สวัสดีค่ะ ท่าน
ขอบคุณค่ะ ที่ให้เกียรติมาเยี่ยมเยียนกันนะคะ
- ตามอ่านบันทึกอยู่นะคะ
- นับถือท่านเบดูอินนะคะ เพราะอธิบายหลักศาสนาให้เป็นเรื่องที่เข้าใจง่ายได้ดีมากค่ะ ๆ
- ขอบคุณค่ะ
- (^_^)
17.ศาสนาพุทธที่มุสลิมพึงเข้าใจ และอิสลามที่พุทธพึงรู้จัก 3
ทุกศาสนามีคำสอนจำแนกได้เป็นสามส่วน
ศาสนาพุทธที่มุสลิมพึงเข้าใจ และอิสลามที่พุทธพึงรู้จัก 3
อย่างไรก็ตาม ภารกิจที่ท่านศาสดาทำนั้นก็มิได้จำกัดอยู่เพียงแต่ศาสนาของคนอาหรับเท่านั้น แต่ท่านศาสดามีภารกิจที่กว้างขวางเช่นเดียวกันกับที่กล่าวไว้กับพระพุทธเจ้า ดังที่ปรากฏในพระมหาคัมภีร์อัล-กุรอ่านว่า “ท่านศาสดาเป็นความเมตตาต่อมนุษยชาติ” (21: 107) หากเราพิจารณาคำสอนของศาสนาต่างๆแล้ว เราจะเห็นว่า ทุกศาสนามีคำสอนที่อาจจะจำแนกได้เป็นสามส่วนเหมือนๆกันคือ
ส่วนแรกของคำสอนจะเป็นเรื่องของการกล่าวถึงความจริงของโลกและชีวิต คำสอนในส่วนนี้จะพยายามอธิบาย ความเป็นจริงของโลก ความเป็นจริงของชีวิต ในประเด็นนี้มุมของแต่ละศาสนาจะแตกต่างกัน ศาสนาที่ไม่กล่าวถึงเรื่องพระผู้เป็นเจ้า ในฐานะพระองค์ผู้สร้างสรรพสิ่ง ก็จะอธิบายสรรพสิ่งมันเป็นไปตามที่มันเป็น(ตถตา)การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ดับไปของสิ่งต่างๆเป็นไปตามที่มันเป็น ในแง่นี้พระเจ้าไม่เข้ามามีส่วนในการอธิบายความเป็นไปของสรรพสิ่ง พุทธศาสนาเป็นศาสนาหนึ่งที่มีลักษณะเช่นนี้ ส่วนศาสนาอิสลามนั้น อธิบายความเป็นจริงของโลกและชีวิต โดยมีพระเจ้ามาเป็นส่วนประกอบหลัก เป็นฐานของความเป็นไปของทุกสรรพสิ่ง การเกิดขึ้นตั้งอยู่ ดับไป ของสรรพสิ่ง เป็นไปได้โดยมีพระเจ้าเป็นฐานความคิดในการอธิบายในสิ่งต่างๆจึงเป็นไปโดยเดชานุภาพของพระผู้เป็นเจ้า (กุดเราะฮ์)มิได้เป็นไปโดยตัวของมันเองเราอาจจะเรียกส่วนนี้ว่าเป็น สัจธรรม ของศาสนาก็ได้
ในส่วนที่สองของคำสอนทางศาสนา จะเป็นการชี้แจงแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่ศาสนาเชื่อว่า เป็นสิ่งที่ดีที่มนุษย์พึงประพฤติปฏิบัติหรือการบอกให้เห็นถึงสิ่งที่มนุษย์พึงละเว้น หรือห่างไกล คำสอนส่วนนี้ของพุทธศาสนา เรียกว่า “มัชฌิมาปฏิปทา” ซึ่งอาจจะแสดงออกมาในคำสอนเรื่องต่างๆ เช่น มรรค 8 ศีล 5 ธรรม 5 หิริ-โอตัปะอิทธิบาท 4 เทวธรรม อุโบสถศีล ทศพิธราชธรรม เป็นต้น ส่วนในอิสลามจะเรียกเนื้อหาส่วนนี้ว่า “ชะรีอะฮ์” หรือ “ทาง” อันเป็นบทบัญญัติที่พระเจ้าทรงกำหนดว่าการกระทำใดดี การกระทำใดชั่ว การกระทำใดพึงกระทำ การกระทำใดพึงละเว้น เช่นเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ การบริจาคทาน การไม่เป็นพยานเท็จ การประพฤติดีต่อญาติพี่น้อง และเพื่อนบ้าน การไม่ประพฤติผิดทางเพศ การไม่คดโกง เป็นต้น เนื้อหาของศาสนาในส่วนนี้เราอาจเรียกได้ว่า เป็นคำสอนประเภทศีลธรรม
