้อย่างไร แล้ววันพรุ่งนี้ฉันจะพูดกับน้องเค้าแบบไหนดีถึงจะไม่ทำให้น้องเค้าเสียกำลังใจ จริงๆ ก็คิดไว้แล้วแต่ไม่รู้ว่าจะดีไหม อยากให้ท่านๆ ช่วยมาขัดเกลาให้ที วันนี้อารมณ์ไม่ปกติเลย ถึงได้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น

เสียใจไม่หาย...กลัวน้องเค้าคิดมาก - - เฮ้อ

คำสำคัญ (Tags): #บันทึกของชีวิต
หมายเลขบันทึก: 218755เขียนเมื่อ 25 ตุลาคม 2008 19:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 02:58 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (22)

สวัสดีค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ความคาดหวังกับประสบการณ์เก่าทำให้เราตัดสินคนไปได้ค่ะ เริ่มใหม่ด้วยใจที่มีสติ เมตตา ค่ะ เป็นกำลังใจให้เสมอนะคะ

สวัสดีค่ะ

  • เป็นกำลังใจให้ค่ะ
  • "สามสิ่งที่เราเอากลับคืนมาไม่ได้คือ คำพูด การกระทำ และโอกาส"
  • เมื่อเอากลับคืนไม่ได้ เราก็ไม่ต้องเอาคืน แต่เราจะไม่ทำอีก
  • เริ่มต้นใหม่กับน้องนะคะ...จิตวิทยาเด็กมีกี่ข้อ งัดเอามาใช้ให้หมด
  • สู้ สู้ค่ะ

  • ในฐานะคนเป็นครูอยากบอกน้องว่า
  • เด็กๆๆต้องใช้หลายวิธี
  • ไม่สามารถใช้วิธีที่เราเรียนมาแบบสำเร็จรูปได้
  • อาจต้องให้เล่นเกม ร้องเพลง
  • เพราะการรับรู้และการเรียนของเด็กแต่ละคนต่างกัน
  • อย่าเร่งให้เขาเรียนรู้ ไม่อย่างนั้นเขาจะเกลียดการเรียนไปตลอดชีวิต
  • เอาใจช่วย
  • หาว่า เขาชอบเรื่องอะไร เอาเรื่องนั้นมาเป็นการเรียนนะครับ
  • สู้ๆๆครับ
  • สวัสดีค่ะ
  • ใจเย็นๆๆค่ะคุณครู
  • เมือก่อนป้าแดง ก็โมโหกับหลานๆๆมากค่ะ
  • เป็นพี่นะจับตีเข่าเขย่าศอก
  • กรอกด้วยน้ำร้อน ให้นอนกับแมว
  • แล้วเสียบด้วยเหล็ก เขกด้วยกำปั้น
  • ยันด้วยบาทาฝรั่ง ทาหลังด้วยโลชั่น
  • ปั่นด้วยสำลี แล้วหอมแก้มหนึ่งทีวางไว้ข้างๆตัว(ตุ๊กตาอ่ะ)(คิดไปไหนไกลๆ อิอิ)
  • ใจเย็นๆนะ
  • เพลงไม่เข้ากะหน้าเลยอ่ะ อิอิ
  • เจ๊กมาเชียว
  • เห็นภาพตัวเองเมื่อสัก 15 ปีก่อนเลย เดี๋ยวนี้ ก็ยังเป็น แต่ดีขึ้นบ้าง...ตามวัย(เท่านั้น) ฮา! 
  • เมื่อก่อนไม่เคยรู้เลยว่า การควบคุมจิตใจ อารมณ์ของตนเองมันสำคัญถึงเพียงนี้ แต่เดี๋ยวนี้รู้(ซึ้ง)
  • ไม่ใช่เฉพาะเด็กต่างจังหวัด(อิสาน)ที่เป็น เด็กกรุงเทพไม่เห็นเป็นดอกครับ...เด็กเหมือนกัน เป็นเหมือนกัน ทุกชาติทุกภาษา(สากลครับ) อีกนั่นแหละ! แต่เด็กย่อมต่างกันแน่ๆ แต่ต่างกันเพราะอะไร...นี้คือหน้าที่ ที่ครูต้องคิดให้ออกครับ
  • ชอบประโยคนี้จังเลยครับ "สามสิ่งที่เราเอากลับคืนมาไม่ได้คือ คำพูด การกระทำ และโอกาส"
  • ฟังคุณคิดแล้ว เชื่อว่า อีกสักระยะหนึ่ง เรื่องที่เป็นปัญหาของคุณในวันนี้ จะดีขึ้นได้เองอย่างแน่นอน...เพราะคุณมีความตระหนักแล้ว
  • ขอบคุณประสบการณ์ดีๆครับ

