งานศิลปะสู่การเขียนและเรียนรู้
มีพ่อแม่ผู้ปกครองที่มีบุตรหลานในระดับปฐมวัยเป็นจำนวนมากมักบ่นว่ามาโรงเรียนแล้วไม่เห็นได้เรียนอะไรเลย วัน ๆ ก็ได้แต่วาดรูป ระบายสี อะไรก็ไม่รู้ วาดกันทุกวัน ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย มาตั้งนานแล้วเขียน ก ไก่ ยังไม่เป็น คำบ่นหรือคำกล่าวเหล่านี้สร้างความ หวั่นไหวให้กับครูปฐมวัย และผู้บริหารโรงเรียนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ที่ไม่เข้าใจหลักจิตวิทยา ทฤษฎีการเรียนรู้ พัฒนาการเด็ก หรือในกรณีที่โรงเรียนมีจำนวนเด็กน้อยลง ถ้าไม่สอนตามความต้องการของผู้ปกครองแล้วโรงเรียนจะมีนักเรียนน้อยลง เพราะผู้ปกครองจะย้ายเด็กออกไปเรียนในโรงเรียนที่สอนเขียนสอนอ่านเช่นเดียวกับนักเรียนในระดับประถมศึกษา ที่กล่าวมานี้เป็นปัญหาที่ถกเถียงกันตลอดเวลา เราควรร่วมมือกันไหม ในการเริ่มสิ่งที่ถูกต้องโดยการให้ความรู้กับผู้ปกครอง หรือแม้แต่ครูของเราส่วนหนึ่ง การให้ความรู้อย่างเดียวไม่เพียงพอต้องร่วมมือและลงมือทำอย่างจริงจังภายใต้ความเชื่อในปรัชญา ทฤษฎีการเรียนรู้และหลักจิตวิทยาพัฒนาการของเด็กปฐมวัย
ถ้าพูดถึงงานศิลปะ มีนักการศึกษาปฐมวัยได้ค้นคว้าวิจัยที่แสดงให้เห็นว่างานศิลปะเป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถนำมาใช้เป็นสื่อการเรียนรู้สำหรับเด็ก ฉะนั้นการที่ครูปฐมวัยให้เด็กทำงาน ศิลปะ เช่น การวาดรูป การปั้น ฯลฯ นั้นเป็นการพัฒนาการเด็กในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการ ส่งเสริมความคิดริเริ่มสร้างสรรค์จินตนาการ ผ่อนคลายความเครียด เพลิดเพลิน สนุกสนาน สร้างเสริมพัฒนาการแบบบูรณาการ ศิลปะจะเน้นการมีส่วนร่วม การแก้ปัญหา การทำงาน เป็นกลุ่ม การปรับตัวในการทำงาน การสร้างนิสัยทางสังคมที่ดี ที่สำคัญเป็นการสร้างการเรียนรู้ทางวิชาการซึ่งศิลปะสามารถสื่อและนำมาใช้ได้ เพราะจะทำให้เด็กได้เข้าใจ จำ และถ่ายทอด สิ่งที่เรียนรู้ออกมา โดยเฉพาะงานศิลปะสร้างสรรค์จะช่วยให้เด็กเรียนรู้สาระวิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา และเนื้อหาวิชาอื่น ๆ ได้
ปัจจุบันโรงเรียนของเราทุกโรงเรียนจัดประสบการณ์ให้กับเด็กปฐมวัยตามหลักสูตร การศึกษาปฐมวัย พ.ศ.2546 ให้ความสำคัญกับกิจกรรมศิลปะกำหนดเป็นกิจกรรมสร้างสรรค์ เพราะกิจกรรมสร้างสรรค์มีความสำคัญ และเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับเด็กปฐมวัยของเรา รศ.ดร.กุลยา ตันติผลาชีวะ อาจารย์ประจำสาขาการศึกษาปฐมวัย คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้กล่าวถึงประโยชน์จากงานศิลปะในเด็กปฐมวัย คือ เป็นการสนับสนุนให้เกิดการเรียนรู้จากภายในแล้วถ่ายออกสู่ภายนอก ส่งเสริมความสามารถของเด็ก ในการแปลสัญลักษณ์ สร้างเสริมการเจริญเติบโตของพัฒนาการในทุกด้าน รวมทั้งความเป็นวิชาการและที่สำคัญงานศิลปะทำให้เด็กเป็นผู้ทำอย่างมีความหมายและเป็นผู้สร้าง เป็นผู้ค้นพบและทำความรู้ให้เป็นรูปร่างขึ้นมากกว่าเป็นผู้รับรู้ในสิ่งที่รู้แล้ว
กล่าวได้ว่า งานศิลปะนอกจากจะส่งผลต่อการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยแล้ว หากผู้ปกครองต้องการให้เด็กเขียนได้อย่างดีนั้น มีวิจัยที่สนับสนุนว่า เด็กที่ได้รับการส่งเสริมให้วาดภาพ ตั้งแต่ อายุยังน้อย เมื่อโตขึ้นเด็กจะรู้สึกเขียนเรียงความได้ง่าย มีประสิทธิภาพ และมีความมั่นใจยิ่งกว่าเด็กที่ไม่ได้รับการส่งเสริม มีการศึกษาค้นคว้าหลายเรื่องที่เกี่ยวกับเด็กเล็ก ๆ ชี้ให้เห็นว่าการ ขีดเขียนที่เด็กบรรจงทำนั้นมีความหมายสำหรับตัวเด็กเอง และการขีดเขียนนี้แท้จริงแล้วช่วยพัฒนาทักษะทางภาษาของเด็กได้ ผลการวิจัยยังชี้แนะด้วยว่าวิธีที่ดีที่สุดที่ช่วยพัฒนาเด็กวัยนี้ให้เป็นนักเรียนต่อไปก็คือควรตอบสนองความคิดที่เด็กพยายามแสดงออก
การจะส่งเสริมให้เด็กเขียน ครู ผู้ปกครองและผู้บริหาร จะต้องเข้าใจตรงกันว่าเด็ก เล็ก ๆ เริ่มเรียนเขียนด้วยการวาดภาพและเขียนขยุกขยิกไปก่อน หรือถ้าเด็กยังใช้ดินสอไม่เป็นก็อาจใช้ตัวอักษรพลาสติกหรืออะไรก็ได้ อาจเป็นการให้เด็กเล่าแล้วผู้ใหญ่เขียนลงกระดาษเพื่ออ่านให้เด็กฟัง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความตั้งใจที่จะเขียน และสิ่งที่แสดงออก ดังนั้นการที่จะให้เด็กปฐมวัยเขียนได้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต พ่อแม่และครูควรพยายามส่งเสริมให้เด็กเลือก สิ่งที่ตนอยากเขียนเอง แล้วปล่อยให้เด็กใช้การสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มที่