เมื่อวานได้เขียนบันทึกบทเรียนที่ได้จากชีวิตประวัติของผู้รอบรู้ในอิสลามผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง คือ อิมามฆอซาลี เป็นบทเรียนชีวิตเกี่ยวกับความอยากได้ตามอารมณ์กับภาระที่ต้องดำเนิน เป็นบทเรียนที่ท่านได้เล่าในชีวิตของท่านช่วงเวลาก่อนที่ท่านจะละทิ้งตำแหน่งอันใหญ่โต
วันนี้ขอเล่าบทเรียนอีกบทหนึ่งที่ท่านได้เขียนบันทึกเล่าประวัติชีวิตของท่านในช่วงแรกๆของการศึกษาเล่าเรียนของท่าน
อิมามฆอซาลีเป็นลูกชาวบ้านธรรมดา พ่อมีอาชีพทอผ้าด้วยขนแกะ พ่อได้เสียชีวิตตอนที่ท่านยังเด็ก เพื่อนของพ่อได้ช่วยดูแลและสั่งสอนทั้งตัวท่านและน้องชายของท่าน แต่เพื่อนของพ่อก็เป็นคนยากจน ท่านก็จำเป็นต้องเดินทางไปยังเมืองอืน(ตูส) จากตูสท่านก็ต้องไปศึกษาเพิ่มเติมยังเมืองญัรญาน และจากการไปศึกษาที่นั้นบทเรียนบทหนึ่งที่ท่านได้รับตอนกลับมาได้จากโจรที่ปล้นทรัพยสินของท่านในระหว่างการเดินทาง...
ในปี ค.ศ. 465 อิมามอัลฆอซาลีได้เดินทางไปยังเมืองญัรฺญาน (เมืองโบราณอยู่ห่างจากเมืองตูสประมาณ 160 กิโลเมตร อยู่ทางภาคตะวันออกของประเทศอิหรานในปัจจุบัน) และได้เล่าเรียนจากอาจารย์ท่านหนึ่งมีชื่อว่า อัชชีค อะบู นัศรฺ อัล-อิสมาอีลี
ระหว่างที่กำลังศึกษา อิมามฆอซาลีนับเป็นนักเรียนที่ขยันมั่นเพียรในการศึกษาหาความรู้มาก เขาได้จดบันทึกทุกอย่างที่ได้เรียนรู้จากอาจารย์และได้คัดลอกสิ่งที่จดบันทึกไว้ใหม่เรียบเรียงในหัวข้อที่แน่นอน และเขารักกระดาษบันทึกเหล่านั้นมาก
เมื่อสำเร็จจากการศึกษาที่เมืองญัรฺญานแล้ว ในปี ค.ศ.470 อิมามอัลฆอซาลีก็ได้เดินทางกลับไปยังเมืองตูส ในการเดินทางกลับนั้นเขานำกระดาษบันทึกของเขาซึ่งเขารักมากมัดอย่างแน่นหนานำกลับไปด้วย ระหว่างทางกองคาราวานของเขาถูกโจรปล้นเอาทรัพย์สินทุกอย่างของผู้เดินทาง และเมื่อโจรมาจับต้องถุงมัดกระดาษบันทึกของอิมามอัลฆอซาลี เขาก็กล่าวกับโจรว่า
“เอาไปเถอะ เอาไปทุกอย่างเลยที่เจ้าต้องการ ขออย่าเอาถุงนี้ไป”
เมื่อโจรได้ยินเช่นนั้นก็ยิ่งคิดว่าภายในถุงนี้คงเป็นทรัพยสินที่มีราคามาก จึงรีบเปิดถุงและพบว่าเป็นกระดาษที่เขียนแล้ว จึงพูดว่า
“อะไรนี่ ?”
อิมามอัลฆอซาลีก็ได้ตอบว่า
“เหล่านี้เป็นสิ่งที่ได้จากหยาดเหงื่อของฉัน เพราะมันทำให้ฉันต้องจากบ้านเมืองถิ่นฐานที่ฉันอยู่เพื่อมันมา ฉันได้ยิน ได้ฟังและได้จดบันทึกความรู้เหล่านั้นบนกระดาษนี้”
โจรคนหนึ่งได้หัวเราะเยอะและกล่าวว่า .. “เจ้าจะมาอ้างว่า..เจ้าได้ความรู้มาได้อย่างไร ถ้าเราได้เอาถุงกระดาษบันทึกของเจ้าไป ความรู้ของเจ้าก็จะหมดไป ความรู้ที่เจ้าบันทึกบนกระดาษเหล่านี้ไม่ใช่ความรู้ที่แท้จริง” พวกโจรก็ได้คืนถุงกระดาษบันทึกนั้นแก่อิมามอัลฆอซาลี และคำพูดของโจรทำให้เขารู้ตัวและได้เปลียนวิธีคิด หลายปีต่อมา เมื่ออิมามอัลฆอซาลีได้ระลึกถึงเหตุการณ์ที่เขาถูกปล้นครั้งนั้น เขาได้กล่าวว่า “คำพูดของโจรคนนั้นเป็นคำพูดที่อัลลอฮฺกระตุ้นให้เขาพูดเช่นนั้น ฉันได้รับทางนำจากคำพูดนั้น เมื่อฉันได้เดินทางกลับถึงตูสฉันก็ทำงานหนักเป็นเวลา 3 ปี จนฉันสามารถท่องและจดจำทุกอย่างที่ฉันได้จดมา” อิมามอัลฆอซาลีได้กล่าวว่า “คำตักเตือนที่ดีที่สุดที่ทำให้ฉันเปลี่ยนวิธีคิดของฉัน ฉันได้รับจากโจรที่มาปล้นทรัพยสินระหว่างทาง”
ผมเป็นคนหนึ่งเวลาเรียนหรือศึกษาสิ่งใดแล้วชอบจดบันทึกลงในกระดาษ และชอบซื้อหนังสือสะสมไว้ การจดบันทึกและการซื้อหนังสือนั้นเป็นสิ่งที่ดีมาก แต่ปัญหามันเกิดขึ้น..เมื่อกระดาษ หรือสมุด หรือหนังสือเหล่านั้นได้สูญหายไป ความรู้ที่มีอยู่ติดตัวผมคงมีไม่มากเลย...
ผมอ่านข้อความของอาจารย์แล้ว ชอบมากครับ เป็นบทเรียนอันทรงคุณค่ามากครับ
เพราะบทเรียนจากท่านฆอซาลีมันกำลังสอนอะไรให้แก่ผม และคิดว่าจะเอาเรื่องเล่าของบันทึกนี้ซึ่งเห็นภาพมากๆไปสอนเด็กครับ...อินชาอัลลอฮฺ ขออัลลอฮฺทรงตอบแทนและคุ้มครองอาจารย์ครับ
ผมเห็นด้วยครับ แต่ถามว่าวัยของเรานี้มันรับอะไรมากๆ ไม่ไหวแล้ว หรือแม้กระทั่งจะไปบังคับเด็กให้ท่องทุกคำทุกตัวมันไม่ได้
แต่ยังจำสุภาษิตบทหนึ่ง สามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้
เค้าว่า.......จำดีกว่าจด แต่ถ้าจำไม่หมดจดดีกว่าจำ
ยังใช้ได้อีกหรือเปล่ากับปัจจุบัน
เป็นคนหนึ่งที่ชอบบันทึก แต่บันทึกไม่จบสักที่..
ไปร้านหนังสือ เจอสมุดไดอารี่ เล่มเล้กก้ซื้อมา แต่พอลงมือเขียน เขียนไปไม่กี่คำก็เจอปัญหาบางหละ
เหมือยมือบาง
คิดไม่ออกบาง..
หลังจากนั้น จึงบันทึกในหัวใจ ไม่ได้ลงมือบันทึกอะไรเท่าไร
แม้แต่ บรรยายเคมี ก็จะจดจำ และจะฝึกเขียน ฝึกเขียนเสร็จก็ทิ้ง
ป้องกัน ให้หัวใจเต็มไปด้วยความรู้..
แต่บางครั้ง มันก็ลืมๆ...
สลามครับอาจารย์ อ่านแล้วได้ความรู้ครับ ขอพระเจ้าทรงโปรด