อโรคยา ปรมาลาภา ความไม่เป็นโรคเป็นลาภอันประเสริฐ ความเจ็บไข้ได้ป่วยไม่มีใครปรารถนา แต่เรื่องที่ไม่อยากได้ไม่อยากมีไม่อยากเป็นกลับกลายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยากในชีวิตปัจจุบัน การเจ็บป่วยจากโรคเรามักทราบกันดีว่ามีสาเหตุมาจากเชื้อโรคชนิดต่าง ๆ เช่น แบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา ฯลฯ อันเป็นสาเหตุของโรคติดเชื้อ ซึ่งทุกคนคุ้นเคยชื่อเสียงกันดี เช่น อหิวาตกโรค วัณโรค กาฬโรค มาลาเรีย จนถึงไข้หวัดใหญ่ และไข้หวัดธรรมดา และอื่น ๆ อีกมากมายหลายโรค มาวันนี้ธรรมชาติคงมีอะไรติดใจมนุษย์อยู่ไม่น้อยจึงยังส่งโรคใหม่ ๆ ซึ่งร้ายไม่แพ้โรคร้ายแรงยุคก่อนเลย บางโรคร้ายกว่าหลายเท่า เช่น โรคเอดส์ โรคไข้หวัดนก โรคซาร์ เป็นต้น
นอกจากนี้อุบัติการณ์แห่งโรคสมัยใหม่ ยังได้เพิ่มเติมโรคที่มิได้มีสาเหตุมาจากเชื้อโรคอีกมากมาย ซึ่งล้วนบ่อนทำลายสุขภาพมนุษย์ ตั้งแต่สร้างความเบื่อหลายรำคาญ ไปจนถึงเข่นฆ่าชีวิตผู้คนลงเป็นจำนวนมาก ทุกวันนี้มีผู้คนเจ็บป่วยเป็นโรคมะเร็งกันมากมายเสียจนเกิดความคุ้นเคยคล้ายไข้หวัดธรรมดา สารพัดมะเร็งซึ่งแต่ก่อนเป็นโรคที่ไกลตัว วันนี้ลองคิดดูว่ามีใครบ้างที่ไม่เคยมีคนรู้จักเป็นมะเร็ง นอกจากนี้โรคเบาหวาน โรคเกี่ยวกับหลอดเลือดและโรคหัวใจ โรคภูมิแพ้ โรคอัลไซเมอร์ โรคพากินสัน และอีกหลาย ๆ โรคที่มิได้เกิดจากเชื้อโรคนี้มาจากไหนกัน ทำไมคนเราถึงได้เจ็บป่วยกันมากมายหลายโรคได้ถึงขนาดนี้
ลำพังโรคที่เกิดจากเชื้อโรคเพียงกลุ่มเดียวมนุษย์ก็ไล่ตามเอาชนะกันแทบไม่จบไม่สิ้น วันดีคืนดีโรคที่เคยคิดว่าสูญพันธ์ไม่จากโลกนี้ก็กลับมาระบาดอีกแถมดื้อยาอีกต่างหาก วันดีคืนดีโรคจากสัตว์ก็ข้ามสายพันธ์มาเป็นกับมนุษย์เพิ่มขึ้นอีก สมัยโบราณมนุษย์รอดมาได้อย่างไร ทำไมเชื้อโรคเหล่านี้ถึงไม่ทำลายมนุษย์ให้สูญพันธุ์ไปทั้ง ๆ ที่ยังไม่มียาดี ๆ ไม่มีวัคซีนดี ๆ ทั้ง ๆ ที่ยังไม่มีหมอและเครื่องมือล้ำเลิศเช่นในปัจจุบัน เราหลงทางหรือเปล่าที่ไปไล่ล่าเชื้อโรค เพราะยิ่งใช้ยามากเชื้อโรคก็ยิ่งดื้อยา ยิ่งกำจัดก็ยิ่งแพร่กระจาย ยิ่งรักษาโรคร่างกายมนุษย์ยิ่งกลับอ่อนแอ่ลง นอกจากเอาชนะเชื้อโรคไม่ได้แล้ว ยังเป็นโรคใหม่ ๆ อันเกิดจากร่างกายอ่อนแอและเสื่อมถอยประสิทธิภาพลงอย่างเห็นได้ชัด
หากมนุษย์ปัจจุบันไม่ถือทิฐิว่าตนเองเก่งกว่า พัฒนาไปไกลกว่ามนุษย์สมัยก่อน อันเป็นมิฉาทิฐิ เป็นความหลงผิดไป เราควรมองกลับไปในอดีตให้เห็นว่าอะไรทำให้มนุษย์อ่อนแอลง ไม่ต้องย้อนไปไกลคนรุ่นปู่รุ่นตาเมื่อสมัยเป็นเด็กวิ่งเล่นน้ำฝนทั้งวันไม่เห็นป่วยไข้ เดินฝ่าทุ่งหญ้าป่าเขา คลุกดินกินน้ำคลองไม่เห็นเจ็บป่วยไม่เห็นมีใครเป็นภูมิแพ้ แต่ทำไมคนสมัยนี้ดูแลดีตั้งแต่อยู่ในท้องเกิดมาวันแรกก็ได้รับวัคซีนสารพัด ดูแลป้องกันแบบสุด ๆ แต่แค่คลึ้มฟ้าคลึ้มฝนก็ป่วยไข้หายใจไม่ออกกันระนาวแล้ว เป็นหวัดกันทีติดต่อกันทั้งโรงเรียน การใช้ยามากเกินไปก็ดี การฉีดวัคซีน การประคบประหงมไม่ให้เผชิญแดดลมหินดินทรายตั้งแต่เด็กก็ดี การเลี้ยงดูแบบกินดีอยู่ดีแบบสมัยใหม่ก็ดี เป็นสาเหตุของความอ่อนแอขี้โรคหรือเปล่า
การอยู่อาศัยในกล่องปูนสี่เหลี่ยม ที่เรียกว่าบ้าน ทาวน์เฮาส์ ตึก หรือคอนโดมิเนียม ปิดกั้นอากาศจากภายนอก แล้วใช้อากาศเก่า ๆ หมุนวนไปวนมาด้วยอุณหภูมิต่ำ ๆ ซึ่งเหมาะกับการอยู่อาศัยของเชื้อโรค เป็นสาเหตุของความอ่อนแอขี้โรคหรือเปล่า
การใส่เสื้อผ้า ใช้ที่นอนหมอนมุ้งและเครื่องใช้ต่าง ๆ ที่ทำจากใยสังเคราะห์ สารสังเคราะห์ ซึ่งสร้างฝุ่นละอองและไอละเหยที่ล่องลอยเข้าสู่ภายในร่างกายคนเราจำนวนมาก เป็นสาเหตุของความอ่อนแอขี้โรคหรือเปล่า
การปล่อยควันพิษจากท่อไอเสียรถยนต์จำนวนหลายล้านล้านคัน จากโรงงานอุตสาหกรรมหลายล้านโรงงาน และควันพิษจากแหล่งอื่น ๆ ตลอด 24 ชั่วโมงทั่วโลก ซึ่งควันพิษเหล่านี้จะฟุ้งกระจายสะสมอยู่ในบรรยากาศของโลกตลอดไป เป็นสาเหตุของการอ่อนแอขี้โรคหรือเปล่า
การใช้สารเคมีเพื่อการเกษตรและสารเคมีในชีวิตประจำวัน ซึ่งถูกชำระชะล้างลงสู่ดิน น้ำ และอากาศ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอันตรายต่อชีวิตมนุษย์จำนวนหลายล้านล้านตัน เป็นสาเหตุของความอ่อนแอขี้โรคหรือเปล่า
การทำงานที่อุดอู้เคร่งเครียดรวมกันอยู่ในห้องที่อากาศไม่ถ่ายเทไม่สะดวก การนั่งอยู่บนโต๊ะทำงาน นั่งอยู่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ ตลอดทั้งวันโดยขาดการเคลือนไหวร่างกายทุกส่วนอย่างเหมาะสม ทำให้เลือดลมไหลเวียนไม่สะดวก เป็นสาเหตุของความอ่อนแอขี้โรคหรือเปล่า
การนอนหลับพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ การนอนไม่เป็นเวลา การขาดการพักผ่อนร่างกายและจิตใจของชีวิตคนปัจจุบัน เป็นสาเหตุของความอ่อนแอขี้โรคหรือเปล่า
การรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสมไม่สอดคล้องกับความต้องการของร่างกาย ไม่ถูกสุขลักษณะ ปนเปื้อนด้วยสารเคมีแปลกปลอม อาหารแปรรูปไร้วิญญาณ เป็นสาเหตุของความอ่อนแอขี้โรคหรือเปล่า
การดำรงชีวิตด้านต่าง ๆ ที่ผิดเพี้ยนจากวิถีชีวิตธรรมชาติ การแวดล้อมปนเปื้อนด้วยมลพิษ รวมทั้งสารเคมีสารพิษที่เข้าสู่ร่างกายทั้งทางอาหาร น้ำ และอากาศดังกล่าว ทำให้ชีวิตมนุษย์เสียความสมดุล ลดทอนประสิทธิภาพของร่างกายในการป้องกันตนเอง ระบบภูมิคุ้มกันผิดเพี้ยนไร้ประสิทธิภาพ สูญเสียศักยภาพในการรักษาตนเองของร่างกายซึ่งธรรมชาติมอบให้ไว้ การทำลายความสมดุลของชีวิตมนุษย์กับธรรมชาติโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม คือ ปฐมเหตุของโรคภัยไข้แจ็บและความเสื่อมถ่อยของสมรรถภาพร่างกายทั้งปวง.
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
ขอบคุณที่ให้ความรู้ เพราะเป็นคนไม่ค่อยดูแลสุขภาพ โดยอ้างเหตุผลให้ตัวเองว่าไม่มีเวลา
ขอบคุณ ครูโย่ง หัวหน้า~ natadee และ คุณสุณีรัตน์ โจโจ้ วิทักษบุตร ที่แวะเข้ามาอ่าน
ทำร้ายตัวเอง แต้ ๆ
"ขอบคุณค่ะ คุณบดินทร์ เพิ่งยินชื่อ คงฝึกปรือแต่งกลอนกานท์มานานหลาย
จึงแต่งได้ไพเราะเหมาะจับใจ บรรยายไว้ได้ใจความงามน่าฟัง
ขอบคุณที่รับเชิญเป็นเช่นเม็ดน้ำ ใช้เย็นฉ่ำล้างใจใครโอหัง สส.ชั่วชอบขายตัวทำหัวพัง ได้แต่หวังขออย่าเป็นเช่นนั้นเลย
สวัสดีค่ะ
แวะมาทักทายค่ะ
สวัสดีครับ
การออกกำลัง เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันอย่างหนึ่ง ครับ
ขอบคุณ คุณหมู่เฮา คุณรัชดาวัลย์ (ครูตาล) คุณsukunya su hom และผศ. เพชรากร หาญพานิชย์ ที่กรุณาเข้ามาเยี่ยมชม
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับว่าการออกกำลังกายเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันอย่างหนึ่ง รบกวนอาจารย์เพชรากรช่วยขยายรายละเอียดหรือ Link ที่มีอยู่แล้วให้ด้วยจะเป็นพระคุณมากครับ
ผู้รู้และเข้าใจมิใช่ว่าจะเป็นผู้ที่ปฏิบัติได้เสมอไป ทุกคนยังต้องต่อสู้กับจิตใจของตนเองเพียงเพื่อให้วันนี้ที่กำลังจะผ่านพ้นไปฉันยังมีลมหายใจอยู่และแอบหวังทุกๆคืนต่อไปว่าวันพรุ่งนี้ฉันจะมีลมหายใจต่อไปเพื่อได้ทำสิ่งที่มีความหมายและจรรโลงโลกที่ฉันรักให้น่าอยู่ต่อไป
อยากให้ผู้เขียนรักษาสุขภาพเช่นกันคะเพราะคุณเป็นคนที่มีคุณค่าและเป็นพลังให้กับสังคม
สวัสดี ครับ คุณบดินทร์
ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐจริงๆค่ะ
จริงแต๋ ๆ เจ้า
น่าสนใจมากๆ