- คนแรกๆๆๆๆๆๆ
ในวันนี้ผม ได้เรียนวิชา ปัญหาทางปรัชญา เมื่ออาทิตย์ที่แล้วอาจารย์สั่งงาน ให้ไปทำรายงานมา
เรื่องบ่อเกิดของความรู้ ก็ไปทำมาครับ ทำแบบงงๆ เอ่...อันไหนที่ว่าบ่อเกิดของความรู้เนี่ย แต่ก็ทำถูกครับ
อิอิ วันนี้ก็ส่งไปแล้ว เมื่อเรียนได้เกือบจะหมดคาบ อาจารย์พูดถึง นักปรัชญาท่านหนึ่งว่า นักปรัญชาคนนี้
ป่วนวงการปรัชญาได้อย่างมากมาย กับเรื่องของเขาเองแนวคิดของเขากล่าวไว้ว่า สิ่งที่เราเห็นอยู่นั้นมัน
เป็นเพียงมายาภาพ ผมถึงกับงง มายาภาพตรงไหนแตะต้องได้จับได้ บอกมายาภาพ แล้วอาจารย์ก็บอกต่อ
ว่า นักปรัชญาท่านนี้ชื่อ Zeno แล้วได้เขียนผลงานไว้เรื่องหนึ่ง ชื่อว่า อาคิลิสเดินแข่งกับเต่า เอิ้กๆๆ ผมฮา
ไปทำรายงานเรื่องนี้มา หา...อาจารย์ โอวงาน จนได้ผลงานมาแล้วครับ อิอิกว่าจะหาได้
อาคิลิสเดินแข่งกับเต่า (หนึ่งใน Zeno's paradox)
เรื่องมันมีอยู่ว่าหากเต่ามาท้าเดินแข่งกับอาคิลิสซึ่งเดินเร็วกว่าเต่า แล้วอาคิลิสต่อให้เต่าเริ่มการแข่งขันโดยนำหน้าอาคิลิสเป็นระยะทางหนึ่ง อาคิลิสจะสามารถเดินทันเต่าหรือไม่
หากคิดง่ายๆว่า ถ้าอาคิลิสดินเร็วกว่าเต่า ไม่ว่าตอนเริ่มต้นเต่าจะอยู่หน้าอาคิลิสแค่ไหน อาคิลิสก็จะเดินทันเต่าและแซงเต่าได้อยู่แล้ว ไม่มีทางที่จะเดินไม่ทันเต่าหรอก
แต่ Zeno พยายามแย้งว่าอาคิลิสไม่น่าจะเดินทันเต่าได้ เนื่องจากอาคิลิสต้องใช้เวลาในการเดินทางผ่านช่วงที่เต่ามันนำหน้าอยู่ เมื่อไหร่ที่อาคิลิส เดินทางมาถึงจุดที่เต่าเคยยืนอยู่ตอนเริ่มต้น(จุดที่ 1) เต่าก็ได้เดินนำหน้าอาคิลิสไปอีกหน่อยแล้ว (จุดที่ 2)
และหากอาคิลิสเดินมาถึงตำแหน่งที่เต่ามันยืนอยู่เมื่อครู่นี้ (จุดที่ 2) เต่าก็จะเดินนำหน้าอาคิลิสไปอีกนิดนึงอยู่ดี อาคิลิสจึงไม่มีทางตามเต่าทันได้
มันก็เลยแย้งกันเองว่าตกลงจะเดินทันหรือไม่ทัน กลายเป็น paradox ไป
ฟังดูก็ดูเหมือน Zeno จะพูดถูก คล้ายๆกับเรื่องกินกล้วยทีละครึ่งของที่เหลือ จะไม่มีวันกินได้หมดลูก หรือกบที่กระโดดได้ที่ละครึ่งของระยะทางระหว่างตัวเองกับจุดหมายปลายทางจะไม่มีวันไปถึง
ซึ่งที่จริงถ้ากินหรือกระโดดได้ในอัตราส่วนใดๆที่น้อยกว่า 1 (เช่น 3/4 หรือ 9/10) ของปริมาณหรือระยะทางที่เหลือก็จะได้ผลเหมือนๆกัน คือไม่มีวันหมด ไม่มีวันไปถึง
แต่มันต่างกันนะครับ
เรื่องกบกระโดด กับเรื่องกินกล้วย เป็นเรื่องของการแบ่งมิติด้านปริมาณกับระยะทางออกเป็นส่วนๆ ซึ่งทำให้ 'ความเร็ว' มันลดลงเรื่อยๆ ยิ่งใกล้จุดหมายความเร็วยิ่งใกล้เป็นศูนย์ และไปไม่ถึงจุดหมายในที่สุด
ส่วนเรื่องอาคิลิสกับเต่าเป็นเรื่องของการแบ่งเวลาออกเป็นส่วนๆ โดยใช้การเดินของเต่าที่นำหน้าเป็นตัวแบ่ง
การคิดแบบที่ Zeno เสนอนั้น แต่ละขั้นที่อาคิลิสเดินมายังตำแหน่งที่เต่าเคยยืนอยู่จะมีระยะทางสั้นลงเรื่อยๆและอาคิลิสก็จะใช้เวลาเดินทางลดลงเรื่อยๆ แต่ 'ความเร็ว' ในการเคลื่อนที่ไม่ลดลง และจะไล่ทันเต่าในที่สุด
งงไหมหล่ะครับ อิอิ ผมงงมากๆ เอิ้กๆๆ
ตามมาอ่าน
แหม พลาดไปนิดเดียวววววววววว
แวะมาอ่าน และ ทักทายค่ะ
มีความสุข ในทุกๆวัน นะคะ
โหยยยยยยยยยยยยยย ปรัชญา มากๆ อิอิ
ปรัชญา แนวคิดดีดี มาทักทายครับ...แต่ตัวเล็ก ปวดตา สว.จริงๆเชียว ^_^
สวัสดีครับ
ปัจจุบันนี้พาราด็อกซ์ของซีโน ไม่ได้เป็นเรื่องปรัชญาแล้วล่ะ
แต่้เป็นเรื่องคณิตศาสตร์
มีคนนำไปขบคิดเยอะมาก ถึงขนาดทำเป็นวิทยานิพนธ์
สนุกดีนะครับ
นักปราชญ์โบราณเขาคิด หาคำตอบในใจ
แต่ถ้าเราลองวาดรูป ใช้สัญลักษณ์ช่วย
จะทำให้คิดตาม และเห็นภาพได้ง่ายครับ
หวัดดีจ้า
ตามมาอ่าน เด็กชอบปรัชญา อย่าเครียด ครับอย่าเครียด
ปัญหามา ปัญญาเกิด อย่าให้ปัญญาเตลิด เมื่อมีปัญหา
ว่างๆจะพาไปเดินเล่นนะ ตั้งใจเรียน ให้เต็มทั้งใจ ปล่อยวาง หรือทิ้ง สิ่งที่ทำให้ไม่สบายใจ เป็นกำลังใจให้เสมอ โชคดีนะครับ
..ขอบคุณที่แว ไปต้อนรับนะคะ..
หลานเอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ความจริง ป้าเห็นตั้งแต่เมื่อคืน ยังเป็น 0 เลย
แต่บังเอิญว่าจองแล้ว net ล่มซะก่อน เลยอดเลย เป็น เต่า จริงๆ
ตอนนี้ เลยเป็นที่เท่าไร ก็ม่ายรู้
หวัดดีคร๊าบน้องโชค แวะมาทักทายจ้า คิดถึงๆๆ
ชื่นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน จายยยยยยยยยยยยยย
จริง จริ้งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง