ความจริง


ศึกษาตนเองจากหน้ากระจก แล้วจะเห็น

               สิ่งที่เราทุกคนต้องการรู้อย่างยิ่งก็คือความจริง ถ้าเรารู้จักความจริงในทุกๆอย่างก็จะทำให้เราเป็นผู้รู้แจ้งเห็นจริงในทุกๆเรื่องหรือในทุกๆอย่าง ซึ่งในความเป็นจริงไม่เป็นเช่นนั้น คือเราไม่รู้ความจริงในหลายๆเรื่องหลายๆอย่าง โดยเฉพาะในเรื่องที่สำคัญเช่นเรื่องชีวิตมาจากไหน? และเมื่อตายแล้วจะเป็นอย่างไร?รวมทั้งเรื่องอะไรคือสิ่งสูงสุดที่ชีวิตควรจะได้? เป็นต้น ซึ่งสรุปแล้วสิ่งสำคัญที่เราไม่รู้ก็คือเรื่อง"ตัวเรานี้คืออะไร?"

บางคนอาจจะคิดว่าเราไม่สามารถจะรู้ได้ว่าเรานี้คืออะไร? หรือเป็นอะไร?ได้ เพราะอาจเชื่อว่ามันเป็นเรื่องลึกลับเกินกว่าเราจะไปล่วงรู้ได้ ซึ่งความจริงของโลกและจักรวาลนี้มีมากมายแต่เราไม่จำเป็นต้องไปล่วงรู้ให้หมดทุกอย่าง สิ่งที่เราจำเป็นจะต้องรู้ก็คือเรื่อง"ตัวเรานี้คืออะไร?"และ"อะไรคือสิ่งสูงสุดที่เราควรจะได้? ซึ่งเพียงเท่านี้ก็เพียงพอที่จะทำให้เรามีความรู้จริงในสิ่งที่เราควรจะรู้แล้ว เราจะรู้จักความจริงได้อย่างไร? เรื่องนี้เราจะต้องเป็นคนจริงก่อน คือมีใจเป็นกลาง ไม่เชื่ออะไรที่ยังไม่พิสูจน์ให้เห็นจริง เราจะเชื่อเฉพาะสิ่งที่เราพบเห็นหรือรู้แจ้งในปัจจุบันนี้เท่านั้น จุดนี้สำคัญมาก เพราะถ้าเรายังเชื่อจากผู้อื่นอยู่ เราก็จะไม่พบกับความจริงได้ แม้ว่าสิ่งที่เชื่อนั้นจะเป็นความจริงแท้ก็ตาม

บางคนอาจจะเชื่อว่าจะต้องอาศัยอำนาจวิเศษหรืออิทธิฤทธิ์หรือเป็นผู้วิเศษเท่านั้นจึงจะเป็นผู้ที่รู้แจ้งเห็นจริงได้ ซึ่งนั้นก็เป็นเพียงความเชื่อเท่านั้น ยังไม่ใช่ความจริง ที่เราเห็นแจ้งแล้ว และแม้ว่าจะอาศัยเหตุผลมาคำนวณอย่างสมเหตุสมผลที่สุดก็ยังเป็นเพียงเหตุผลเท่านั้น ยังไม่ใช่ความจริงแท้

ความจริงจึงไม่ใช่ทั้งความเชื่อและเหตุผล ความเชื่อเป็นเพียงหนทางสู่ความจริง ส่วนเหตุผลเป็นเพียงบันไดขึ้นไปสู่ความจริงเท่านั้น ถ้าเดินทางผิดก็ไม่พบความจริงและถ้าขึ้นบันไดผิดก็ไม่พบความจริงอีก อาจจะไปพบความจริงเทียมก็ได้ แต่ถ้าเดินทางถูกและขึ้นบันไดถูกก็จะพบความจริงแท้ได้

ทำอย่างไรจึงจะพบหนทางถูกและบันไดที่ถูกได้? จุดนี้สำคัญที่สุด ถ้าเราเกิดความเห็นแจ้งแล้วนั่นแหละเราจึงจะรู้ว่าเราเดินทางถูกและขึ้นบันได้ถูก ซึ่งการที่จะเกิดความรู้แจ้งเห็นจริงได้นั้นก็ต้องอาศัย การศึกษาจากผู้อื่นมาก่อน(แต่ว่าอย่าเพิ่งเชื่อ) แล้วนำมาพิจารณาไตร่ตรอง ถ้าเห็นว่าไม่ดีก็ให้ทิ้งไป ถ้าเห็นว่าดีก็ให้นำมาทดลองปฏิบัติ ถ้าปฏิบัติแล้วเห็นผลจึงค่อยเชื่อ ถ้าไม่เห็นผลก็อย่าเชื่อ(จากหลักกาลามสูตร)

             สรุปได้ว่า ความจริงที่เราควรรู้ก็คือเรื่อง"ตัวเราคืออะไร?" เมื่อรู้ว่าตัวเราคืออะไรแล้ว ปัญหาอื่นๆที่ควรรู้ก็จะหมดไป และผลที่ได้ก็คือความรู้แจ้งเห็นจริงรวมทั้งผลที่สำคัญคือความไม่มีทุกข์ ซึ่งการที่เราจะมีความรู้แจ้งเห็นจริงได้นั้นเราจะต้อง พิสูจน์ด้วยตนเองจนเกิดความรู้จริงเท่านั้นจึงจะพบกับความจริงแท้ได้ ซึ่งนี่เป็นการทำลายคุกที่กักขังสติปัญญาให้พินาศไป แล้วทำให้เรามีสติปัญญาที่เป็นอิสระอย่างเต็มที่ขึ้นมา ซึ่งนี่คือการเป็นชาวพุทธที่แท้จริง

 

คำสำคัญ (Tags): #ตัวเราคืออะไร
หมายเลขบันทึก: 242426เขียนเมื่อ 15 กุมภาพันธ์ 2009 21:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 05:10 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท