ในรอบปีที่ผ่านมามหาวิทยาลัยได้รับการประเมินภายนอก (จาก สมศ.) ในประเภท “มหาวิทยาลัยวิจัย” (น้ำหนักพันธกิจ ผลิตบัณฑิต : วิจัย : บริการวิชาการ : ทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม = 35 : 35 : 20 : 10) และได้รับผลการประเมินออกมาในระดับ “ดีมาก” ทั้งในภาพรวมระดับมหาวิทยาลัยและในมาตรฐานที่เกี่ยวกับการวิจัยและงานสร้างสรรค์
ในรอบปีที่ผ่านมาอีกเช่นกัน ที่ผลงานวิจัยได้ทำให้อาจารย์ของมหาวิทยาลัยได้รับรางวัลนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ดีเด่น ได้รับรางวัลนักเทคโนโลยีดีเด่น ได้เลื่อนตำแหน่งทางวิชาการเป็นศาสตราจารย์ ได้รับการชื่นชมจากผลงานทั้งที่เป็น basic research และที่ออกมาเป็น product จับต้องได้ ได้มีภาคีร่วมทำวิจัยที่เข้มแข็ง และได้ทำวิจัยแบบมีส่วนร่วมอย่างเคียงบ่าเคียงไหล่กับชุมชนในเขตภาคเหนือตอนล่าง (ABC Research) จนได้รับการยอมรับและชื่นชมโดยทั่วไป
ตัวบ่งชี้สำคัญที่ช่วยบ่งบอกสถานะปัจจุบันของการวิจัยของมหาวิทยาลัย 2 ตัวบ่งชี้ คือ เราอยู่ใน “ลำดับที่ 10” ของมหาวิทยาลัยไทยที่มีจำนวนการตีพิมพ์ผลงานวิจัยใน TCI Database ระหว่างปี 2545-2549 และเราอยู่ใน “ลำดับที่ 8” เมื่อดูจาก h-index ใน SCI-Expanded Database (ข้อมูลระหว่างปี 2544-2550)
ทั้งหมดนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่า IRDA ยังคงเป็นแกนนำสำคัญ ที่ทำให้เกิดการพัฒนานักวิจัย ระบบบริหารงานวิจัย และผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยอย่างเข้มแข็งและต่อเนื่อง
ดังนั้น เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ดียิ่ง ๆ ขึ้น ผมมีความเห็นว่า IRDA น่าที่จะพิจารณาให้ความสำคัญกับการดำเนินงานในรอบปีต่อไป ดังนี้
1. เชื่อมโยงเพื่อให้เกิดพลังเสริมซึ่งกันและกัน (synergy) ระหว่างงานวิจัยและงานบัณฑิตศึกษา
2. ดำเนินการเรื่อง virtual excellence center ให้เป็นรูปธรรม
3. เชื่อมโยงระหว่างการวิจัย การเรียนการสอน การบริการวิชาการ และการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม ให้เสริมพลังซึ่งกันและกัน ไม่ทำให้การวิจัยเป็นตัวขัดขวางการดำเนินงานของพันธกิจอื่น ๆ โดยการเน้นให้ทุกคนคิดและทำโดยใช้การวิจัยเป็นฐาน (research-based activity)
4. เสริมสร้างเครือข่ายวิจัย (research network) ให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
5. เสริมสร้างศักยภาพของ “นักวิจัย” ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นรวมทั้งการสร้างนักวิจัยหน้าใหม่เพิ่มเติม
6. สานต่อการพัฒนา “ผู้บริหารงานวิจัย” ให้รู้จักบทบาทหน้าที่ของตนเองและมีจำนวนมากเพียงพอกับการพัฒนางาน
7. พัฒนาตัว IRDA เองให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น จนเป็นแบบอย่างของ chaordic organization
สุดท้ายผมขออวยพรและให้กำลังใจทุกคนใน IRDA ให้ได้มีกำลังกายและกำลังใจที่จะช่วยกันฟันฝ่าอุปสรรคและเป็นแกนนำในการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัย ให้เป็นมหาวิทยาลัยวิจัย ให้เป็นที่ยอมรับในแวดวงวิชาการและเป็นประโยชน์กับสังคมและประเทศชาติ สมดังปณิธาณของมหาวิทยาลัยให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นต่อไป
วิบูลย์ วัฒนาธร
เรียนท่านรองวิบูลย์ ตามมาเรียนรู้ครับ
ขอบคุณครับท่าน อ.หมอ JJ ที่กรุณาเข้ามาทักทายและให้กำลังใจกันอยู่เสมอมา
สวัดีครับท่าน ผศ. ดร. วิบูลย์
ฟังท่านบรรยาย ในงาน เหลียวหลีงแลหน้าที่ ม.ทักษิณ ยังไม่อิ่ม ครับ ตามมาฟังต่อ
ภาคชาวบ้าน ก็ขอเข้ากระบวนการ KM ด้วยครับท่าน
ขอบคุณอาหารสมองที่ต้องเติมเต็มบำรุง อยู่เสมอครับ
ขอบคุณมากเช่นกันครับทั้ง บังหีม--ผู้เฒ่าnatachoei-- และ พันคำ ต่างฝ่ายต่างได้เรียนรู้จากกันและกันครับ วันที่ไป ม.ทักษิณ ผมก็ได้เรียนรู้ KM ภาคประชาสังคมเป็นอย่างมากเช่นกัน และยังอยากจะกลับไปเรียนรู้เพิ่มเติมถ้ามีโอกาสครับ
สวัสดีอีกครั้งครับท่าน รอง
ศวพถ. (ศูนย์ประสานงานเครือข่ายเพื่อการวิจัยและพัฒนาท้องถิ่น) เราทำงานเหมือนพรรคกะยาจกครับ
คือมีเครือข่ายทั่วภาคใต้ที่ไม่ปรากฎตัวตน
มีงานก็ประกาศกันมาช่วย กันด้วยความสมัครใจ
คณะทำงานเองก็รู้จักกันไม่หมด ส่วนใหญ่เป็นผู้พิการ
ที่สานเชื่อมงานให้ครับ มีงานยินดีแลกเปลี่ยนร่วมกิจกรรมครับ
"ศูนย์ประสานงานเครือข่ายเพื่อการวิจัยและพัฒนาท้องถิ่น "
"ไตรภาคีร่วมสร้าง สังคมน่าอยู่ ด้วยการจัดการความรู้ สู่สุขภาวะ"
612 ซอยแสนดี 3 ถนนแสนดีหมู่ที่ 1ตำบลท่ามะเดื่อ อำเภอบางแก้ว จังหวัดพัทลุง 93140 0897729573
อ่านบันทึกนี้ของท่านอาจารย์วิบูลย์แล้ว พวกเราอมยิ้มพร้อมๆ กันภายในห้องค่ะ
เหมือนได้รับกำลังใจอันอักโข เข้ามาเสริมสร้างส่วนที่สึกหรอก่อนหน้านี้
ขอบพระคุณกำลังใจอันแข็งแกร่งจากอาจารย์ที่มีให้พวกเราเสมอค่ะ ^^
ขอบคุณอาจารย์ที่ให้กำลังใจ..พวกเรา..
..และชี้นำ ให้ข้อคิดดีๆ ...เปิดมุมมองของเราให้กว้างขึ้น..
ขอบคุณสำหรับคำชี้แนะสำหรับก้าวต่อไปของ IRDA และกำลังใจที่อ.วิบูลย์มีให้พวกเราตลอดมา
ขอบคุณครับ
เสมอ ผอ. IRDA