ขอบคุณพี่พอลล่านะคะ...ขอบคุณที่ให้สติ ความเมตตาแก่น้องคนนี้ - - แล้วจะนำไปปฏิบัติตามนะคะพี่

จริงด้วยค่ะ...เมื่อเอากลับคืนมาไม่ได้ ก็ไม่ต้องเอากลับมา แต่อย่าทำอีก - - ขอบคุณนะคะ

ขอบคุณที่ช่วยเปิดทางสว่างให้ - - เรียนก็เรียนมาจนปรุแต่ลืมหยิบเอามาใช้ก็คราวนี้เอง

ขอบคุณมากๆ ค่ะคุณครูวรางค์ภรณ์...ด้วยความนับถือ

งือออออออออ...ขอบคุณอาจารย์ขจิตนะคะ - - ว่าที่ครูที่ไม่ได้เรื่องคนนี้ต้องกราบขอบพระคุณมากเลยแหล่ะ

วันนี้เสียใจอย่างแรง...แล้วจะจำไปใช้นะคะ

ขอบคุณป้าแดงค่ะ...ญ.ปุ้ยมาระงับอารมณ์ไม่อยู่ก็คราวนี้เอง - - ป้าๆ ยังบอกว่ามีคนทำให้ปุ้ยโมโหได้นี่เก่ง

แต่ตัวเองก็เชื่อว่าไม่ได้เป็นคนใจเย็นขนาดนั้น เพียงแต่เค้ามองไปกันเองต่างหาก - - แต่ก็ไม่รู้

นี่คนกำลังเศร้า - - พี่เอ๊ะทำเอาปุ้ยหลุดกร๊ากไม่หยุด มีปัญหาเหรอคะพี่มาดูกันมะล่าว่าจริงๆ แล้วปุ้ยเนี่ยลูกครึ่งนะ (ครึ่งผีครึ่งคน...555) ครึ่งไทยครึ่งจีน แม่นี่หมวยกระเจิง แต่พ่อดันไทยแท้แต่เดิมมา

ลูกแทนที่จะเอาอย่างแม่จะได้ ขาว สวย หมวย อึ๋ม...555 แต่ดันไปทางพ่อค่ะ หน้าไท้...ไทย(โบราณ)เพื่อนเลยเรียกน้องโบๆ

555...ขอบคุณทีทำให้หัวเราะได้เนาะพี่เอ๊ะ

ขอบคุณคุณธนิตย์มากนะคะ...ชัดเจนเลยค่ะ กับความเข้าใจ

ดีขึ้นมากหลังจากทุกคนมาเป็นกำลังใจและแนะนำ - - ขอบคุณมากมายค่ะทุกท่าน

  • กลัวน้องแอ๊ะและสมาชิกคิดภาพไม่ออก
  • เลยเอาน้องโบ....มาโชว์
  • ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
  • โอ๋ๆๆนิ่งซะๆๆๆ
  • ครั้งหน้าตั้งใจสอนใหม่

อิอิ เต็มจอเลยพี่ขจิต

น่ารักดีครับ เหมือนการ์ตูนที่เห็นเลย

เป็นกำลังใจให้นะจ๊า สู้ๆต่อไป อย่าท้อ

สักวันหนึ่ง...ปุ้ยจะบิน

 

ง่ะ...โห อาจารย์ - - มาซ้ำเติมอ่ะ...น้องโบ

เหอๆๆๆ

นี่ถ้าอาจารย์เป็นเพื่อนปุ้ยนะ...ฮึ่มๆๆๆๆ

555....ล้อเล่นค่า - - ขอบคุณนะคะ

พี่เอ๊ะก็เอากะเค้าด้วย - - 555...ขอบคุณค่าที่มาเป็นกำลังใจเนาะทุกท่าน

ยิ้มได้แล้วค่า - - น้องโบหายเศร้าแล้วคร้าบ

ไม่เป็นไรครับ ยิ้มๆๆ

ขอบคุณค้า...คุณสุขสมวันนี้นึกว่าจะไม่ได้เห็นหน้าเสียแล้วสิ

ค่ะ...ยิ้มๆๆๆๆ - - สู้ตายวุ้ย

แสดงความคิดเห็นใน บันทึก google ไม่ได้แง เข้าไป 7 ครั้ง งง งง หาสาเหตุไม่ได้ เจ้าที่แรงใช้ GPRS มันบอกว่า application error เซ็งห่านเลย อิอิๆๆๆๆๆๆ

