เมื่อวานนี้(30 พ.ย.2551) ได้ไปฟังการนำเสนอความก้าวหน้าของการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ ของคณาจารย์กลุ่มหนึ่งจากโรงเรียนในจังหวัดนนทบุรีและเครือข่าย ที่ห้องประชุม โรงเรียนโพธินิมิตวิทยาคม จังหวัดนนทบุรี ในการนี้ ผมเห็นจุดอ่อนบางประการ ที่คิดว่าควรนำเสนอเพื่อเพื่อนครูจะได้ตระหนักตรงกัน และระวังให้มากขึ้น ในอันที่จะหลีกเลี่ยงจุดอ่อนเช่นนี้ จุดอ่อนที่ว่านี้ คือ “การเลือกนวัตกรรมที่ไม่ได้พิจารณาอย่างถ่องแท้ว่า เหมาะสมกับเนื้อหาสาระที่จะสอนหรือธรรมชาติของวิชาหรือไม่” ผมขอยกตัวอย่างต่อไปนี้
1) ครูคนที่ 1 ต้องการพัฒนาบทเรียนสำเร็จรูป(ประเภทเอกสาร) เพื่อสอนเรื่อง “เซลล์ และ การแบ่งเซลล์” ....จุดอ่อน คือ เรื่องที่สอน เป็นเรื่องที่เป็นนามธรรม การเลือกนวัตกรรมประเภทที่ทำบนกระดาษ ก็ยังคงไม่สามารถช่วยให้มองเห็นภาพเซลล์ หรือการแบ่งเซลล์ที่เป็นรูปธรรม ได้(รวมทั้ง ไม่ทันสมัยด้วย) ในที่นี้ ครู อาจเลือกนวัตกรรมอื่น เช่น บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน หรือ จัดทำเป็น ชุด E-Learning เป็นต้น
2) ครูคนที่ 2 ต้องการพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เพื่อการเรียนรู้บนอินเตอร์เน็ต เรื่อง “การขยายพันธุ์พืช”....ในแง่หลักวิชา นวัตกรรมที่เลือก อาจช่วยได้ ในเรื่องความรู้ ความเข้าใจ แต่ในสภาพข้อเท็จจริง ผมคิดว่า ถ้าให้เด็กไปค้นคว้าในอินเตอร์เน็ต เรื่อง การขยายพันธ์พืช ผมคิดว่า เด็กสามารถสืบค้นองค์ความรู้หรือแนวปฏิบัติได้อย่างมากมายอยู่แล้ว ครูไม่ต้องสร้างเพิ่มเติมก็ได้...ในกรณีนี้ ครูอาจเลือกนวัตกรรมการสอนประเภท “ให้นักเรียนรวมกลุ่มกัน จัดทำโครงงาน การขยายพันธ์พืชที่สำคัญ ๆ หรือพืชเศรษฐกิจ ที่สามารถขยายพันธุ์ได้ในท้องถิ่น” โดยให้ทำงานร่วมกับปราชญ์ชาวบ้านหรือผู้รู้ในท้องถิ่น การออกแบบการสอนในลักษณะนี้ จะช่วยให้เกิดความรู้ เกิดประสบการณ์จริง และ เกิดความสนุกสนานในการเรียน ไม่เบื่อหน่าย
3) ครูคนที่ 3 ต้องการพัฒนาสื่อมัลติมีเดีย เพื่อสอน เรื่อง “พระธรรม” รายวิชาพระพุทธศาสนา...สื่อที่เลือก อาจช่วยเสริมความรู้ได้ แต่จุดอ่อนที่อาจเกิดขึ้นคือ “เราควรเน้นสอนหลักธรรม เพื่อการนำไปใช้ในชีวิต ใช้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต มากกว่าการเรียนเพื่อรู้” ในที่นี้ สื่อ มัลติมีเดียที่ครูคนนี้พัฒนาขึ้น อาจบรรลุผลเพียงการสร้างความรู้เท่านั้น ซึ่งไม่น่าจะเป็นจุดมุ่งหมายสำคัญของวิชา พระพุทธศาสนา
โดยสรุป...ในการเลือกนวัตกรรม ผมอยากให้ครูตั้งคำถามว่า 1)นวัตกรรมที่เลือกมีความเหมาะสม ทันยุค ทันสมัย หรือไม่ 2) สื่อ/นวัตกรรมที่เลือกเหมาะสมกับจุดมุ่งหมายหลัก ของรายวิชาหรือไม่ เช่น วิชาการดูแลรักษาบ้าน วิชาพระพุทธศาสนา หรือวิชาที่เน้นการปฏิบัติ เน้นการนำความรู้ไปใช้ ก็ควรเป็นนวัตกรรมที่เน้นการประยุกต์ใช้ หรือการปฏิบัติจริง มากกว่าสื่อ/นวัตกรรมที่เน้นการให้ความรู้ เป็นหลัก 3) สื่อ/นวัตกรรมที่เลือกเหมาะสมกับเนื้อหาวิชาเรื่องนั้น ๆ หรือไม่ มีสื่อในลักษณะอื่นที่ดีกว่าหรือไม่ ฯลฯ การเลือกนวัตกรรมที่สอดคล้องกับเนื้อหาสาระหรือจุดประสงค์การเรียนรู้ จะเพิ่มน้ำหนักหรือคุณค่าของงานวิจัยและพัฒนาได้อย่างมาก ในบางครั้ง การเลือกนวัตกรรมแบบไม่พิถีพิถัน แม้จะดำเนินการวิจัยและพัฒนาแบบสมบูรณ์ ครบวงจร การวิจัยครั้งนั้นก็ไร้ความหมาย
สวัสดีค่ะ อาจารย์
ขอบคุณอาจารย์มากค่ะ รักษาสุขภาพนะคะ
น่าจะเป็นอีกสาเหตุที่หลายคนพลาดโอกาศ อ.3 ไม่ผ่านการประเมินผล ขอร่วมเรียนรู้ด้วยคนครับ
ครู อ้อย
คุณ ไทบ้านผำ
ขอบคุณครับอาจารย์ ผมเคยไปอบรมกับอาจารย์ ทำให้ผมได้รู้จักกับเว็บ http://gotoknow.org/
คุณ rittichai
อ.ขจิต
เห็นด้วยทุกข้อ กับคำแนะนำของอาจารย์ค่ะ
มีความเห็นของตัวเอง ว่า.......
ครูควรเป็นตัวอย่างในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ หรือ ใช้ความคิดสร้างสรรค์งาน
อย่างมีวิจารณญาณด้วย จะช่วยให้ลูกศิษย์ได้เห็นและซึมซับเป็นแบบอย่างโดยไม่รู้ตัว
ถ้าทำแต่ผลผลิต => แล้วขึ้นหิ้ง เด็ก ๆ คงไม่ได้ประโยชน์เท่า ครูนำมาใช้จริง ๆ
และที่ว่า จะสร้างสรรค์งาน นั้นคงไม่ใช่ การ fix idea เด็กว่า
โครงงาน/ชิ้นงาน ต้องทำอย่างนั้น ทำอย่างนี้ตามที่ครูกำหนดไว้หมดแล้ว,
ถ้าจะฝึกเด็กให้สร้างสรรค์จริง ต้องเปิดกว้างให้ผู้เรียน เอาความรู้ที่เรียนไปประยุกต์
สร้างชิ้นงานอะไรก็ได้โดยผนวกกับความรู้ของตนที่เพิ่งเรียนผ่านมา => ถ้าทำอย่างนี้
ชิ้นงาน ตามโครงงานของครูก็จะออกมาคนละอย่าง งานแต่ละคนจะออกมาหน้าตาไม่
เหมือนกัน .....นี่น่าจะเป็น การส่งเสริมให้เด็กคิดสร้างสรรค์อย่างแท้จริง!!!
คุณ จิด้า
เข้าชมเวปของท่านดร.สุพักตร์ ได้เสนอข้อคิดห็นดีที่สุดเลยค่ะ การทำนวัตกรรมให้สอดคล้องตามธรรมชาติวิชา เป็นสร้างงานให้เด็ก้กิดจากการเรียนรู้ท่ีแท้จริง การทำผลงานส่งต้องนึกถึงส่ิงที่เป็นจริงท่ีนักเรียนควรได้รับ แต่กรรมการผู้ตรวจมิได้มีมุมมองอย่างท่านดร.สุพักตร์คิดค่ะ ส่วนมากพวกใครพวกมัน บางคนโดนคอมเมนมา7-8 หน้าได้ปรับปรุงแต่คนโดนคอมเน2-3หน้าให้ตกไม่ทราบว่าต้องใช้เกณฑ์แบบไหนแน่ที่วัดการให้ได้คศ.3 พอดีทำผลงานเรื่องหลักธรรมนำชีวิต ชั้น ป.6 ทำบทเรียนสำเร็จหรือว่าทำสื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอนดีคะ ช่วยออกความเห็นให้หน่อยค่ะ เพราะต้องส่งปลายปี 53 เยียวยารุ่นที่ 2 งานเก่าท่ี่ส่งไปตกค่ะ ขอความอนุเคราะห์การให้แนวคิดด้วยค่ะจากครูผู้รอความหวัง ครูดอย******
ทำผลงาน "เรื่องหลักธรรมนำชีวิต"
....ถ้าอาจารย์ทำเรื่องนี้ ลองวิเคราะห์นะครับว่า จุดประสงค์ของเรื่องนี้ คือ อะไร คงจะมุ่งหวังให้เด็กนำไปปฏิบัติในชีวิตจริง มากกว่าการอ่านบทเรียนสำเร็จรูปเพื่อให้ได้ความรู้ ให้หันไปทำ "ชุดกิจกรรม ดำเนินชีวิตด้วยหลักธรรม" น่าจะเหมาะสมกว่า