เสียงสะท้อนจากคนเป็น...ลูกน้อง


ขอเพียงให้เข้าใจและเห็นใจ มีเมตตา มีพรหมวิหาร 4 รับฟังและเข้าใจถึงความยากง่ายในการปฏิบัติงาน หรือแม้แต่หัดพูดคำว่า "เหนื่อยไหม" ยามที่ลูกน้องต้องทำงานที่หนักหนาอดหลับอดนอนเพื่อให้งานออกมาสู่สายตาสาธารณชน หากผู้บริหารเป็นเช่นนี้ก็จะทำให้ลูกน้อง "ถวายชีวิตและจิตใจ"ในการทำงาน ตายก็ไม่ว่า ... จะทำได้ไหม...

                                                     
คำถามที่ว่า ทำไมเราต้องยอมทำในสิ่งที่เราไม่ต้องการ   ทำไมเราจึงไม่สามารถเป็นตัวของตัวเองได้  และทำไมเราต้องทำในสิ่งที่รู้ว่ามันผิด  และทำไมผู้บังคับบัญชา(บางคน) จึงไม่คิดว่าลูกน้องคือเพื่อนร่วมงาน แต่กลับนึกว่า ตัวเองเป็นเจ้ากรรมนายเวร สั่งลูกน้องอย่างไรจะผิดหรือจะถูกอย่างไรก็ต้องทำตามถ้าขืน(มึง)ขัดขืนก็ระวังไว้เถิดว่า..ไม่มีวันจะผุดจะเกิด

                                          

       อ่านบทความต่าง ๆ ของคุณโรงงานแล้วก็สะท้อนถึง การบริหารจัดการและการดูแลทรัพยากรมนุษย์ของ "ภาคเอกชน"  ซึ่งต่างกับ"ภาคราชการ"ก็ตรงที่ ภาคเอกชนเน้นคนทำงานและเน้นผลงานที่สัมฤทธิ์ผลตลอดจนไม่ลืมที่จะคำนึงถึง ทรัพยากรมนุษย์ที่มีค่า 
                    

        เพื่อนของนกคนหนึ่ง ทำงานอยู่ฝ่ายอบรมฯของบริษัท ไทยแอร์โรว์ พิษณุโลก  นกยังจำได้ถึงโครงการสำคัญ ๆ ของไทยแอร์โรว์ที่เน้นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์  การดูแลเอาใจใส่เยี่ยงพ่อดูแลลูกพี่ดูแลน้อง  เช่นโครงการที่นำลูก  ๆของผู้ที่ทำงานไปทัศนศึกษาในโรงงาน เพื่อให้ลูก ๆ ทราบว่าพ่อแม่ทำงานอย่างไร
                    

         คุณก่อศักดิ์  ไชยรัศมีศักดิ์  ผู้บริหารระดับสูงของ ซี พี. ผู้บริหารคนสำคัญของ เซเว่นอีเลฟเว่น เขียนเรื่อง CEO สอนน้องซึ่งอาจารย์เยี่ยม วรอินทร์  ศึกษานิเทศก์ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษา กรุณานำไปCopy เรื่องราวมาให้เพราะรู้ว่า เราชอบงาน HR  และชอบศึกษา ปรัชญาต่าง ๆ จึงขอขอบคุณมา ณ ที่นี้

         คุณก่อศักดิ์  ไชยรัศมีศักดิ์  ใช้ภาพประกอบเพียงภาพเดียว  "ภาพพญาอินทรี" ในทุกคั่นหน้าเมื่อจบเรื่องเล่าหนึ่งเรื่อง  พญาอินทรีหมายถึง ผู้นำที่มีวิสัยทัศน์และจะเป็นคนที่อยู่ด้านบนและมองลงมา เหมือนผู้บริหารที่อยู่เบื้องสูงมองภาพขององค์กรในมุมที่มองลงมา เรื่องพญาอินทรีนี้ มีเรื่องเล่าในหลักจิตวิทยาว่าด้วยการแบ่งประเภคของคนไว้เป็น 4 ประเภทเอาไว้สัญญาว่าจะนำเรื่องนี้มาเล่า

          คุณก่อศักดิ์เขียนเรื่องคัมภีร์บริหารจากภูมิปัญญาจีน  โดยแบ่งขุนนาง เลว-ดีดูที่ไหนและคุณสมบัติของผู้บังคับบัญชา และรู้เท่าทันผู้ใต้บังคับบัญชา นกจะขอสรุปสั้น ๆ นำมาให้พี่ ๆ อ่านกันนะคะ คุณก่อศักดิ์กล่าวว่า ขุนนางดีมี 6 ประเภท คือ
          1. ขุนนางที่เห็นการณ์ล่วงหน้าก่อนเกิดเหตุ  จึงสามารถสกัดป้องกันไว้ตั้งแต่ต้นเป็นผลให้กษัตริย์ของตนอยู่เหนืออันตรายและดำรงเกียรติยศขจรไกล ขุนนางเช่นนี้คือ  ขุนนางอริยเมธี
           2. ขุนนางผู้ถวายความเห็นอย่างอ่อนน้อม โน้มน้ามให้กษัตริย์ปฏิบัติตามจารีตประเพณีอันดีงามและยึดมั่นอยู่ในธรรมนองคลองธรรม  ขุนนางเช่นนี้คือ ขุนนางผู้ยิ่งใหญ่
           3.  ขุนนางที่ 3 คือ ขุนนางผูทุ่มเททำงานทั้งเช้า-เย็น แนะนำคนดีมาช่วยชาติโดยมิเห็นแก่ความเหน็บเหนื่อย  ขุนนางเช่นนี้คือ ขุนนางจงรักภักดี
           4.   ขุนนางผู้มีสายตาแหลมคม มองเห็นเหตุแห่งความสำเร็จและความล้มเหลว สามารถช่วยเหลือป้องกันตั้งแต่ต้น โดยการอุดช่องโหว่รากเหง้าแห่งปัญหา แปรหายนะเป็นชัยชนะ  ขุนนางเช่นนี้คือ ขุนนางชาญฉลาด
            5.   ขุนนางที่เคารพกฏหมายเคร่งครัดในระเบียบบังคับ ดำรงชีพด้วยด้วยความสมถะ ขุนนางเช่นนี้คือ  ขุนนางสุจริต
             ขุนนางดีข้อ 6 คือ ขุนนางผู้ไม่ประจบสอพลอ ในยามบ้านเมืองปั่นป่วนวุ่นวายกล้าทัดทานท้วงติงสิ่งที่ไม่ถูกต้องต่อหน้าพระพักตร์แม้ในยามที่ทรงพิโรธรุนแรง ขุนนางเช่นนี้คือ ขุนนางซื่อตรง 
     ในยามวิกฤตคับขันบ้านเมืองต้องการคนพูดความจริง ในสถานการณ์ที่เจ้าเหนือหัวไม่พร้อมจะรับฟังสิ่งใด ๆ ไม่มีใครกล้าท้วงติงสิ่งที่มีเหตุผล ขุนนางประเภทนี้พร้อมจะเผชิญหน้าและแจกแจกถึงข้อผิดพลาดของผู้บังคับบัญชา เป็นคนซื่อตรงที่ยอมเสี่ยงตายเพื่อส่วนรวมค่ะ 

             คุณก่อศักดิ์ เขียนถึง ขุนนางเลว 6 ประเภท ไว้เหมือนกันค่ะ
             1.  ขุนนางที่ทำงานเรื่อยเฉื่อย  โลภโมโทสัน ไม่ใส่ใจงานหลวง คอยดูทิศทางลม เปลี่ยนสีตามสถานการณ์  ขุนนางเหล่านี้คือ ขุนนางกะล่อน
             2.  กษัตริย์ตรัสสิ่งใดแล้วล้วนเออออว่าดีงาม กษัตริย์ทรงกระทำการใดล้วนเห็นว่าถูกต้อง แอบสืบแสวงสิ่งซึ่งกษัตริย์ทรงโปรดและเสาะหามาถวาย เพียงให้กษัตริย์สำราญโดยไม่คำนึงถึงผลร้ายตามหลัง ขุนนางเช่นนี้คือ ขุนนางสอพลอ
             3.  จิตใจเจ้าเล่ห์ชั่วร้าย เปลือกภายนอกดูสุภาพ นุ่มนวล เจรจาไพเราะชวนฟัง  แต่ส่วนลึกริษยาคนดีมีความสามารถ  เมื่อจะสนับสนุนผู้ใดก็จะกล่าวถึงเฉพาะข้อดี  เมื่อจะทำร้ายใครก็จะขยายข้อด้อยของผู้นั้นใหญ่โต เป็นเหตุให้กษัตริย์ทรงพิจารณาคุณโทษอย่างไม่เที่ยงธรรม  ขุนนางเช่นนี้คือ ขุนนางโฉด
              4  มีความรู้มากแต่ใช้เพื่อกลบเกลื่อนความผิดของตน ชำนาญการเจรจาใช้คารมยุแยงให้แตกความสามัคคี ขุนนางเช่นนี้คือ ขุนนางบ่างช่างยุ
              5. รวบอำนาจแผ่อิทธิพล  ทำผิดเป็นถูก  สร้างก๊กส่วนตัว เสาะหาความร่ำรวยส่วนตน  แอบอ้างพระราชโองการเพื่อให้ตนได้ผลประโยชน์  ขุนนางเช่นนี้คือ ขุนนางปล้นชาติ
              6. สนับสนุนให้กษัตริย์ทรงดำเนินไปในทางที่ไม่ถูกต้องและโยนความผิดทุกอย่างไปให้ผู้เป็นนาย สมคบพวกพ้องปิดพระเนตรพระกรรณ   ยังผลให้องค์กษัตริย์มิอาจจำแนกผิดชอบชั่วดี เป็นที่ประฌามของอาณาประชาราษฏร์ ขุนนางเช่นนี้คือ ขุนนางล้างชาติ
                                            
              ก็สุดแล้วแต่ว่า ผู้ที่อยู่ในระดับผู้บริหารจะเลือกเป็นขุนนางดี หรือ จะอยู่ในขุนนางเลว  เปรียบเสมือนองค์กรหากในองค์กรมีบุคลากรที่มีจิตใจมุ่งในความดีมากกว่าบุคลากรที่มีจิตใจมุ่งแต่ประโยชน์ส่วนตน ก็จะทำให้องค์กรนั้นเจริญรุ่งเรือง  เป็นที่กล่าวขานแก่นานาองค์กรอีก  
 
              ตัวนกนั้นถือว่า เป็นระดับลูกน้อง ผู้ปฏิบัติก็มีแค่หวังว่า จะพบกับผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์ซึ่งอาจจะไม่ถึงครึ่งหนึ่งของผู้บริหารระดับสูงของ ซี พี ไม่ต้องดูแลจิตใจลูกน้องมากเหมือน ซีพีที่สามารถดูแลและควบคุมพนักงานทั่วประเทศถึง 70,000 คน  แต่ขอเพียงให้เข้าใจและเห็นใจ  มีเมตตา มีพรหมวิหาร 4 รับฟังและเข้าใจถึงความยากง่ายในการปฏิบัติงาน  หรือแม้แต่หัดพูดคำว่า "เหนื่อยไหม" ยามที่ลูกน้องต้องทำงานที่หนักหนาอดหลับอดนอนเพื่อให้งานออกมาสู่สายตาสาธารณชน  หากผู้บริหารเป็นเช่นนี้ก็จะทำให้ลูกน้อง "ถวายชีวิตและจิตใจ"ในการทำงาน ตายก็ไม่ว่า ... จะทำได้ไหม.
..

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 219345เขียนเมื่อ 28 ตุลาคม 2008 18:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:46 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (27)
  • ในที่ทำงานย่อมมี ทั้งเจ้านายและ ลูกน้อง ที่ต้องทำงานร่วมกันครับ เจ้านาย ส่วนใหญ่ ก็จะมีลูกน้อง ในฝันที่ อยากจะให้เป็น เช่น ขยันขันแข็ง ทำงานเต็มที่ จงรักภักดี ไม่มีป่วยไข้
  • ส่วนลูกน้องเอง ก็อยากมีเจ้านายในฝัน ที่พวกเขาต้องการด้วยเช่นกันครับ เดี๋ยวนี้ในองค์กรข้ามชาติ เขามีใยประเมินผลเจ้านายกันแล้วครับ และปิด ผนึกส่งกลับไปที่สำนักงานใหญ่อีกครั้ง เพื่อตรวจสอบว่า ตรงตาม มาตรฐาน ที่บริษัทแม่ต้องการหรือเปล่า
  • เป็นกำลังใจให้นะครับพี่
  • ไม่มีงานไหนสุขใจเท่าเป็นเจ้านายตัวเองหรอกครับ
  • สวัสดีครับ
  • P  สวัสดีค่ะ
  • ขอบคุณสำหรับการเยี่ยมเยือนและกำลังใจค่ะ
  • พี่นกเองก็เข้าใจสัจจธรรมข้อนี้อยู่ค่ะ  และนี่ก็คือเหตุผลที่ว่าทำไมในวงราชการจึงไม่สามารถรักษา "คนดี"มีความสามารถเอาไว้ได้
  • ก็ได้แต่หวังว่า "ผู้บริหารสายเลือดเก่า" จะหมดไปเสียที
  • เฮ้อ..แต่จะเมื่อไรน๊า...

สวัสดีค่ะน้องนก

  • เป็นบันทึกที่สวยงามบันทึกหนึ่ง สวยงามทั้งรูปแบบ ความคิด ความรู้ และการเล่าเรื่องผ่านรูปภาพ
  • ให้ข้อคิดดีมาก พี่ขออนุญาตนำเรื่องของขุนนางไปเผยแพร่ต่อนะคะ
  • ขอบคุณน้องนกมากค่ะ
  • P   สวัสดีค่ะ
  • นกเองเป็นคนที่ชอบขีด ๆ เขียน ๆ มาตั้งแต่เป็นเด็ก ๆ
  • ชอบแต่งเรื่องสั้น เขียนเรื่องราวใกล้ๆ  ตัวเป็นบทกลอนบันทึกในสมุดไว้หลายเล่มเลยค่ะ
  • แต่การเขียนผ่าน blog นั้นยากกว่า เพราะต้องคำนึงถึงบุคคลที่ 3ที่กล่าวถึงด้วย  อีกทั้งการใช้ถ้อยคำในบทความต้องระมัดระวังไม่ให้พาดพิงถึงใคร
  • แต่ blog ก็มีคุณประโยชน์สูงอย่างยิ่งแก่นกค่ะ เพราะในเหนือจินตนาการนี้ เป็นที่ ๆ นกสามารถนำความรู้ ประสบการณ์ผ่านบทความสั้น ๆ นำเสนอแก่พี่ๆ ค่ะอาจจะไม่ร้อยเรียงงดงามเหมือนนักเขียนมืออาชีพแต่ก็มาจากหัวใจเลยค่ะ
  • ขอบคุณค่ะ ข้อคิดของคุณก่อศักดิ์ ผู้บริหารระดับสูงของ ซีพี นั้นน่าสนใจมาก   ท่านคงดีใจมากว่าเราได้เผยแพร่สิ่งดี ๆ ในหนังสือท่านค่ะ
  • ขอบคุณพี่มากค่ะ

สวัสดีคุณนก...........

  • ได้ข้อคิดที่ดีค่ะ  ของ คัมภีร์บริหารจากภูมิปัญญาจีน  โดยแบ่งขุนนาง เลว-ดีดูที่ไหนและคุณสมบัติของผู้บังคับบัญชา และรู้เท่าทันผู้ใต้บังคับบัญชา
  • น่าจะพบได้ทั่วไป  ที่ คุณก่อศักดิ์ ได้เขียนถึง ขุนนางเลว 6 ประเภท  น่าขบคิดมากๆๆ
  • ขอบคุณมาก