ในส่วนที่สาม เป็นเรื่องเกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติ ข้อบัญญัติของศาสนา โดยลักษณะที่เป็นเนื้อหาของการประพฤติแล้ว มันไม่มีความหมายในการตัดสินว่าดีหรือชั่ว ในตัวของมันเอง แต่ศาสนามีความเชื่อว่า หากบุคคลใดได้ปฏิบัติตามคำสอนนี้วิถีปฏิบัติเช่นนี้ หากประพฤติอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอแล้ว การปฏิบัติเช่นนี้จะนำคนไปสู่ การยึดมั่นอยู่ในความดี ตามที่กล่าวไว้ในคำสอนที่สอง ดังที่กล่าวมาแล้ว คำสอนในส่วนนี้ เช่น การทำบุญตักบาตร ทำวัตร สวดมนต์ ไหว้พระ ไปวัด เป็นต้น ในศาสนาอิสลาม ก็มีคำสอนในเรื่องนี้ เช่น การละหมาด(นมาซ-นมัสการ) การถือศีลอด การไปละหมาดที่มัสยิดในวันศุกร์ หรือวันสำคัญอื่นๆ เช่นวันตรุษทั้งสอง การวางแนวประพฤติในส่วนนี้ ศาสนาจะวางคุณค่าไว้ว่า เป็นเรื่องที่ทำแล้วจะได้รับผลบุญมากน้อยตามลักษณะของพิธีกรรมนั้นๆ เราอาจจะเรียกคำสอนส่วนนี้ ของศาสนาว่าเป็นเรื่องของพิธีกรรม
หมายเลขบันทึก: 226122เขียนเมื่อ 28 พฤศจิกายน 2008 20:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 03:39 น. () สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (26)
ตามมาอ่านและแวะมาทักทายครับ
สบายดีไหมครับ
สวัสดีครูโย่ง มาเร็วปานจรวดเลยนะ สบายดีครับ ร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ดีนะ ครูคิดเหมือนผมไหม ให้นักเรียนเข้ามาอ่านใน gotoknow ครูแทบไม่ต้องสอนเลยแถมได้ความรู้หลากหลาย
สวัสดีค่ะ
แวะมาอ่านแบบรวดเร็วก่อนค่ะ
ถ้ามีเวลามากกว่านี้จะมาอ่านแบบละเอียดๆ นะคะ
สวัสดีค่ะ
- พี่คิมจะขออนุญาต..คัดลอกเป็นเอกสาร
- ไปฝากครูที่สอนสาระสังคมฯ นะคะ
- ขอขอบคุณค่ะ
- พี่คิมเป็นกำลังใจให้นะคะ
-สวัสดีน้องแจ๋ว(น่าจะจำไม่ผิด)อ่านแบบรวดเร็วเป็นอย่างไรบอกด้วยนะ
-สวัสดีพี่สาว เชิญเลยครับ พี่คิมครับผมไม่มีที่จะเก็บกำลังใจแล้วนะ
- ความจริงของชีวิต เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเข้าใจและเข้าให้ถึง
- ยินดีที่ได้ร่วมแลกเปลี่ยน ครับ
สวัสดีเจ้าค่ะ น้าเบดูดิน
สบายดีหรือเปล่าค่ะ รักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ รักและคิดถึงบวกห่วงใยเสมอค่ะ...หนูจิ
ชอบบันทึกนี้จังเลยครับ...ทำให้ผมเห็นภาพความเชื่อมโยงระหว่างศาสนาพุทธและอิสลามมากขึ้น
ตอนนี้ผมกำลังศึกษาจริยธรรมการพัฒนาสังคมของแต่ละศาสนา หากได้ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในส่วนจริยธรรมของศาสนาอิสลามในโอกาสข้างหน้าก็จะขอบคุณยิ่งครับ...
ย่ามแดง
สวัสดีครับ ครูปูถ่ายภาพเก่มากครับ ก็ผมไปอ่านบันทึกของครูปูนั้นแหละ ทำผมให้ผมถึงเขียนเก่ง ครูปูจำคำโบราณได้ไหมที่ว่า น้องปูเดินตามพี่ปูนะ
สวัสดีครับ ท่านพงษ์สักดิ์ ครับยินดีมาก ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยม
สวัสดีจ้าหลานจิ น้าแอบไปดูหนูจิตอบน้าแล้ว ขอบใจมากที่เป็นห่วง มีบวกห่วงใยแล้วคูณหารละหนูไม่มีรึ
สวัสดีครับยามแดง ท่าคุณเท่มากๆๆ ยินดีมากครับเป้าหมายผมต้องให้เราอยู่ร่วมกันด้วยความเข้าใจ เป็นไปได้ไหมสมมุติว่าผมมีโอกาสไปเที่ยวบ้านท่านถึงเวลาละหมาดผมก็ละหมาดที่บ้านท่านเลย ครั้งหนึ่งผมสนทนากับพระกิติศักดิ์ ถึงเวลาละหมาดพระบอกว่าคุณสมเดชได้เวลาละหมาดแล้ว ผมก็ละหมาดที่นั้นเลย ท่านภาพแบบนี้น่ารักไหมครับ
สวัสดีค่ะได้ความรู้มากจริงๆอยากให้ทั้งคนพุทธและมุสลิมได้อ่านค่ะ
สลามมคุณเบดูอิน พิธีกรรม เราติดกับดักของพิธีกรรม
หลายๆพิธีกรรม ของพรามหํ ลามมาอยู่ในพทธ แล้วหลุดติดอยู่ที่
อิสลาม ก็หลายพิธิกรรมอยู่ ต้องช่วยกันชี้แนะ
แยกแยะบอกกล่าวให้รู้ว่าส่วนไหนเป็นเรื่องศาสนา ส่วนไหนเป็นประเพณี
สวัสดีค่ะ ขอชมว่าคุณเข้าใจเปรียบเทียบทำให้เกิดความเข้าใจมาก
-สวัสดีคุณวันดี ก็อยากให้อ่านจะได้สมานฉนันท์
สลามยามเช้า บังหีมเมื่อคืนน่าจะนอนดึกรักษาสุขภาพด้วยนะ สิ่งที่บังหีมว่ามาถูกต้องผมถึงต้องทำความเข้าใจและเปรียบเทียบเราจะได้รู้ พระท่านหนึ่งบอกผมว่าในพุทธมีพรามห์ปนอยู่มาก แต่ในอิสลามต้องระวังเพราะศาสนาอิสลามมีกฎข้อหนึ่งคือ มุรต้ด คือตกศาสนา ฉะนั้นท่านที่มีเพื่อนเป็นมุสลิมอย่าไปรำคาญเขาที่อันนี้ก็ไม่ได้อันโน้นก็ไม่ได้ เขากลัวตรงนี้ครับ จริงไหมบังหีม
สวัสดีครับคุณสุนี เพราะผมเข้าใจว่าสิ่งที่อยากที่สุดคือการทำให้คนเข้าใจครับ
สวัสดีครับคุณสนี เพราะทราบว่าสิ่งที่อยากที่สุดก็คือ การทำให้คนเข้าใจ
สวัสดีค่ะคุณเบดูอิน ชอบมากบันทึกนี้ได้ความรู้ทั้งสองทาง
สวัสดีเจ้าค่ะ น้าเบดูอิน
คิดถึง+ห่วงใย คูณกำลังใจ ใส่สแควรูด อิอิ ไม่มีลบไม่มีหาร มีแต่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ติดรูดเลยจะได้ไม่แปรค่าอีก อิอิ ...หนูจิ
สวัสดีหลานจิ หนูเล่นตอบแบบนี้ น้าเลยโนคอมเมนต์ มีความสุขครับ
มาขอบพระคุณ ลุงสมเดช เบดูอิน ที่มาสุขสันต์วันเกิดน้องพอ ตั้งห้าเม็นท์ เน้อเจ้า
ครูเก่า อ.ว.ท.
สลามเบดูอิน สนับสนุนสิ่งที่กำบังทำอยู่เพือสันติในสังคม
-สวัสดีครูใหม่ หนูน่ารักจัง
-ครูเก่า อ.ว.ท.ขอบคุณมากๆ