วันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา(๑ ก.พ. ๒๕๕๒) ครอบครัวเป็ดน้อยได้มีโอกาสดีติดสอยห้อยตามคนดีศรีเมืองชลของชนกลุ่มน้อย(ท่านอาจารย์สุชินแห่งชมรมสรรค์สร้างป่าสวยด้วยเยาวชนโรงเรียนชลราษฎรอำรุง)ไปดูนกที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบางพระจังหวัดชลบุรีครับ ที่ว่า"คนดีศรีเมืองชลของชนกลุ่มน้อย" ก็เพราะว่าผมรู้สึกว่าคนที่ทำงานด้านธรรมชาติและการอนุรักษ์นั้นเปรียบได้เหมือนชนกลุ่มน้อยที่อพยพเข้ามาอยู่ตามแนวชายแดนครับ
ทางเดินจากหน้าศาลาสามตาลไปสำนักงานเขตห้ามล่าบางพระ
เราออกจากบ้านตีห้าครึ่งแวะไปบ้านปู่ของเป็ดน้อยที่พัทยาเพื่อไปรับ Binocular ยี่ห้อ Olympus รุ่น DPS I ขนาด 8*40 (8 ก็คือกำลังขยายภาพของกล้อง ส่้วนเลข 40 ก็คือเสันผ่าศูนย์กลางในหน่วยมิลลิเมตรของเลนส์วัตถุครับ) เจ็ดโมงกับอีกสี่สิบนาทีก็มาถึงที่เขตฯ นัดกับครอบครัวเพื่อนๆของเป็ดน้อยไว้ประมาณสามครอบครัวแต่ก็มาได้เพียงครอบครัวเดียวเองครับ คงเป็นเพราะว่าเช้าเกินไปหน่อยเพื่อนๆคงจะตื่นไม่ทัน แต่ก็เพราะมาดูนกมาศึกษาชีวิตของเขาที่เริ่มขึ้นแต่เช้าตรู่ ออกหากินพอสายๆแดดแรงก็หยุดพักเข้าร่ม จะออกมาอีกทีก็บ่ายๆหน่อย นี่ก็ทำให้ต้องนัดครอบครัวเพื่อนของลูกๆเช้าไปหน่อย
อ.ชินและลูกศิษย์กำลังช่วยกันผัดมาม่ากะทะโตให้เด็กๆที่ท่านว่าเป็นเด็กเมืองใช้ชีวิตแบบคุณหนูหน่อยๆ อาจารย์บอกให้เด็กๆนำข้าวสารมาช่วยกันหุงหากินเลี้ยงกันไปแบบง่ายๆ แต่น้องๆก็พาซื่อเล่นเอาแต่ข้าวสารมาจริงๆ "เราให้พวกพี่ๆแวะซื้อกับข้าวมา ทำๆเลี้ยงกันไปแบบลูกๆหลานๆ" เสียงบอกเล่าจากป๋าชินของเด็กๆ เด็กๆส่วนใหญ่จะเรียกอาจารย์ว่า "ป๋า" ผมคิดว่าคำนี้น่ารัก ฟังจากน้ำเสียงของพวกเขาและการที่คนที่ถูกเรียกว่าป๋าก็ใช้สรรพนามแทนตัวเองว่า "ป๋า" ด้วยเช่นกัน
เด็กๆอีกยี่สิบกว่าคนก็กำลังเดินดูนก บางคนแบกสโคป(Telescope) สะพายกล้องสองตา(Binocular) ในมือของสาวๆหนุ่มๆบางคนมี Bird Guide (คู่มือดูนก) เล่มภาษาอังกฤษ "A Guide to The Bird of Thailand" โดยคุณหมอบุญส่ง เลขะกุลบรรพบุรุษของชนกลุ่มน้อย และ Mr.Philip D. Round เด็กพากันชี้ชวนดูนกในห้องเรียนธรรมชาติที่ไม่มีกำแพงมาล้อมกรอบ อากาศดีโดยไม่ต้องใช้เครื่องปรับอากาศ ได้เดินออกกำลังกายพร้อมๆกันไปกับการเรียน ใครสนใจห้องเรียนกว้างๆแบบนี้บ้างไหมครับ?
ภาพหน้าปกหนังสือ A Guide to The Bird of Thailand จากเวปไซต์ทัวร์ทโมนของคุณปริญญา ผดุงถิ่น
ศาลาสามตาล
บ้านแสงจันทร์
สำนักงานเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบางพระ
หลังจากช้าวเช้าพี่สิบบาทรุ่นพี่ของเด็กๆ เริ่มกิจกรรมให้พวกเขาได้วาดรูปนกที่พบเจอในยามเช้า แอบๆมองดูน้องๆวาดกันได้สวยดีทีเดียวเชียว ป๋าชินบอกว่าน้องๆต้องกลับไปเรียนพิเศษ หลายๆคนยังติดใจอยากที่จะอยู่ดูนกต่อก็มีเหมือนกัน ห้องเรียนธรรมชาติกว้างๆ นกสื่อการสอนมีชีวิตที่งดงามทั้งรูปร่าง แง่มุมการดำรงชีวิต เอาตัวรอด นกยังเป็นครูให้เด็กอีกด้วย ป๋าชินและนายสิบบาทเพียง ทำหน้าที่เปิดประตูให้ ส่วนนักเรียนและรุ่นน้องมีหน้าที่แสวงหา สังเกต สรุปผล
ส่วนผมเองนั้นก็แอบๆมีความหวังในใจว่า "พวกเขาคงได้อะไรดีๆจากห้องเรียนนี้ไปไม่มากก็น้อยละครับ"
เอ้า..ช่วยกันเก็บคนละไม้คนละมือ :)
ขอลองสวมกล้องเข้ากับ ๓๐๐ เอพีโอของป๋าดูหน่อย ขัดๆเขินๆใช้ไม่ค่อยเป็นแต่ก็ชอบด้วยความที่อยากจะลองถ่ายรูปนกมานานแต่ไม่มีตังค์ซื้อเลนส์เทเล ลองถ่ายมั่วๆไปเรื่อย
ทางปาล์มก็เหอะขอลองหน่ิอยนะตามมาดูนกค่ะ แม้ยังไม่เห็นนก แค่เข้ามาในเขตุฯ ก็ดูร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ สงบ สงสัยจะมีนกมากนะคะ
ดีจังได้ไปกันทั้งครอบครัว
สวัสดีครับพี่นุช
ขอบพระคุณครับที่แวะมาเยี่ยมบ้านคนอยากเขียน
เมื่อวานนี้ไปรับรูปของอ.ปัณยาที่ใส่กรอบเรียบร้อย
ไปอวดคนนั้นคนนี้ แวะไปโฆษณาทริปกล้วยไม้น้ำ
ให้ครอบครัวเพื่อนๆของเป็ดน้อยฟัง(หาแนวร่วมเพิ่มน่ะครับ)
ได้มาแนวร่วมมาหนึ่งครอบครัว(แสดงว่ายังขายไม่เก่งเท่าไหร่ครับ)
แวะบ้านแม่ยายโม้เรื่องไปเที่ยวบ้านอ.ปัณยาให้ฟังเสียพักใหญ่
กลับมาถึงบ้านก็ดึกแล้วก็เลยได้ทำได้แค่โหลดรูปเก็บในเครื่อง
ย่อรูปไว้โพสท์ได้หกเจ็ดรูปก็นั่งจิ้มดีดโพสท์ใน G2K ที่เขตฯตอนนี้
โพระดกร้องระงมไปหมด อ.ชินเล่าให้ฟังว่าเขากำลังจับคู่กันครับผม
สวัสดีค่ะ
•หนูรีแวะมาเยี่ยมและมาขอบคุณที่ช่วยค้นข้อมูลเพิ่มเติมให้ ด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่งค่ะ
•บล็อกนี้ภาพสวยดีนะค่ะ
•ขอบคุณค่ะขอให้มีความสุขมากๆๆ
ขอบคุณรูปกล้องสองตาจากเวปไซต์ทัวร์ทโมน และข้อมูลกล้องสองตาดัดแปลงจากหนังสือ "สนุกกับนก" โดยคุณรุ่งโรจน์ จุกมงคล พิมพ์โดยสนพ.สารคดี
ความแตกต่างของกล้องยังอยู่ที่
ไบนอคนั้นพกสะดวก ไล่สายตาตามนกที่เคลื่อนไหวได้ โครงสร้างแข็งแรง ส่วนสโคปนั้นราคาค่อนข้างแพงใช้เพื่อแยกรายละเอียดของนกที่สังเกตยากๆเช่นเหยี่ยวหรืออินทรี หรือดูนกทุ่งนกน้ำนกชายเลนที่อยู่ห่างออกไปมากๆ และยังต่อเข้ากับกล้องถ่ายภาพด้วยadapter ได้อีกกลายเป็น Digiscope
ผมเองอยากได้สโคปไว้ให้เด็กๆได้ดูนก เพราะเด็กค่อนข้างจะลำบากในการจับไบนอคในการดูนกและการหาตำแหน่งของนก ทีแรกอยากจะได้ของ Kenko แต่หาของยากตอนนี้เลยอยากได้ของ Nikon รุ่น Fieldscope 60 mm ED แทนครับ
น้าเกรียง คุณเกรียงไกร สุวรรณภักดิ์(www.oknation.net/blog/nakriang) แนะนำไว้น่าสนใจดังนี้ครับ
ลองเลือกดูนะครับ ตัวของ Olympus EXWP I 8*42 ก็ใสดีนะครับเคยเห็นที่ Bigcamera ที่ระยองอยู่ที่ 4900 บาท ส่วน DPS I ก็ 2000 บาทครับ
กล้องถ่ายนกนั้นถ้่าเป็นพวก DSLR นั้นเลนส์แพงมากครับ ทางยาวโฟกัสต่ำสุดที่เค้าใช้กันก็ ตั้งแต่ ๓๐๐ มม.แต่ก็ต้องอยู่ใกล้นกมากๆประมาณ ๔ ถึงไม่เกิน ๗ เมตรมั้งครับเห็นน้าเกรียงบอก แถมยังต้องนั่งรออยู่ในบังไพร ผมเองก็เคยยืมเลนส์ของอ.ชินใช้แค่ครั้งเดียวเอง ไม่กล้าหามาใช้เหมือนกันเพราะกลัวเป็ดน้อยจะกินแกลบเอา ไหนจะต้องหาขาตั้งกล้องอีกเลนส์พวกนี้หนักครับ เคยมีคนใช้กล้องพวก compact ของ Olympus ที่มีกำลังขยายประมาณ ๒๐ เท่า เขาก็ว่าใช้ได้ดี แต่ผมไม่เคยลอง ราคากล้องคอมแพคพวกนี้ก็เอาเรื่องอยู่ประมาณเกือบๆสองหมื่น
แวะมาเรียนรู้ค่ะ ขอบคุณค่ะ
ด้วยความยินดีครับผม
15-17 มกราคม 2553 เราจะพาเด็กๆมาดูนกที่นี่กันอีกสักรอบนึงครับ
ชวนครอบครัวไว้สามสี่ครอบครัว แอบหวังเล็กๆในใจว่าจะมีสักกี่ครอบครัวที่จะมาดูนกร่วมกับเรานะ
สวัสดีค่ะ 14ปีผ่านไปแล้วไวมากเลยค่ะ ทางนี้คือเหล่าเด็กน้อยที่เรียกป๋าๆ เดินผ่านไปมาอยู่ในภาพค่ะ
เด็กน้อยในภาพตอนนี้อายุสามสิบกว่ากันแล้วค่ะ
วันหนึ่งเกิดคิดถึงป๋าและพี่ๆขึ้นมา จำได้ว่าเคยมีบลอคอยู่ เลยลองเซิจดู ไม่คิดว่าจะเจอแต่พอเจอแล้วดีใจมากเลยค่ะ
เมื่อเราโตแล้ว เหมือนความสุขจะหายากขึ้นนะคะ และพอได้อ่านบลอคนี้แล้วเหมือนได้ย้อนวันวานกลับไป ในวันที่เรามีความสุขแบบเรียบง่ายได้อีกครั้งเลยค่ะ