กะเพราผีเรียกอีกชื่อหนึ่งแมงลักคา Hyptis suaveolens (L.) Poit. เป็นพืชที่อยู่ในงศ์ Labeatea กะเพราผีเป็นพืชไม้ล้มลุกสูงประมาณ 30 -150 ซม. มีขนแข็งกระจายอยู่ทั่วต้น กลิ่นฉุน ใบเดี่ยว แผ่นใบรูปไข่ กว้าง 2-6 ซม. ยาว 2-8 ซม. มีขนนุ่ม ปลายใบแหลม ขอบจัก ก้านใบยาว ช่อดอกคล้ายช่อฉัตรออกที่ปลายกิ่งหรือตามง่ามใบใกล้ปลายกิ่ง ช่อย่อยมี 2-5 ดอก ดอกสีม่วงอมน้ำเงิน กลีบเลี้ยงโคนติดกันคล้ายระฆัง ขอบหยัก 5 หยัก ปลายหยักเรียวเป็นหนาม กลีบดอกรูปปากเปิด ผลย่อยมีขนาดเล็ก ค่อนข้างแบน เปลือกมีเมือกหุ้ม เมื่อแช่น้ำจะพองออก เป็นวัชพืช ขึ้นอยู่ทั่วทุกภาค ตามที่โล่งแจ้ง ที่รกร้างริมทาง ใบมี
สารสกัดแมงลักคามีส่วนประกอบหลักทางเคมีได้แก่ 1,8-cineole, ?-caryophyllene และ dehydroabietinol น้ำมันหอมระเหยในแมงลักคาประกอบด้วย sabinene, limonene, bicyclogermacrene, b -phellandrene และ1-8-cineole มีรายงานการใช้แมงลักคาเป็นยากระตุ้นเพื่อการขับลม มีฤทธิ์ต้านการติดเชื้อ ขับเหงื่อและขับน้ำนม นอกจากนี้น้ำมันหอมระเหย ในแมงลักคามีฤทธิ์ต้านการเจริญเติบโตของแบคทีเรียทั้งแกรมบวกและแกรมลบ รวมถึงมีฤทธิ์อย่างอ่อนในการต้านเชื้อรา Candida albicans and Aspergillus niger สารสกัดด้วยแอลกอฮอล์ของใบแมงลักคามีฤทธิ์สมานแผล ซึ่งอาจเกิดจากคุณสมบัติ ในการต้านอนุมูลอิสระ และส่งเสริมเอ็นไซม์ต้านปฏิกิริยาออกซิเดชั่นช่วยในการสร้างเนื้อเยื่อเพื่อทดแทนเนื้อเยื่อที่ตายไป ( http://www.dmsc.moph.go.th/webroot/Plant/MPI2006/Phyto-1.shtm(20ก.ค.50) มีฤทธิ์ลดปริมาณการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ (
แมงลักคาH3N2) ของเซลล์เพาะเลี้ยงได้ร้อยละ 93 มีความปลอดภัยเมื่อนำมาให้ในสัตว์ทดลอง
ที่นำมาเล่าให้ฟังเพราะที่ไร่ทองสมบูรณ์ นี้ เลี้ยงมาไว้ให้นักท่องเที่ยวขี่เล่น เป็นมาพื้นเมืองตัวสูงประมาณเมตรกว่า ๆ เท่านั้นแต่แข็งแรงทนร้อน ทนหนาวได้ดี ไม่เจ็บป่วย และม้ามักจะถ่ายมูลเป็นก้อนสีเขียวนี่แหละอาหารของกะเพราผี ดังนั้นทางหนึ่งที่จะเจอกะเพราผีก็ให้มองหาขี้ม้าครับ
ขี้วัว ขี้ควาย ใช้ได้ครับ :)
ไม่มีภาพกะเพราผีมาให้ดูเหรอ