รื้อดูเอกสารในคอมมาดู อ่านไปเจออีเมลล์ของคุณบุญ พงษ์มา ทนายความตีนเปล่า แห่งคลินิคแม่อายที่เล่าสถานการณ์ในคลินิกแม่อาย
บันทึกที่อ่านแล้วอดเอามาเขียนเป็นบันทึกไม่ได้ เป็นบันทึกเมื่อวันที่ ๒๘ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๑ โดยคุณบุญ พงษ์มา ซึ่งสรุปได้ว่า
ในประการแรก หากคลินิกปิดทำการหลายวัน งานก็จมาคอยอย่างมากมาย ดังที่คุณบุญเล่าว่า "คลินิกปิดหลายวันพอมาเปิด วันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๑ ตอนเช้ามีชาวบ้านมาเต็มในคลินิกค่ะ" ดังนั้น การที่เราเปิดคลินิกแบบ full time นั้น ย่อมเหมาะสม ปัญหาคนไร้รัฐคนไร้สัญชาติในพื้นที่แม่อายยังสาหัสอยู่มาก มีคนไข้ตลอดเวลา
ในประการที่สอง เราตระหนักว่า คนไร้รัฐยังปรากฏตัวบนแผ่นดินแม่อาย ดังจะเห็นว่า คุณบุญเล่าว่า "ชาวบ้านมาขอความช่วยเหลือบางครอบครัวไม่เลข ๑๓ หลัก บางครอบครัวมีทะเบียนประวัติระบุว่าเกิดไทย บางครอบครัว พ่อไทยบางครอบครัวแม่ไทยแต่ลูกไม่ได้รับการเพิ่มเข้าในทะเบียนบ้าน" และคนไร้รัฐดังกล่าวอาจเป็นคนต่างด้าวที่ไร้รัฐ หรือคนสัญชาติไทยที่โชคร้ายต้องตกเป็นคนไร้รัฐ แม่อายเป็นพื้นที่ปะปนจริงๆ
ในประการที่สาม เรามั่นใจว่า ทนายความตีนเปล่าแห่งคลินิกแม่อายรู้จักการ "สอบข้อเท็จจริง" แน่แล้ว ดังจะเห็นว่า คุณบุญเธอแจงว่า "คนมาขอความช่วยเหลือในคลินิกประมาณ 20 กว่าคน ทางคลินิกก็เก็บข้อมูลไว้" เธอเก็บเรื่องราวใส่แฟ้มอย่างแน่นอน ไม่หลงลืมผู้ร้องคนใดคนหนึ่ง นักศึกษาปริญญาโททั้งหลายโปรดดูเป็นตัวอย่าง
ในประการที่สี่ ความรู้กฎหมายของทนายความตีนเปล่าของเรา คงใช้ได้ พอคุณเธออธิบายแล้ว เพราะเธอรายงานว่า "บางคน ฟังทนายตีนเปล่าอธิบายเขาก็จะไปดำเนินการที่อำเภอได้คนเดียว" แถมยังมีคนเชิญไปออกรายการวิทยุ ให้สอนกฎหมายคนไร้รัฐคนไร้สัญชาติผ่านวิทยุชุมชนอีก ดังที่คุณบุญเธอสาธยายไงคะ "มีอีกเรื่องค่ะมี หัวหน้า สถานีวิทยุ พุทธศาสนาแห่งชาติของจังหวัดเชียงราย ตอนนี้มาช่วยงานสถานีวิทยุของโรงพยาบาลแม่อายมา ชวนไปออกรายการจัดคู่กับครูมลก็ได้ จัดเดี่ยวก็ได้"
นี่ล่ะการถอดบทเรียนทางวิชาการจากบันทึกของทนายความตีนเปล่า เราจึงได้ ๒ องค์ความรู้ด้านข้อเท็จจริงเกี่ยวกับชุมชนแม่อาย และ ๒ ความคืบหน้าในศักยภาพของทนายความตีนเปล่าแห่งคลินิกแม่อาย
ในส่วนที่บุญบอกว่า "อาจารย์แหววจะมาแม่อายครู มลอยากให้อาจารย์ไปออกรายการให้ความรู้" อ.แหววขอตอบตกลงค่ะ จัดเวลาเลย เย็นวันที่ ๑๑ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๒ ไหมคะ
ไม่มีความเห็น