หมอเจ๊ คนสวย แซ่เฮ
พ.ญ. ศิริรัตน์ เอกศิลป์ สุวันทโรจน์

ส่งการบ้านครูบา(เจ้าเป็นมาอย่างไร๗)


ความไม่จริงใจของผู้ใหญ่รอบข้างมีผลต่อการเรียนรู้ของเด็ก และทำให้เด็กตัดสินใจตัดเสื้อที่มองไม่เห็นคลุมกาย อันเป็นเสื้อที่ความจริงแล้วผู้ใหญ่ก็ไม่ปรารถนาจะให้เกิดขึ้นหรอก

จำได้ว่าตอนก่อน ฉันเล่าว่าเด็กน้อยระอากับความรู้สึกถูกเปรียบเทียบ อันที่จริงเธอได้บอกไว้ด้วยว่า แม้เธอระอาที่แม่ชอบเปรียบเทียบเธอกับลูกบ้านอื่นเธอรับรู้และสัมผัสได้ว่าที่แม่เปรียบเทียบอย่างนั้นเพราะแม่รักอยากให้เธอได้ดี แต่แม่ไม่รู้เอ่ยบอกอย่างไรสอนอย่างไรให้เธอเข้าใจได้ แม่เลยใช้สไตล์ที่ครูมักใช้ในการสอนมาใช้กับลูก อ้าว!ลืมไปแล้วหรือไรว่าแม่ของเด็กน้อย เอ๊ย! สาวน้อย เป็นอดีตครูคนหนึ่งที่ลือชื่อในสมัยนั้น

เหตุผลที่แม่ของสาวน้อยมีชื่อดังเป็นเพราะฝีมือและฝีปากค่ะ ฝีมือนั้นเป็นเรื่องการเย็บปักถักร้อย ประดิษฐ์ ประดอย แกะสลักทั้งหลายเป็นเลิศไม่รองใคร ที่ไหนมีงานต้องการใช้ดอกไม้สดประดิษฐ์โดยใช้ฝีมือเย็บจัดให้สวยงาม ที่นั่นปรากฏเงาแม่ของเธอเสมอ

ฝีมืออีกด้านที่น่าทึ่งสำหรับคนเมืองกรุงก็คือ ด้วยความรู้แค่ป.4 ที่ไม่เคยเรียนเรื่องการตัดเสื้อผ้าจากโรงเรียนดังที่ไหนเธอสามารถตัดเสื้อผ้าได้สวยงาม พลิกแพลงแบบโดยไม่ต้องสร้างแบบเลยละ วัดตัวแล้วตัดเย็บเอาสดๆยังงั้นเชียว หรือหากไม่ได้วัดตัวไว้ ขอแค่ตัวอย่างชุดที่ใส่พอดีๆสักชุด เดี๋ยวก็ได้ชุดที่สวยงามใส่ได้เลย แบบรึไม่ต้องดูแคตตาลอก แค่บอกว่าอยากได้สวยๆเดี๋ยวได้มา

 

ฝีปากแม่อยู่ที่เสน่ห์ความช่างเจรจา เพื่อนๆแม่เอ่ยเล่าให้ได้ยินว่าหากจะไปกรุงเทพฯโดยการขับรถไป-กลับ ถ้ามีแม่นั่งไปด้วยละก็คนขับไม่มีหลับในเลย ใครที่ขับรถคนเดียวจะนึกถึงแม่เสมอ เวลามีงานการที่ไหนหากว่ามีแม่ไปอยู่ตรงนั้นด้วย ความมีชีวิตชีวาเกิดขึ้นมาทันที ฉันวาดภาพแม่ที่สาวน้อยเล่าให้ฟังแล้ว ความเข้าใจเกิดขึ้นทันทีว่าทำไมเวลาสาวน้อยเป็นคนพูดน้อยที่สุดเมื่ออยู่ในหมู่เพื่อน แหม! ก็แม่เธอฝึกทักษะการฟังให้เธอซะจนคุ้นชิน

 