พวกที่เราไม่มีสิทธิ์เลือกเจ้านายได้  ไม่มีสิทธิ์เลือกลูกน้อง  แต่เรามีสิทธิที่จะเลือกคิด เลือกทำแต่สิ่งดีดีให้กับสังคม ประเทศชาติได้  ของเป็นกำลังใจให้ครับ

  • P มีคำคม ของคุณก่อศักดิ์มากมายในหนังสือเล่มนี้ค่ะพี่
  • ในเรื่องของการดูแลทรัพยากรมนุษย์เช่น
  • "คนทุกคนมีชีวิตที่มีค่าที่ด คือช่วงทำงาน 40 ปี ผมจึงอยากให้ทุกคน มีชีวิตช่วงนี้อย่างมีความสุข  สนุกกับงาน อยู่กับเพื่อนร่วมงานด้วยความสุข  ไม่ใช่อยู่อย่างทุกข์ใจ ทุรนทุราย แต่ต้องกัดฟันทำต่อไปเพียงเพื่อไม่ให้ตกงาน  ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสังเวชอย่างยิ่ง"
  • มีอีกหลายเรื่องที่น่าสนใจค่ะ จะค่อย ๆ นำมาเล่าเรียงให้ฟังนะคะ
  • P  สวัสดีค่ะ
  • ขอบคุณท่าน ผอ.ประจักษ์มากค่ะ
  • บางที นกก็คิดเหมือนผอ.ค่ะ เลือกทำแต่สิ่งดีดีให้กับสังคม
  • ประเทศชาติ 
  • สิ่งนี่แหละที่เป็นเหมือน กลไกที่ขับเคลื่อนกำลังใจของนกค่ะ
  • ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ
  • P  สวัสดีค่ะ
  • ขอบคุณท่าน ผอ.ประจักษ์มากค่ะ
  • บางที นกก็คิดเหมือนผอ.ค่ะ เลือกทำแต่สิ่งดีดีให้กับสังคม
  • ประเทศชาติ 
  • สิ่งนี่แหละที่เป็นเหมือน กลไกที่ขับเคลื่อนกำลังใจของนกค่ะ
  • ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ

สวัสดีค่ะ แวะมาให้กำลังใจ...และที่ใช้พรหมวิหาร คิดว่าดีมากๆค่ะ ที่สำคัญเมตตา เมตตา ท่องไว้ค่ะ ขอบคุณมุมมองลูกน้อง ค่ะ

คุณนก

ขอบคุณที่อ้างอิงสิ่งที่ผมได้เขียนเอาไว้ ลงในบันทึกนี้

ความเป็นภาคเอกชน กับราชการ ต่างกันก็เพียง

แค่ความอิสระในการทำงาน ภาคอกชนต้องการความคิดสร้างสรรค์

และพร้อมที่ให้ทำ ให้ลอง เพื่อสิ่งที่ดีกว่า

แต่ภาคราชการ เน้นความถูกต้องของขั้นตอนการทำงาน

ปฏิบัติตามระเบียบ ทำให้ ความคิดสร้างสรรค์ถูกกรอบกั้นเอาไว้

คนราชการมีความคิด ดีๆ มากมาย แต่ มีเพียงไม่กี่คนที่จะเอา

สิ่งที่คิดมาเปลี่ยนระเบียบ และสิ่งที่เป็นอยู่ได้

องคืกรที่เน้น เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ช่วยได้ครับ ดังตัวอย่าง

ที่เห็นใน g2k นี้ที่คนราชการนำเสนอสิ่งดีๆมากมาย

  • P  สวัสดีค่ะ
  • ขอบคุณสำหรับการเยี่ยมเยียนค่ะ
  • อยากให้มีผู้บริหารมาอ่านบันทึกนี้เยอะ ๆ ค่ะ
  • อิอิ
  • P สวัสดีค่ะคุณโรงงาน
  • ทุกครั้งที่อ่านบันทึกของคุณโรงงานทำให้พี่ต้องคิดเปรียบเทียบกับองค์กรภาคราชการเสมอ
  • แอบหวังเล็ก ๆ ที่จะเป็นมดงานตัวเล็กที่จะพยายามคาบกิ่งไม้เล็ก ๆ รวมให้เป็นรวงรังให้ได้
  • แต่ภาคราชการอยู่ในระบอบและมีขั้นตอน  การขึ้นสู่ตำแหน่งสูง ต้องตอบโจทย์ว่า ทำเพื่อนายได้หรือไม่ หรือพูดให้สวย ๆ คือปฏิบัติตามผู้บังคับบัญชา
  • คนที่อยู่ใน G2k เป็นกลุ่มมดงานใหม่ ที่อยากเห็นองค์กรภาคราชการ เป็นองค์กรที่เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้
  • แต่คุณโรงงานรู้ไหมคะ พูดเรื่องนี้ทีไร ก็โดนยิ้มเยาะทุกทีเลยค่ะ
  • เฮ้อ...

P

คุณนก จงดีใจที่เป็นมดตัวเล็กๆ มดนั้น มีระเบียบวินัย เดินเป็นแถวเป็นแนว สามารถยกสิ่งของที่ใหญ่กว่าตัวเองตั้งหลายเท่าๆด้ รู้จัก ทำงานเก็บอาหารไว้ ยามหน้าหนาว ทำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เมื่อพ้นหน้าหนาว มดงานก็รีบออกจากรัง มาหาอาหารต่อไป การทำงาน หากเป็นดั่งมด ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น เอารอยยิ้มเยาะมาเป็นกำลังใจ สร้างสิ่งที่เล็กๆ ไปหาสิ่งใหญ่ เราจะมีคุณค่าต่อองค์กรเองครับ เป็นกำลังใจให้ครับ

P ขอบคุณอีกครั้งคะ

  • ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่ยิ่งใหญ่สำหรับพี่คะ

 

  • มาเป็นกำลังใจให้กับคนคอเดียวกันค่ะ
  • ก็ได้แต่บอกกับตัวเองเมื่อเจอสภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ว่า "อดทน ต่อไปนะ"   เดี๋ยวทุกอย่างมันก็ดีเอง
  • สู้ ๆ ค่ะ

 

พี่นกครับ ขุนนางดีข้อ 6 หายไปไหนครับ ช่วยเติมให้เต็มด้วยจะได้นำไปเล่าให้น้อง ๆ และเพื่อนผู้จัดการที่ทำงานฟังครับ

เห็นใจระบบงานราชการที่ไม่สามารถเลือกนายและลูกน้องได้ แต่ระบบเอกชนบางแห่งน่าสงสารกว่าเพราะมีโอกาสเลือกทั้งนายทั้งลูกน้อง แต่ไม่สร้างระบบการเลือกสรร และการประเมินผล เข้าทำนอง เรือดี แพดีไม่ขี่ข้าม ดันเอาเรือรั่วน้ำมาข้ามขี่...

สรุปแล้วก็ต้องอดทนเหมือนท่านประจักษ์ว่าไว้นั่นแหละครับ

  • ชอบเนื้อหาสาระจังครับ หนักแน่นและจริงดี
  • เข้าใจระบบราชการพอสมควร..จากเวลาที่ผ่านมาของตัวเอง
  • แต่ราชการก็มีอะไรดีๆเยอะนะครับ..ทุกสิ่งมีด้าน 2 เสมอ
  • "ขุนนางดีมิค่อยพบ แต่ขุนนางเลวพบได้บ่อยๆ"(ความคิดเห็นส่วนตัว=ผมคนเดียว)
  • P สวัสดีค่ะ
  • ขอโทษคะสำหรับขุนนางดีข้อ 6 คือ ขุนนางผู้ไม่ประจบสอพลอ ในยามบ้านเมืองปั่นป่วนวุ่นวายกล้าทัดทานท้วงติงสิ่งที่ไม่ถูกต้องต่อหน้าพระพักตร์แม้ในยามที่ทรงพิโรธรุนแรง ขุนนางเช่นนี้คือ ขุนนางซื่อตรง 
         ในยามวิกฤตคับขันบ้านเมืองต้องการคนพูดความจริง ในสถานการณ์ที่เจ้าเหนือหัวไม่พร้อมจะรับฟังสิ่งใด ๆ ไม่มีใครกล้าท้วงติงสิ่งที่มีเหตุผล ขุนนางประเภทนี้พร้อมจะเผชิญหน้าและแจกแจกถึงข้อผิดพลาดของผู้บังคับบัญชา เป็นคนซื่อตรงที่ยอมเสี่ยงตายเพื่อส่วนรวมค่ะ
  • ไม่อยากบอกว่า ขุนนางประเภทนี้มีน้อยเต็มที  ส่วนใหญ่มักจะมองลู่ทางที่จะทำให้ตนพ้นภัยเป็นอันดับแรก 
  • "ขุนนางซื่อตรง" อาจจะมีแต่ในนิยายเท่านั้น
  • P สวัสดีค่ะพี่
  • ขอบคุณสำหรับคำติชมค่ะจะน้อมรับและจะพัฒนาการเขียนบทความของตัวเองขึ้นเรื่อยๆ
  • สำหรับภาคราชการนั้น มีทั้งดีและเสียค่ะ เหมือนเหรียญที่มีอยู่สองด้าน จึงต้องให้ความยุติธรรมในการมองทั้งสองด้านเสมอ
  • "ขุนนางดีมิค่อยพบ แต่ขุนนางเลวพบได้บ่อยๆ"(ความคิดเห็นส่วนตัว=ผมคนเดียว)  ไม่เพียงแต่พี่ค่ะ แต่ = นกด้วยค่ะ
  • อิอิ

 

  • P สวัสดีค่ะคุณแดนไทย
  • ภาพที่ blog ของคุณแดนไทย สวยมากค่ะ
  • อิอิ สงสัย คุณแผ่นดินจะทำให้ภรรยาแหง ๆ ๆเลยอิอิ
  • ขอบคุณค่ะ "สู้ ๆ  ๆต่อไปค่ะ"
  • ถึงวันนี้ คน จะไม่เห็น แต่เชื่อว่า "ฟ้าต้องเห็นค่ะ"
  • นกหวังเช่นนั้น"
  • สวัสดีค่ะ
  • "ถ้าขืน(มึง)ขัดขืนก็ระวังไว้เถิดว่า..ไม่มีวันจะผุดจะเกิด" ประโยคนี้
  • ที่นี่เขาเรียกว่า "โบกปูน" ค่ะ
  • คือไม่ต้องเห็นกันเวลาพิจารณาความดีความชอบ
  • ขอบคุณนะคะ
  • ขอบคุณP  ค่ะ
  • โบกปูนหรือค่ะ อิอิ
  • จะขอจำไปใช่นะคะ

ใครมีนายถ่ายเอกสารส่งไปก็ได้นะ ถ้าอยากมีเหตุอันไม่ควร อิอิ

สวัสดีครับ

        เป็นบันทึกที่ดีและมีประโยชน์มากครับ

        ประโยคข้างล่าง น่าจะเชย  แต่ก็ยังเป็นจริงอยู่ครับ

        ระบบราชการ   ค่าของคน  อยู่ที่คนของใคร

        ระบบเอกชน    ค่าของคน   อยู่ที่ผลของงาน

            ดังนั้น  ระบบราชการ จึงยังไม่ไปใหนไกลครับ

       ในวงการศึกษา   มีคุณครูผู้สอนท่านหนึ่งบอกว่า

       การปฏิรูปการศึกษา   ไม่ต้องไปทำอะไรมาก ไม่ต้องไปจัดอบรมหรือเปลี่ยนแปลงอะไรมากมาย

       ขอเพียงแต่ให้สองขั้นคนขยันสอนหนังสือ  แค่นี้  การศึกษาก็ไปไกลแล้ว

                 เอาแค่นี้ก่อนนะครับ 

  • P สวัสดีค่ะพ่อครูฯ
  • อิอิ ใครจะเอาถ่ายเอกสารไปให้แถมส่งฟรีให้ด้วยค่ะ
  • อิอิ
  • P  สวัสดีค่ะอาจารย์
  • กลอนไม่เชย  และยังใช้ดีในปัจจุบันด้วยค่ะ
  • ขอบคุณค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท