สวัสดีอีกครั้งคะ แม่ต้อยอยู่ในระหว่างเรียนรู้การเขียนบล้อก จากคุณน้องพอลล่าทีมีความอดทนสูงมากในการถ่ายทอดวิชาให้คะ จะมาขอบคุณอีกครั้งคะ
วันนี้ แม่ต้อยจะเล่าเรื่องสนุกๆเบาๆสักเรื่องหนึ่งนะคะ ตามปกติแม่ต้อยจะมีเพื่อนเที่ยว เพื่อนสนิท อยู่กลุ่มหนึ่งเป็นผู้หญิงล้วนคะ พวกเราทุกคนมีงานและมีความรับผิดชอบค่อนข้างหนักที่แตกต่างกันออกไป คนแรกเป็นผู้หญิงเก่งระดับสูงของกระทรวงการคลัง คนที่สองเป็นระดับผู้บริหารของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คนที่สามเธอทำงานที่กระทรวงยุติธรรมเคยเป็นทั้งอธิบดี และผู้ตรวจราชการ คนที่สี่เป็นคุณหมอระดับผู้ทรงคุณวุฒิ หากวันใดที่เราเหนื่อยล้าจากการทำงานก็จะนัดกันไปเที่ยว หรือรับประทานอาหารอร่อยๆกันอยู่เสมอๆ
การที่เรามีความแตกต่างกันอย่างสุดขั้วนี้ การที่ได้ไปไหนด้วยกัน หรือการพบกันแต่ละครั้งก็เป็นโอกาสดีที่เราจะมีเรื่องราวต่างๆมาแลกเปลี่ยนกันเสมอในมุมมองและในประสบการณ์การทำงานที่ต่างกันไป จากการที่แม่ต้อยได้ฝึกฝนจากอาจารย์สกล อาจารย์วรวุฒิในเรื่องของการฟังที่ดี ฟังอย่างเข้าใจคนอื่นนี่เองที่ทำให้แม่ต้อย ได้ประโยชน์มากๆจากการเรียนรู้ความคิด ประสบการณ์ของเพื่อนๆในแง่มุมอื่นๆ ที่สำคัญคือ ทำให้เพื่อนๆมีความรู้สึกว่าในการเจอกันทุกครั้งแม่ต้อยสมควรจะเป็นบุคคลที่ขาดไม่ได้อย่างแน่นอน เนื่องจากขาดผู้ฟังที่สำคัญไปหนึ่งคน
ครั้งสุดท้ายที่เรานัดเจอกันคือเมื่อเย็นวานนี้ ครั้งนี้ เรานัดทานอาหารเย็นกันที่ร้านอาหารฝรั่งแถวสุขุมวิท ร้านที่ไปนี้สังเกตดูเป็นร้านที่เพิ่งเปิดใหม่ ที่น่าตื่นเต้นมากกว่านี้คือ เจ้าของร้านทั้งหมดเป็นเด็กหนุ่มสาวอายุไม่น่าจะเกินสามสิบที่มาร่วมกันหุ้นเป็นเจ้าของร้าน พนักงานในร้านทั้งหมดท่าทางมีความกระตือรือร้นในการให้บริการมาก
เมื่อเราไปถึงเจ้าของร้านทั้งหมดก็เข้ามาแนะนำตัวเอง คงจะเห็นความอาวุโสของแม่ต้อยและเพื่อนๆฉายรัศมีมาแต่ไกลเป็นแน่ทีเดียว
ซึ่งก็คงจะจริงเพราะแม่ต้อยแอบมองดูโต๊ะอื่นๆ เห็นมีแต่คนหนุ่มสาวกันทั้งนั้น แต่ไม่เป็นไรคะ พวกเราก็พยายามทำตัวกลมกลืนกับบรรยากาศให้จงได้
เรื่องราวที่แม่ต้อยอยากจะเล่าเกิดขึ้นตอนที่ พวกเพื่อนๆของแม่ต้อยเขาสั่งอาหารนี่เอง
“ ร้านนี้มีอะไร อร่อยคะน้อง ช่วยแนะนำหน่อย” นี่เป็นคำถามเริ่มต้น
“มีหลายอย่างครับ ซุปของเราอร่อยมากนะครับอยากจะแนะนำให้ท่านลองชิม”
“ ที่ว่าอร่อย นี่ เป็นอย่างไร เขาทำแบบไหน” อันนี้น่าจะเป็นคำถามแบบสืบค้น
“ คือว่า ของร้านเรา เป็นซุปข้นครับ เรามีทั้งซุปเห็ดและซุปหัวหอม จะสั่งแบบไหนดีครับ”
“ ระหว่าง ซุปหัวหอม และซุปเห็ด ลูกค้าส่วนใหญ่เขาสั่งอะไร ไม่ใช่อะไรนะคะ พี่อยากลองที่เขาชอบ”
“ครับผม ส่วนใหญ่ เขาสั่งซุปเห็ดครับ เพราะว่าของเรานี่จะพิเศษมาก เพราะจะมีเนื้อเห็ดให้เห็นเป็นชิ้นๆ ในแต่ละชามมาเลยครับ อร่อยมากครับ”
“ ซุปเห็ด นี่เขาใช้เห็ดอะไรคะ “ นี่เป็นคำถามเพื่อคลายสงสัย
“ อ๋อ ของเราใช้เห็ดสามชนิดครับ ( อธิบายชื่อเห็ดอย่างคล่องแคล่ว)
“ แล้ว ใส่หมดทั้งสามชนิดไหมคะเนี่ย? คงเป็นคำถามเพื่อให้แน่ใจ
“ ครับ เราใส่ทั้งหมดครับ”
“ โอเค สั่งสองที่” ( เฮ้อ แม่ต้อยโล่งใจ )
นี่เป็นอาหารจานแรกที่สั่งได้ ขอให้จินตนาการว่ากว่าจะสั่งอาหารได้ครบทุกจานนั้นต้องใช้เวลาถามนานแค่ไหน แต่สิ่งที่แม่ต้อยสังเกตและอยากเอามาแลกเปลี่ยนคือ พนักงานที่มาต้อนรับและรับคำสั่งอาหารมีความตั้งใจที่จะตอบคำถามลูกค้าอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่มีกระฟัดกระเฟียดหรือแสดงความไม่พอใจ ให้เห็นแม้แต่น้อย มีความรู้ หรือหาความรู้ในบริบทของงานที่ทำเป็นอย่างดียิ่ง แม่ต้อยนึกในใจว่าหากแม่ต้อยเป็นพนักงานคนนั้นจะตอบได้ไหม เพราะบางคำถามนี่เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดว่าจะมีใครถาม อาทิเช่น
“ น้องคะ สลัดใสใส่ทับทิมนี่ เป็นทับทิมจากไหน” อยากรู้ทำไมนะ ( แม่ต้อยแอบคิด)
“ ครับ ทับทิมนี่เป็นพันธ์ที่มาจากอินเดียครับเพราะว่าเม็ดกรอบ แต่ที่อร่อยที่สุดน่าจะ เป็นพันธ์ของสเปนนะครับเพราะไม่มีเมล็ดข้างใน” เอ๊ะ นี่แม่ต้อยก็เพิ่งทราบ เหมือนกัน หากไม่ถามคงไม่รู้เป็นแน่
หลังจากนั้นพวกเราก็เพลิดเพลินกับอาหารที่อยู่ตรงหน้าพร้อมกับบทสนทนาที่ออกรสชาติไปเรื่อยๆ สำหรับแม่ต้อยเอง อาหารฝรั่งที่แม่ต้อยมักจะเรียกว่า “ กินข้าวฝรั่ง “ นั้นไม่ว่าจะทานที่ไหน ร้านไหนก็ไม่เคยถูกใจเท่ากับ ลาบคั่ว แกงแค แกงอ่อมของเมืองเหนือได้สักนิด
แต่ว่าคงเป็นเพียงแม่ต้อยคนเดียวที่คิดเช่นนั้นเพราะเมื่อแม่ต้อย เงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งแทบไม่น่าเชื่อว่าตอนนี้คนแน่นไปหมดเลยทุกโต๊ะ และยังมีลูกค้ายืนคอยที่จะรอโต๊ะว่างอีกด้วย พวกเราจึงเตรียมตัวที่จะกลับเสียที
ก่อนจะกลับ ทางทีมเจ้าของร้านก้ออกมาพบพวกเราอีกครั้งหนึ่ง แม่ต้อยจึงถามว่าการแต่งร้าน การออกแบบ การจัดการ รวมทั้งการคิดเมนูอาหาร ทำกันอย่างไร เขาเลยเล่าว่า ในกล่มเพื่อนที่มาทำ ใครที่ชอบทางไหนก็จะรับผิดชอบในด้านนั้นไปเลย ทุกอย่างทำเองหมดไม่มีจ้างใคร และการสมัครคนที่จะมาทำงานต้องเลือกคนที่มีใจบริการและมีความรู้ในอาหารที่จะขายพอสมควร แม่ต้อยเลยบอกเขาไปว่า พนักงานที่นี่เก่งมากนะ เพราะสื่อสารทำให้ลูกค้าเข้าใจได้ เข้าใจความต้องการ อดทนดีด้วย
ที่เขาบอกคือ “เราพยายามศึกษากลุ่มลุกค้าที่เข้ามาในช่วง ๓เดือนแรกว่าอะไรคือสิ่งที่ลูกค้าสนใจ อะไรคือคำถามที่เราถูกถามมากที่สุด พนักงานของเราต้องเรียนรู้ตลอดเวลา และเอามาแลกเปลี่ยนกัน และพร้อมที่จะรับฟังข้อเสนอของลุกค้า ในทุกเรื่อง”
แม่ต้อยร้องโอ้โฮ ในใจ วันนี้แม่ต้อยไม่เพียงแต่ได้ทานข้าวฝรั่งเท่านั้น แต่ยังได้เรียนรู้จากคนรุ่นหลังอีก
ตอนนี้แม่ต้อยเลยหายสงสัยว่าทำไม ร้านนี้คนแน่นจัง !!!!!!!!
ขากลับ แม่ต้อยชวนเพื่อนจากกระทรวงยุติธรรมว่า “ เราแวะทานก๋วยเตี๋ยวสักชามดีไหมเธอ?
อิอิ...สวัสดีค่ะ แม่ต้อย แม่ต้อยช่างซัก ช่างถาม ได้เรียนรู้จากคนอื่นและจากคำถามแม่ต้อยค่ะ ชื่นชมคนตอบที่ยินดีตอบคำถาม เลยขายของได้ อิอิ..เทคนิค ที่ดึงดุดลูกค้า..แล้วเมื่อไหร่แม่ต้อยจะเปิดร้านส้มตำปลาร้าคะ อิอิ
ราตรีสวัสดีค่ะ
ก่อนนอนอ่านเรื่องของ อ.สกลนะคะ มีรูปแม่ต้อยแด๊นซ์ค่ะ
สวัสดีครับ
แวะมาเยี่ยม และร่วมเรียนรู้ ครับ
แม่ต้อยจะให้พอลล่าเป็นผุ้จัดการแน่นอนคะ
ยินดีมากที่ได้รู้จักกันคะ เพิ่งมีความรู้เรื่องทับทิมเป็นครั้งแรกเหมือนกันนะคะ จาการที่ได้ไปทานที่ร้านนี้คะ เข้ามาแวะทักทายกันบ่อยๆนะคะ
ขอบคุณคะ
มาอ่านเรื่องราวน่ารักๆ ค่ะ ^^ อ่านแล้วอมยิ้มไปกับคนช่างซัก และต้อมเอาลาบหมู กับ น้ำพริกอ่องมาฝากค่ะ
สวัสดีค่ะ
2.
ผศ. เพชรากร หาญพานิชย์
ขอบคุณท่านอาจารย์ ที่แวะมาทักทายคะ ยินดีที่ได้รู้จักมากๆนะคะ
6. เนปาลี
ขอบคุณมากคะ นำพริกหนุ่ม น้ำพริกอ่องนี่แม่ต้อยชอบมากคะ ตอนนี้เริ่มหิวข้าวแล้วนะคะ
ช่างมีน้ำใจจริงๆคะ ขอบคุณอีกครั้งคะ
7. ครูคิม
ขอบคุรครูคิมมากคะที่ส่งรูปที่น่าประทับใจมาฝากให้แม่ต้อยดูคะ บางที่เราก็ได้เรียนรู้สิ่งที่ดีดี ที่อยู่แวดล้อมตัวเรานะคะ แม่ต้อยว่า
ขอบคุณอีกครั้งคะ
เรื่องของแม่ต้อยอ่านสนุก เพลิดเพลิน ฮาตอนที่แม่ต้อยบรรยายบทสนทนาตอนจะสั่งซุปเห็ดได้ละเอียดมาก 555 เข้าใจอารมณ์โล่งใจเลยค่ะ
แต่แล้วเรื่องก็จบได้คมคาย พอเล่าถึงแนวคิดของทีมเจ้าของร้านนะคะ ทำให้เห็นเลยว่าคนจะทำร้านอาหาร แค่ทำอาหารอร่อยอย่างเดียวยังไม่พอ จะต้องใส่ใจกับทุกรายละเอียดจริงๆ
เหมียวคิดว่าคนเราไม่ว่าจะทำเรื่องอะไร จะก้าวหน้าก็ต้องใช้ความใส่ใจนี่แหละ เหมียวเคยดูรายการตลาดนัดสนามเป้า มีตอนหนึ่งเขาไปติดตามการทำงานของเจ้าของร้านข้าวเหนียวปิ้งร้านดัง ปรากฏว่าเขาคัดเลือกวัตถุดิบทุกอย่าง ข้าวเหนียวต้องพันธุ์นี้ กล้วยต้องพันธุ์นี้ ต้องตัดมาเวลานี้ (ปลูกเองด้วย)กะทิต้องคั้นเอง เผือกต้องกวนตามสูตร...โอวทุกอย่างสามารถ ไม่น่าเชื่อว่านี่ข้าวเหนียวนึ่งนะเนี่ย 555
สุดท้ายอยากบอกว่าป้าต้อยไปเจอเรื่องอะไรมาก็เขียนได้ทั้งนั้นเลยนะคะ เก่งจริงๆ
แล้วเหมียวจะแวะเข้ามาอ่านอีกเรื่อยๆ นะคะ
แม่ต้อยคะ copy รูป ก่อนวาง เราต้องคลิกที่เรียกใช้งานตัวจัดการข้อความข้างบนก่อนค่ะ ภาพจึงจะมาตามที่เรา copy ไว้ค่ะ แม่ต้อยสู้ๆๆๆ
เรียกใช้งานตัวจัดการข้อความ คลิกก่อน นะคะ
12. เหมียว
เมื่อ ศ. 23 ม.ค. 2552 @ 20:25
เหมียว เห็นไหมคะว่าขายข้าวเหนียวปิ้งเขายังต้องทราบพันธ์ข้าวที่นำมาใช้เลย แม่ต้อยรู้สึกตื่นเต้นจริงๆนะคะ ที่เห็นเด็กรุ่นใหม่นี้มีอะไรที่น่าสนใจและเรียนรู้อีกมากเลย
เข้ามาทักทายบ่อยๆนะคะ ขอบคุณเหมียวมากคะ