555...เหรอคะอาจารย์ ขำกลิ้งเลยค่ะ - - ยังไงก็ขอบคุณนะคะที่อุตส่าห์เข้ามาแสดงความคิดเห็นจนได้

งั้นเดี๋ยวไปเซ่นเจ้าที่ให้เพลาๆ เรื่องการหวงพื้นที่เสียหน่อย...อิอิ

- สวัสดีค่ะน้องปุ้ย

- กลับมาอ่านบันทึก ของคุณครูปุ้ย

- ตามประสาคนอยู่กับเด็กพิเศษ หากสอน เด็กตามวิธีการต่างๆแล้ว ทั้งวิธีของ อ.ขจิต

จิตวิทยา สารพัด ฯลฯ เราต้องสังเกตว่าเด็กมีอะไรไม่ปกติหรือเปล่า เอ้า...ไม่แน่นะหนูปุ้ย มาเจอะกับพี่นัดครูไม่ปกติ ดวงอาจจะไปสมพงษ์กับเด็กพิเศษก็ได้ .. 55555อันนี้เป็นการคาดคะเน เท่านั้นนะคะ (เจ้าหนูน้อยคนนั้นอาจจะปกติทุกอย่าง )

- เดี๋ยวนี้ เราอาจจะพบ เด็ก LD เด็กเรียนช้า เด็กออ เด็กสมาธิสั้น เด็กไฮเปอร์ รวมทั้งเด็กฉลาด แต่เราอาจไม่รู้ว่าเขาฉลาดเรื่องไหน ) ซึ่งปัจจุบันมีเยอะและหลากหลาย การศึกษาในปัจจุบัน ทำให้เรารู้จักแยกแยะเด็กแต่ละประเภทมากขึ้น

- เป็นกำลังใจให้นะจ๊ะ

อือ...มาอ่านที่พี่นัดเล่าแล้วนึกขึ้นได้ค่ะ ว่าจะมาเขียนบันทึกเพิ่มถึงหนูน้อยคนนี้ (แต่ไม่ว่างสักที) - - คือว่าเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาได้คุยกะแม่ของน้อง เค้าก้เลยเล่าว่าตอนคลอดน่ะน้องไม่ออก หลายวันก่อนคลอดก็มีเลือดออกมาแต่เค้าไม่เอะใจเลย จนสุดท้ายล้มไป คนที่บ้านเลยพามาส่งโรงพยาบาล

สุดท้ายน้องเค้าต้องถูกดูดดออกมา เพิ่งสังเกตุว่ากระโหลกด้านนึงยุบไป แถมต้องอยู่ในตู้อบดูอาการนานหลายเดืนทีเดียว - - ถามแม่เค้าว่าตอนท้องทำอะไรที่น่าจะมีความเสี่ยงให้น้องต้องเป็นแบบนี้ไหม

เค้าบอกว่า...ทำงานอยู่โรงงานอาหารกระป๋องมีกลิ่นสารเคมีตลบอบอวบตลอดเวลาเลย แต่เค้าไม่ได้คิดว่าจะเป็นอันตราย ทำงานนั้นมาจนคลอด - - น่าเห็นใจนะคะที่เด็กต้องเป็นแบบนี้...นึกแล้วยิ่งคิดมากที่ไปดุเค้าวันนั้น

เศร้ามากมาย - - แต่น้องเค้ามีความพยายามขึ้นมากเลยนะคะ เวลาเรียนจะตั้งใจกว่าเมื่อก่อน และตอนนีก็เริ่มจำสระได้บ้างแล้ว...คงต้องค่อยๆ เติมไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเต็ม

ขอบคุณพี่นัดนะคะที่มาให้ข้อคิดเห็นในเรื่องนี้ - - กรณีดังกล่าวน่าจะเป็นไปได้ว่าสมองบางส่วนของน้องอาจผิดปกติจากพิษของสารเคมี และการดูดออกมาจากครรภ์ของแม่

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท