• สภาพแวดล้อมขององค์กรมีผลต่อกิจกรรม KM
และมีผลต่อวัฒนธรรมองค์กร
• สภาพแวดล้อมภายนอก ขององค์กรหน่วยราชการ ไม่เอื้อต่อการทำ KM
แบบที่เป็น “ของแท้”
เพราะผู้ปกครองประเทศต้องการผลลัพธ์เร็ว และมีสภาพ
“ควบคุม – สั่งการ” (command & control) สูง
ทำให้ข้าราชการส่วนใหญ่คิดเองไม่เป็น
• สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
และไม่แน่นอน เอื้อต่อการทำ KM
เพราะหน่วยงานจะดำรงอยู่ได้ต้องเปิดรับและเรียนรู้สภาพภายนอก
นำมาเป็นสารสนเทศเพื่อการปรับตัวขององค์กร
• สภาพแวดล้อมที่มีการแข่งขันสูง ทั้งเอื้อและไม่เอื้อต่อการทำ
KM
ที่เอื้อเพราะองค์กรต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่อการอยู่รอดและอยู่ดี
ที่ไม่เอื้อเพราะทำให้การแบ่งปันแลกเปลี่ยนความรู้ทำได้ยาก
• สภาพแวดล้อมภายในองค์กรที่คนชื่นชมผลสำเร็จในการทำงานซึ่งกันและกัน
เป็นทั้งเหตุและผลของการทำ KM
การที่พนักงานชื่นชมต่อผลสำเร็จซึ่งกันและกัน
ทำให้เกิดความเคารพเห็นคุณค่าต่อกัน
เกิดบรรยากาศเชิงบวก ทำให้กิจกรรม KM
เดินได้สะดวก และเมื่อทำ KM
จนเนียนอยู่ในเนื้องานและชีวิตประจำวันในหน่วยงาน
พนักงานจะรักกันมากขึ้น คุยกันมากขึ้น คุยกันอย่างสนุก สดชื่น
และมีสาระ
ที่สำคัญพนักงานรู้สึกเป็นธรรมชาติที่จะแสดงความเห็นที่ต่างกัน
โดยไม่รู้สึกกลัว หรือรู้สึกว่าตนเก่งกว่า
• สภาพแวดล้อมภายในหรือบรรยากาศภายในองค์กรที่เปิดกว้างให้มีการนำเสนอ
และแลกเปลี่ยนความคิด ความรู้ และวิธีการที่ต่างกัน
รวมทั้งเปิดให้มีการทดลองวิธีทำงานใหม่ๆ
เพื่อเป้าหมายเดียวกัน
คือความสำเร็จตามวิสัยทัศน์ขององค์กร เป็น
“การเอื้ออำนวย” (empowerment) ให้เกิด KM ที่ทรงพลัง
• สภาพแวดล้อมเชิงกายภาพ ที่เอื้อให้พนักงานได้พบปะ พูดคุย
แลกเปลี่ยน กัน มีผลดีต่อ KM
• สภาพแวดล้อมเชิง “พื้นที่เสมือน” (virtual space)
ที่เอื้อต่อการ ลปรร. ทั้งที่เกี่ยวกับงาน
และที่ไม่เกี่ยวกับงาน มีผลดีต่อ KM
วิจารณ์ พานิช
๒๙ มีค. ๔๙ บนเครื่องบินไปอุดร
ปรับปรุง ๑ เมย. ๔๙
ไม่มีความเห็น