เรื่องที่สาวน้อยเล่ามาแล้วดูเหมือนมีเรื่องดีๆที่ฟังแล้วมีความสุขซะนัก น่าฉงนใจอยู่นะค่ะว่า เอ! แล้วในครอบครัวเธอไม่มีเรื่องทุกข์เศร้าเอาซะเลยรึยังไง เธอตอบกับฉันว่า มีอยู่หรอกเรื่องทุกข์นะน่ะ เพียงแต่ว่าเธอคิดว่ามันเป็นอดีตไปแล้ว เธอไม่ทุกข์กับมันแล้วเพราะว่าไปแก้อะไรมันไม่ได้ ทุกข์แล้วไม่ได้อะไรขึ้นมาเลยนี่ เธอบอกว่าเรื่องราวที่เธอเล่าในบางเรื่องนั้น ตอนที่เกิดเหตุการณ์ขึ้นเธอไม่ได้รู้สึกดีอย่างที่กำลังเล่าให้ฟังเท่าไร มันมีความสับสนในใจหลายอย่างเกิดขึ้นกับเธอมากมายตอนที่มีเหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้น

 

เรื่องหนึ่งที่เธอรู้ตัวว่าเป็นความเปราะบางที่ติดตัวมันจนเติบใหญ่เป็นเรื่องของการต้องเผชิญอารมณ์ของผู้ใหญ่ในหลายๆรูปแบบ เพื่อนแม่ภรรยาคุณหมอที่เล่าไว้เป็นคนสำคัญคนหนึ่งที่ทำให้เธอตัดสินใจเลือกวิถี  เพื่อนแม่เมียคุณหมอคนนี้ซึ่งเธอเรียกว่าคุณป้า ดูเหมือนเอ็นดูเธอไม่เบาเมื่อเธอเข้าไปชิดใกล้ เธอได้ไปมาหาสู่ครอบครัวนี้เป็นประจำจนกระทั่งวันหนึ่งเธอไปได้ยินคำพูดที่คุณป้าพูดให้ได้ยินว่า เหตุผลที่ต้อนรับเธอนั้นเป็นเพราะว่าลูกสาวป้าดูดีเมื่อมีเธอด้วย เธอเริ่มสัมผัสว่าผู้ใหญ่ที่เธอนับถือไม่จริงใจกับเธอ มันมีคำตัดสินในใจเธอเกี่ยวกับวิถีของเธอเกิดขึ้นนับแต่บัดนั้น ความไม่ชอบความคิดของผู้ใหญ่ที่มีต่อเธอทำให้สาวน้อยใคร่ครวญไตร่ตรองเรื่องการวางระยะห่างในความสัมพันธ์กับผู้ใหญ่บางคนที่มีลักษณะเฉพาะตัว ติดมาจนโต

 

คุณป้าคือคนที่นำโอกาสมาให้เธอได้สัมผัสและเรียนรู้สังคมไฮโซ คุณป้าพาเพื่อนและเธอไปร่วมงานราตรีแห่งหนึ่งซึ่งจัดขึ้นที่หอประชุมใหญ่ของจังหวัด งานราตรีนี้คืองานแรกที่เธอได้รู้เห็นรูปแบบของงานเต้นรำ-งานเลี้ยงกลางคืนของผู้ใหญ่ ได้รู้และเห็นการดื่มกินเครื่องดื่มไฮโซเช่นสุรา

 

ฉันเห็นภาพของสาวน้อยที่มีความตื่นเต้นกับการเตรียมเสื้อผ้าในวันก่อนไปงาน ตามมาด้วยภาพเธอใส่ชุดแสคสีเหลืองกำลังห่อเหี่ยวด้วยความรู้สึกแย่ๆอยู่ในงาน ความรู้สึกแย่ในคืนนั้นเกิดจากความไม่มั่นใจในเครื่องแต่งตัวของตัวเองจากคำพูดทักทายที่ไม่จริงใจของผู้ใหญ่ที่ไปร่วมงาน ความไม่คุ้นเคยกับการแต่งตัวด้วยชุดแสคทำให้ไม่มั่นใจ การไม่รู้จักท่าเต้นระบำ-เต้นรำจังหวะยอดฮิต ชะ-ชะ-ช่า ที่ใครๆสนุกกัน แม้แต่เพื่อนสาวของเธอ ทำให้เธอเบื่อตัวเอง

 

ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่าความรู้สึกแย่ๆในคืนนั้นมันติดหลอนความรู้สึกเธอมาจนโต มิน่าเมื่อเธอไปงานกลางคืนเมื่อไหร่ เธอจึงไม่มั่นใจตัวเองเอาซะเลย  ยิ่งถ้าเป็นงานที่มีการเต้นรำด้วยละก็ เธอจะหนีหน้าเมื่อจังหวะชะ-ชะ-ช่าดังขึ้น วันนี้ได้รู้เรื่องนี้ ฉันไม่แปลกใจแล้วค่ะว่าทำไมเธอจึงไม่เคยเต้นรำจังหวะชะ-ชะ-ช่าได้เลยแม้จะมีครูเก่งอย่างไรมาฝึกเธอ เธอเต้นเป็นหลายรอบมาแล้วแต่กลายเป็นเธอก็ลืมเป็นทุกทีไปละน่า เหลือไว้แต่สถานภาพ "เคยเต้นได้" อยู่ร่ำไปลงมือเต้นเมื่อไรก็ไม่ได้จนบัดนาว

 

บทเรียนรู้จากชีวิตจริง

ความไม่มั่นใจของเด็ก เป็นตัวปิดกั้นการเรียนรู้ที่สำคัญที่ติดตัวมาจนโต โดยเจ้าตัวก็ไม่รู้ การปิดกั้นที่เกิดแล้วนี้แก้ยากมากนะ

 

การมีฝีมือที่งดงามได้มาจากการลงมือทำบ่อยๆซ้ำๆจนเกิดจินตนาการและแรงบันดาลใจ

 

ความไม่จริงใจของผู้ใหญ่รอบข้างมีผลต่อการเรียนรู้ของเด็ก และทำให้เด็กตัดสินใจตัดเสื้อที่มองไม่เห็นคลุมกาย อันเป็นเสื้อที่ความจริงแล้วผู้ใหญ่ก็ไม่ปรารถนาจะให้เกิดขึ้นหรอก

 

 

Keywords:

อดีตเป็นบทเรียนที่ทำให้เข้าใจความเป็นมาแห่งตน อดีตเป็นบทเรียนได้ก็ต่อเมื่อรู้จักใช้มันเชื่อมโยงเข้ากับวิถีของตน เชื่อมโยงได้แล้วจะได้คำตอบเรื่อง ทุกข์ในใจ ทักษะที่ฝึกยาก-ยากมากของตน เมื่อเข้าใจวิถีแห่งตนแล้ว ทุกข์ที่เคยให้ค่าจะด้อยค่าลงทันทีและจะไร้ค่าในที่สุด แล้วความสุขที่เกิดจากความเข้าใจจะหวนเข้ามาทดแทนทันทีเช่นกัน

หมายเลขบันทึก: 226132เขียนเมื่อ 28 พฤศจิกายน 2008 21:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 03:39 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (20)

-สวัสดีค่ะ พี่หมอเจ๊

-ครูต้อยมาเรียนรู้ค่ะ

-การบ้านพี่หมอเจ๊ชวนติดตามและสนุก

-มองเห็นที่มาของความสำเร็จในเด็กน้อยคนหนึ่งค่ะ

-ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะ

  • ได้อ่านบันทึกความรู้สึกของเด็กหลายคน โดยเฉพาะเด็กหญิง เขาบอกว่า..ไม่ชอบที่พ่อแม่มักจะนำเขาไปเปรียบเทียบกับลูกของบ้านอื่นค่ะ
  • ความไม่มั่นใจ..เป็นทุกข์ในใจจริง ๆ นะคะ
  • รอติดตามอ่าน..ค่ะ
  • ขอขอบคุณค่ะ
  • ตามมาอ่านครับพี่หมอเจ้
  •  พี่หมอเจ้ สบายดีไหมครับ
  • กระบี่โอเคไหมครับ
  • เป็นห่วงและคิดถึงครับ

สวัสดีค่ะคุณหมอเจ๊ที่รัก...สบายดีไหมคะ - - นู๋ปุ้ยคิดถึงเลยแวะมาเยี่ยมค่ะ

จะไปนอนแล้ว เดี๋ยวขอมาอ่านเรื่องวันพรุ่งนี้นะคะ

ฝันดีนะคะ...

สวัสดีครับคุณหมอเจ๊ คนงาม แซ่เฮ

ตามมาดูเด๊กน้อยแล้วเก็บซับความรู้สึกดีๆ ในความคิดของเด็กน้อยไปเป็นบทสอนใจครับหมอ

สวัสดีค่ะ คุณหมอที่รักและคิดถึง

  • ครูอ้อย มาตั้งใจอ่าน ความหลังที่น่ารักและแสนดีของคุณหมอแล้วนะคะ
  • คิดถึงเหลือเกิน.....ซึ้งกับความสุขที่ได้รับ
  • วันนี้ครูอ้อยจะไปนอนกับคุณพ่อคุณแม่.....

รักและคิดถึงเสมอค่ะ

  • krutoi ค่ะ
  • อดีตที่รำลึก มันสอนใจได้อีตรงที่
  • ทำให้เราเข้าใจผลที่ว่า
  • มีเหตุเป็นมาอย่างไร
  • ที่ยากกว่าก็จะเป็นเรื่อง
  • การรำลึกอย่างไรไม่ให้กลุ้ม
  • เพื่อจะได้รับรู้เหตุอย่างเข้าใจค่ะ
  • ครูคิม ค่ะ
  • ประสบการณ์จากเลี้ยงลูก
  • พี่ยืนยันคำกล่าวของเด็กค่ะ
  • ประสบการณ์จากตัวพี่เอง
  • พี่ไม่เคยเปรียบเทียบลูกพี่กับลูกใคร
  • แต่ที่พลาดทำลงไปก็มีบ้าง
  • เผลอเปรียบเทียบพี่น้องด้วยกัน
  • คนเล็กกว่า ด้อยกว่า เขาไม่เข้าใจ
  • ไปคิดว่าลำเอียงเสียละนี่
  • เวลาพูดจึงยากในการ
  • ให้เขาฟังเหตุผลของแม่
  • ......
  • ครูเหมือนแม่ของเด็กๆนะค่ะ
  • ระวังจะเจอบทเรียนเหมือนพี่
  • ที่ดีกว่าที่มองเห็นในวันนี้
  • การหาวิธีสะท้อนให้เด็กเอง
  • มองเห็นสิ่งเราอยากบอกได้นั้น
  • เป็นวิธีที่ทำให้เขาเข้าใจเรา
  • .......
  • การช่วยเหลือที่ทำได้ทำไปแค่
  • เป็นฑูตต่อในเรื่องที่เขาพูดเองไม่ได้
  • ด้วยคนที่เด็กอยากพูดให้ฟัง
  • ไม่ฟังเด็กอย่างที่เขาคาดหวังไว้
  • ........
  • การที่ผู้ใหญ่ฟังเด็กแล้วย้อนบอก
  • สิ่งที่คิดออกไปให้เด็กรู้
  • เด็กเขาก็เกิดความไม่มั่นใจ
  • ด้วยเขาไปคิดว่าคิดผิดแล้วตู
  • ผิดไปอีตรงที่คาดผิดว่า
  • ผู้ใหญ่ฟังเขาอยู่และยอมรับได้
  • เป็นแบบนี้บ่อยๆเด็กเลยใช้
  • วิธีดื้อเงียบใส่หรือไม่พูดจา
  • ไม่ออกความเห็นให้ผู้ใหญ่ได้รู้
  • ทำให้เด็กเขาเครียดและซึมไป
  • ........
  • มีครูอย่างครูคิมอยู่ พี่รู้สึกดีจังค่ะ

