"ศีล" พึงปฏิบัติ
โดยเคร่งครัดจัดอารมณ์
ห้ามกายและใจตน
หมั่นฝึกฝนวาจางาม
คำสอนองค์สัมมาฯ
ให้ศึกษาพยายาม
ศีลห้าหมั่นทำตาม
ทุกๆยามกระทำดี
"สมาธิ" คือแน่วแน่
ใจเที่ยงแท้มีศักดิ์ศรี
ตั้งมั่นในความดี
ทุกนาทีจงตั้งใจ
ยึดมั่นการกระทำ
ใจโน้มนำความดีไว้
ชั่วดีรู้ดีได้
สติไซร้ไว้พิจารณา
"ปัญญา" คือรู้คิด
ไว้พินิจและศึกษา
เพ่งพิศพิจารณา
เพื่อพึ่งพาชีพดำรง
รู้มีความดีชั่ว
เป็นแนวตัวไม่มัวหลง
ผู้อื่นและตัวคง
ได้ดำรงด้วยดีงาม
"อริยะสัจสี่"
ธรรมความดี๔ ประการ
ยึดไว้เป็นทัดฐาน
เหตุแห่งการณ์ดับทุกข์ตรม
"ทุกข์" คือกำหนดรู้
ความเป็นอยู่ไม่สุขสม
เกิดแก่เจ็บตายตรม
ล้วนขื่นขมทุกข์ตรมใจ
"สมุทัย" คือรู้แจ้ง
สาเหตุแห่งไม่แจ่มใส
ต้นเหตุแห่งทุกข์ใจ
ล้วนเกิดได้หลายเหตุหน
กามาตัณหาปน
ช่างพิกลจนหทัย
รู้แล้วพึงยั้งไว้
เหตุทุกข์ใจให้ระวัง
"นิโรธ" คือพ้นทุกข์
จะมีสุขรู้หยุดยั้ง
ตัณหาที่ประดัง
รู้จักรั้งตัดอารมณ์
เปรียบเช่นชาติเชื้อไฟ
หยิบเชื้อไปไฟไม่โหม
รู้จักดับอารมณ์
ความสุขสมจะมาเยือน
"มรรค" นั้นเป็นวิถี
เป็นวิธีคอยชี้เตือน
ปฏิบัติอย่าแชเชือน
ทุกข์จะเลือนไม่เยือนมา
พ้นทุกข์ไม่เวียนว่าย
เกิดแก่ตายไม่เวียนหา
นิพพานคือปฏิปทา
เป็นปฏิญญาที่แน่นอน ฯ
ขอความสุขที่ยิ่งใหญ่และยั่งยืนจงมีแด่มวลมนุษยชาติ
พทฺโธ ธมฺโม สงฺโฆ
กราบนมัสการพระอาจารย์ มารับศิลยามเช้าจากพระอาจารย์
น้อมรับธรรมะค่ะ
สาธุ
กราบนมัสการเจ้าค่ะ.....ขอยึดหลัก"อริยะสัจสี่"
ธรรมความดี๔ ประการ
ยึดไว้เป็นทัดฐาน
เหตุแห่งการณ์ดับทุกข์ตรม
ขอบพระคุณเจ้าค่ะ