สวัสดีค่ะ

  • ทำให้ย้อนคิดกับความรู้สึกของเด็ก ๆ ..บางคนที่เขาเขียนบันทึกความรู้สึกที่มีต่อครูคิม เรามีข้อตกลงค่ะ เมื่อจบการประเมินแต่ละหน่วยการเรียน  นักเรียนต้องประเมินตนเอง และประเมินครูด้วย
  • คนที่ 1 : ผมไม่ชอบมาก ๆ เมื่อครูตำหนิผมต่อหน้าเพื่อน ๆ ในห้องเรียน ที่ผมไม่เอาหนังสือเรียนมา (ม.1)
  • คนที่ 2 :  หนูไม่มีความสุขเมื่อหนูเข้ามาในห้องเรียนแล้ว คุณครูยืนหันหลัง  โดยไม่สนใจว่าหนูตั้งใจจะมาสวัสดีทักทายกับคุณครู (ม.2)
  • คนที่ 3 : ตอนที่คุณครูกำลังอธิบาย  เมื่อหนูไม่เข้าใจ หนูอยากจะถามคุณครูมากกว่าถามเพื่อน ๆ แต่คุณครูไม่มีเวลาให้หนู เพื่อน ๆ รุมล้อมคุณครูไปหมด โดยเฉพาะเด็กเก่ง  ในที่สุดหนูจะอยากจะให้คุณครูรู้ว่าหนูก็ทำได้  หนูจึงลอกการบ้านเพื่อน สุดท้ายคุณครูก็จับได้ว่าหนูลอก หนูเสียใจค่ะคุณครู
  • คนที่ 4 : ผมรู้สึกดีใจมากที่คุณครูพูดและถามถึงคุณพ่อและคุณแม่ของผม (ม.3  แต่เสียใจที่พ่อกับแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว และก็จะจำข้อคิดของครูที่บอกว่า..พ่อแม่คือผู้ให้กำเนิดแต่การทำตัวให้ดีมีคุณค่าอยู่ที่ตัวผมเอง
  • มีมากมายค่ะ  แต่ยกตัวอย่างเฉพาะที่ประทับใจค่ะ  และแก้ปัญหาจากตัวครูมาตรงใจเขาแล้ว  สังเกตดูว่าเขามีความอบอุ่นขึ้นค่ะ
  • ขอขอบคุณที่ได้อ่านบันทึกและข้อเสนอแนะค่ะ
  • คุยกับครูคิมแล้วติดลม
  • คุยกันสนุกตรงที่ได้แลกเปลี่ยน
  • ขอคุยต่อที่นี่ละกันค่ะ
  • คุยกันเรื่องของเด็ก เพื่อแลกเปลี่ยนกัน
  • .......
  • คนที่ 1 : ผมไม่ชอบมาก ๆ เมื่อครูตำหนิผมต่อหน้าเพื่อน ๆ ในห้องเรียน ที่ผมไม่เอาหนังสือเรียนมา (ม.1)
  • น้องเขารู้สึกผิดอยู่แล้วก่อนครูตำหนิ เขาอยากให้ครูรู้ใจว่าเขารู้สึกผิดกับตัวเอง......
  • ผมไม่ชอบมากๆ เมื่อครูตำหนิผมต่อหน้าเพื่อนๆในห้องเรียน.....น่าสนใจเบื้องหลังในอดีตว่ามีเหตุเกิดอะไรขึ้นที่บ้านๆหรือในช่วงของวัยต้นๆอนุบาล ที่ทำให้ฝังใจทำให้กลัว...ซึ่งทำให้ไม่ชอบการถูกตำหนิต่อหน้าคนค่ะ.....คนที่ทำให้เกิดความฝังใจนี้....คือคนที่เขาเคยมีศรัทธาต่อหรือเขามองว่าเป็นฮีโร่เมื่อเขาเป็นเด็กเล็กอยู่นั่นแหละค่ะ
  • ........
  • คนที่ 2 :  หนูไม่มีความสุขเมื่อหนูเข้ามาในห้องเรียนแล้ว คุณครูยืนหันหลัง  โดยไม่สนใจว่าหนูตั้งใจจะมาสวัสดีทักทายกับคุณครู (ม.2)
  • เด็กคนนี้มีปมเกี่ยวกับเรื่องของการถูกทอดทิ้งอยู่เบื้องหลังค่ะ
  • เป็นการถูกคนที่รักและศรัทธาทิ้งไปโดยเธอไม่เข้าใจว่าทำไม
  • ความรู้สึกของเธอที่มีต่อครู คือ ความโกรธตัวเองและไม่ให้อภัยตัวเองค่ะครู...ที่ไม่สามารถทำให้....คนที่รักกลับมาหาเธอได้.....หากเด็กคนนี้เป็นเด็กเข้าวัยรุ่น...ความอ่อนไหวนี้อาจจะทำให้พาจน...ในเรื่องของการคบเพศตรงข้ามค่ะครู
  • คนที่ 3 : ตอนที่คุณครูกำลังอธิบาย  เมื่อหนูไม่เข้าใจ หนูอยากจะถามคุณครูมากกว่าถามเพื่อน ๆ แต่คุณครูไม่มีเวลาให้หนู เพื่อน ๆ รุมล้อมคุณครูไปหมด โดยเฉพาะเด็กเก่ง  ในที่สุดหนูจะอยากจะให้คุณครูรู้ว่าหนูก็ทำได้  หนูจึงลอกการบ้านเพื่อน สุดท้ายคุณครูก็จับได้ว่าหนูลอก หนูเสียใจค่ะคุณครู
  • เด็กคนนี้สับสนในทางเลือก ด้วยมีประสบการณ์บางอย่างที่ผู้ใหญ่ตอบสนองเธอเอาไว้ภายใต้โจทย์เดียวกันค่ะครู...บางครั้งคำตอบโจทย์ของผู้ใหญ่บอกเธอว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นถูก บางครั้งสิ่งที่บอกออกมากับเรื่องโจทย์เดียวกันกลับตอบว่าผิด.....เป็นเหตุให้เธอตัดสินตัวเองว่าไม่เก่ง....และคำตอบที่ออกมาว่าไม่เก่ง....ทำให้ผู้ใหญ่กลับมามองเธอมากกว่า.....เธอจึงตัดสินใจเลือกเป็นคนไม่เก่ง...ซึ่งทำให้เธอไม่รู้สึกสับสนต่อไป...กับการตัดสินตัวเธอเองที่มีความสุข....ผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเธอ...คือผู้ที่เธอมีศรัทธาและรักเขาค่ะ.....มาเจอครูเธอได้ข้อคิดใหม่....ได้ความสุขใหม่ๆจากความเก่ง...เธอจึงพยายามเปลี่ยนตัวเธอ....ให้ผู้ใหญ่ที่เธอศรัทธากลับมามอง.....เมื่อมันทำใหม่ไม่สำเร็จ......ความรู้สึกผิดต่อตัวเองทำให้เธอเสียใจค่ะ
  • คนที่ 4 : ผมรู้สึกดีใจมากที่คุณครูพูดและถามถึงคุณพ่อและคุณแม่ของผม (ม.3  แต่เสียใจที่พ่อกับแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว และก็จะจำข้อคิดของครูที่บอกว่า..พ่อแม่คือผู้ให้กำเนิดแต่การทำตัวให้ดีมีคุณค่าอยู่ที่ตัวผมเอง
  • เด็กคนนี้มีความโกรธตัวเองอยู่ในใจ...โกรธตัวเองว่าไม่มีคุณค่าพอให้พ่อหรือแม่หวนกลับมาอยู่ด้วยกันเพื่อเขาได้ค่ะ....เขาไม่เข้าใจบทบาทของคนและความสัมพันธ์ที่คนคู่หนึ่งมีต่อกัน...และปฏิเสธที่จะเรียนรู้มันอยู่ค่ะ......หากว่าครูค้นหาสิ่งที่เขาให้ค่าได้....ครูจะช่วยเขาได้อีกมากเลยค่ะ
  • ขอบคุณค่ะครู ที่มีโจทย์มาให้ได้....หาคำตอบร่วมกัน

+ สวัสดีค่ะพี่หมอเจ๊...

+ อ๋อยใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมงในการอ่านย้อนไปตั้งแต่ตอนที่ 3 ถึงตอนที่ 7 ค่ะ...

+ อ่านตอนไหนก็ได้ทบทวนตัวเองถึงตอนนั้นค่ะ ประมารว่าทบทวนไปด้วยกันค่ะ...เป็นการอ่านที่ทำให้ได้ทบทวนตัวเองไปในตัวค่ะ...

+ ยังไงก็ขอกอดพี่หมอเจ๊ค่ะ...กอด กอด กอด...ทั้งนี้เพราะพี่หมอเจ๊เขียนบันทึกนี้ขึ้นมาแล้วทำให้อ๋อยได้ทบทวนตัวเองเร็วขึ้นค่ะ...การทบทวนตัวเอง...ทำให้เราได้พบสิ่งมหัศจรรย์จากจากวันวัยเยอะมากค่ะ... " อดีตเป็นบทเรียนที่ทำให้เข้าใจความเป็นมาแห่งตน อดีตเป็นบทเรียนได้ก็ต่อเมื่อรู้จักใช้มันเชื่อมโยงเข้ากับวิถีของตน เชื่อมโยงได้แล้วจะได้คำตอบเรื่อง “ทุกข์ในใจ” “ทักษะที่ฝึกยาก-ยากมากของตน” เมื่อเข้าใจวิถีแห่งตนแล้ว ทุกข์ที่เคยให้ค่าจะด้อยค่าลงทันทีและจะไร้ค่าในที่สุด แล้วความสุขที่เกิดจากความเข้าใจจะหวนเข้ามาทดแทนทันทีเช่นกัน"

+ ขอบคุณมากค่ะ...ขอบคุณอย่างสุดซึ้งจริง ๆ ที่พี่หมอทำให้ผู้หญิงคนนี้ได้พบกับอะไรที่ยิ่งใหญ่ทางใจอีกครั้งค่ะ...

 

+ ประมาณ ประมาณ ประมาณ ประมาณ ประมาณ

+ ประมาณ ประมาณ ประมาณ ประมาณ ประมาณ

+ ประมาณ ประมาณ ประมาณ ประมาณ ประมาณ

+ ประมาณ ประมาณ ประมาณ ประมาณ ประมาณ

+ อิ อิ...มาคัดคำผิดค่ะ...แบบรู้ตัวนะค่ะ...

  • ครูอ๋อย แม่น้อง แอมแปร์~natadee ค่ะ
  • เข้าใจมันแล้ว
  • นำไปใช้ดูแล ทำความเข้าใจตัวเรา
  • ในสิ่งที่กำลังจะตัดสินเพื่อลูกด้วยนะค่ะ
  • ........
  • ลูกของน้องนั้นยังอยู่ในวัยห้าขวบแรก
  • เมื่อน้องเข้าใจเรื่องราว
  • ........
  • พี่ว่าหนูแอมแปร์โชคดีแล้วค่ะ
  • โชคดีที่จะได้ของขวัญที่มีค่ามากๆจากแม่และพ่อค่ะ

 

มากราบสวัสดีสวัสดีค่ะป้าหมอเจ๊...น้องพอ ชวนแม่ใหม่มาเรียนรู้ อ่านแล้วได้ข้อคิดมากมาย จะจำขึ้นใจ ไม่เปรียบเทียบลูก กับบ้านอื่น ลูกคนอื่นนี่แหละ ค่ะ ขอบพระคุณ เจ้า

+ พี่หมอค่ะ...อ่านที่พี่หมอตอบ และคุยกับพี่ครูคิมทั้งที่บันทึกพี่ครูคิมและบันทึกนี้ของพี่หมอ..ได้ใจมากมายค่ะ...

+ ความเห็นที่ 11. ของบันทึกนี้...พี่หมอทำได้ไงค่ะ...อ๋อยมายันค่ะโดยใช้ประสบการณ์ตัวเองจริง ๆ เพราะเป็นและรู้สึกมาแล้วทั้งสี่แบบ (อิ อิ...คนเดียวเป็นทั้ง 4 แบบเลย)...อ๋อยตอบได้เลยค่ะว่าพี่หมอเจ๊ทายทักได้ตรงมาก ๆ ค่ะ...

+ แค่รับรู้ว่าพี่หมอจะรวบรวมเรื่องราวเหล่านี้เป็นเล่มไว้ให้ลูก ๆ ...อ๋อยก็ขอบตาร้อนผ่าวค่ะ...เพราะรู้สึกว่าเป็นของขวัญที่มีค่ามหาศาลค่ะ...

+ ทำให้นึกถึงย่าแอมแปร์ค่ะ...ย่าแอมแปร์มักชวนอ๋อยทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ ในครอบครัวเสมอค่ะ...บางครั้งย่าแอมแปร์ก็ทบทวนตัวเองให้อ๋อยฟังค่ะ...นึกอีกที ย่าแอมแปร์นี่ก็ไม่ใช่คนกรีดยางธรรมดานะนี่...ปราชญ์ดี ๆ นี่เองค่ะ...

+ แปลกค่ะพี่หมอ...ตั้งแต่มีครอบครัวอ๋อยมักคุยกับย่าแอมแปร์ได้ทุกเรื่องมากกว่าแม่ของตัวเองค่ะ...แต่ยังไงแม่อ๋อยก็สุดยอดในใจอ๋อยเสมอค่ะ...

  • บังหีม--ผู้เฒ่าnatachoei-- ค่ะ
  • เรียนรู้จากเด็กน้อยแล้ว
  • นำมันไปใช้ช่วยดูแลเด็กๆที่อยู่ใกล้ตัวด้วยนะค่ะ
  • ครูอ้อย แซ่เฮ ค่ะ
  • แวะมาเยี่ยมกันบ่อยๆดีจังน๊า
  • ที่ดีกว่าคืออยากเจอตัวเป็นๆอีกครั้งค่ะ
  • ระวังไว้ ไม่แน่ว่าพี่จะไปบุกถึงบ้านนะค่ะ

สวัสดีค่ะ

  • หลบไปทำการบ้าน  สำหรับเด็กปกติ..และเด็กพิเศษที่กล่าวถึงเหล่านี้ค่ะ
  • ไปออกกำลังกายเล็กน้อย  ได้เหงื่อ เก็บผักรั้วบ้านมีผักหวานบ้านและตำลึงที่ปลูกไว้นอกรั้ว  เตรียมผัดน้ำมันค่ะ
  • เรื่องที่เล่ามาในความเห็นที่ 10  เหมือนเป็นความในใจที่เด็กสะท้อนมาให้ว่าครูควรจะทำตัวอย่างไรบ้าง  ไม่ถือว่าเขาเรียกร้องนะคะ
  • การแก้ปัญหาขั้นแรกก็คือ...เพื่อให้เด็กมีความสุขขึ้น  เอาใจใส่เขาเพิ่มขึ้น  ผลก็คือเด็กที่กล่าวมา  สนใจมาเรียน สนใจทำการบ้าน สนใจช่วยเหลืองานและรับใช้ครู และผลการเรียนดีขึ้นทุกคนค่ะ
  • ต่อไปนี้..จะได้นำผลการวิเคราะห์ของคุณพี่หมอในความเห็นที่ 11  ไปใช้ค่ะ
  • ขอขอบคุณอย่างสูงค่ะ
  • ครูใหม่ บ้านน้ำจุน ค่ะ
  • อันที่จริงคนไม่ว่าวัยไหนก็ไม่ชอบการถูกเปรียบเทียบค่ะ
  • ส่วนใหญ่ผู้ใหญ่จะเข้าใจว่า
  • เด็กนะเขาไม่รู้สึกอะไร
  • จึงมักทำกับเด็กเสมอค่ะ
  • .........
  • แต่ว่าในข้อเท็จจริงแล้ว
  • ใจเด็กมีกลไกลึกซึ้ง
  • ผู้ใหญ่จึงไม่ใคร่รู้
  • ว่าเด็กเขาก็รู้สึกกับมัน
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท