นายกฯมอบของขวัญวันเด็ก ผ่าน 4 มาตรการ เล็งตั้งกองทุนสื่อสร้างสรรค์เข้าครม. หวังเพิ่มพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับเยาวชนไทย
เมื่อวันที่ 10 มกราคม ที่ทำเนียบรัฐบาล สำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดงานวันเด็กแห่งชาติ ภายใต้หัวข้อ เปิดพื้นที่สร้างสรรค์เพื่อเด็กและเยาวชนไทย ซึ่งได้มีการจัดเวทีรับฟังความเห็นของเด็ก เยาวชน และครอบครัว โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เนื่องในโอกาสวันเด็กปี 2552 รัฐบาลขอมอบคำขวัญวันเด็กประจำปีนี้ คือ ฉลาดคิด จิตบริสุทธิ์ จุดประกายฝัน ผูกพันรักสามัคคี เพื่อเป็นพลังในการดำเนินชีวิตอย่างสร้างสรรค์ โดยคำว่า “ฉลาดคิด” คือ รู้จักคิดและเลือกใช้สื่ออย่างสร้างสรรค์ในยุคแห่งข้อมูลข่าวสารและเทคโนโลยีการสื่อสาร ซึ่งรัฐบาลจะส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยการเปิดพื้นที่สื่อสร้างสรรค์ให้แก่เด็กอย่างกว้างขวาง
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “จิตบริสุทธิ์” คือ ความดีงาม การมีจิตอาสา และการเป็นผู้ให้ รวมถึงความเสียสละเพื่อส่วนรวม ซึ่งรัฐบาลจะส่งเสริมโอกาสและกิจกรรมสร้างสรรค์ที่ช่วยบ่มเพาะให้เด็กมีเมล็ดพันธุ์ของจิตที่ดีงาม “จุดประกายฝัน” คือ ความมุ่งหมายให้เด็กทุกคนมีความฝัน มีแรงบันดาลใจไปสู่เป้าหมาย ซึ่งรัฐบาลจะสนับสนุนกลไกต่างๆเพื่อเปิดโลกแห่งความคิดอันสร้างสรรค์ของเด็ก “ผูกพันรักสามัคคี” ถือเป็นความหมายที่ยิ่งใหญ่ เพราะประเทศเราเจริญมาได้ด้วยความหลากหลายที่ประสานกันเป็นพลังสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ หากมีความเข้าใจและอยู่ร่วมกับความหลากหลายอย่างสันติ
“รัฐบาลมีความตั้งใจอย่างแรงกล้า ที่จะดำเนินการทุกวิถีทางให้เด็กทุกคนไปสู่ความหวังทั้ง 4 ประการ โดยจะร่วมมือกับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน ดำเนินการใน 4 เรื่องที่สำคัญ คือ 1.สนับสนุนพื้นที่สื่อสร้างสรรค์สำหรับเด็ก เยาวชน และครอบครัวที่มีคุณภาพให้มีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้น และผลักดันให้เกิดกองทุนสื่อสร้างสรรค์ 2.ส่งเสริมกลไกการเรียนรู้สำหรับเด็กและเยาวชน ผ่านหน่วยงานและองค์กรต่างๆที่มีภารกิจเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของเด็กอย่างเกิดประสิทธิผล 3.ส่งเสริมกลไกการทำงานร่วมระหว่างภาครัฐ เอกชน และภาคสังคม ทั้งที่มีอยู่แล้วและที่จะริเริ่มขึ้นใหม่ เพื่อสร้างให้เกิดพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับเด็ก เยาวชน และครอบครัว และ 4. ส่งเสริมบทบาทของกลไกระดับท้องถิ่น โดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้ามาร่วมขับเคลื่อนวาระเรื่องพื้นที่สร้างสรรค์ให้เกิดการขยายออกไปทุกท้องถิ่นทั่วประเทศ โดยจะเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อประกาศให้เป็นแนวทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
สุนทรพจน์ของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี
เนื่องในวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2552
ภาพของเด็กเล็กๆ ไปจนถึงเด็กนักเรียน และนิสิตนักศึกษา ถือเป็นภาพแห่งอนาคตของแผ่นดิน เรื่องราวของเด็กทุกวันนี้จึงเป็นเหมือนหนังสือเล่มใหญ่ที่เขียนอนาคตของประเทศของเราไว้
เนื่องในโอกาสวันเด็กประจำปี 2552 นี้ ผมในนามรัฐบาลจึงขอมอบคำอำนวยพรสี่ประการอันเป็นคำขวัญวันเด็กประจำปีนี้มายังเด็กทุกคน เพื่อให้เป็นดังความหวังและพลังให้เด็กทุกคนใช้ในการดำเนินชีวิตอย่างสร้างสรรค์เพื่อเป็นความหวังและพลังให้ชาติบ้านเมืองต่อไปในอนาคต ดังนี้
“ฉลาดคิด” คือคำขวัญและความมุ่งหวังที่มอบแก่เด็กทุกคน ในยุคนี้เป็นยุคแห่งข่าวสารข้อมูล และเทคโนโลยีการสื่อสารที่ช่วยเปิดโลกให้แก่การเรียนรู้ของเด็กๆ จึงเป็นยุคที่เราต้องฉลาดคิด และเลือกใช้สื่ออย่างสร้างสรรค์ ซึ่งรัฐบาลจะส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยการเปิดพื้นที่สื่อสร้างสรรค์ ให้แก่เด็กอย่างกว้างขวาง
“จิตบริสุทธิ์” คือคำขวัญและความหวังที่เน้นในเรื่องความดีงาม การมีจิตอาสา และการมีความสุขจากการได้เป็นผู้ให้ ขอให้เด็กทุกคนจงเชื่อในพลังแห่งความดี รวมถึงพลังแห่งความเสียสละและการมีจิตใจเพื่อส่วนรวม ซึ่งรัฐบาลจะส่งเสริมโอกาสและกิจกรรมสร้างสรรค์ต่างๆ ที่จะช่วยบ่มเพาะให้เด็กๆ ได้มีเมล็ดพันธุ์ของจิตที่ดีงาม
“จุดประกายฝัน” คือคำขวัญและความหวังที่มีความหมายให้เด็กทุกคนมีความฝัน มีเป้าหมายที่ดีงามในชีวิต และมีแรงบันดาลใจที่จะนำตัวเองไปสู่เป้าหมายนั้นได้ ซึ่งรัฐบาลจะสนับสนุนกลไกต่างๆ ที่จะมาช่วยกันดำเนินงานเพื่อเปิดโลกแห่งความคิดอันสร้างสรรค์ของเด็กๆ
“ผูกพันรักสามัคคี” คือคำขวัญและความหวังถึงเด็กทุกคน อันเป็นสิ่งที่มีความหมายยิ่งใหญ่ บ้านเมืองเราเจริญมาได้ทุกวันนี้ก็ด้วยความหลากหลายที่ประสานกันเข้าเป็นพลังสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น ขอเพียงแต่ให้เรามีความเข้าใจและอยู่ร่วมกับความหลากหลายทุกๆ ด้านได้อย่างสันติ
รัฐบาลมีความตั้งใจอย่างแรงกล้า ที่จะริเริ่มและดำเนินการทุกวิถีทางที่จะหนุนนำเด็กทุกคนไปสู่ความหวังทั้งสี่ประการดังกล่าว โดยเฉพาะการสนับสนุนให้เกิดพื้นที่สร้างสรรค์เพื่อการเรียนรู้สำหรับเด็ก เยาวชน และครอบครัว ทั้งพื้นที่เพื่อการเล่น พื้นที่เพื่อการเรียนรู้ พื้นที่สื่อ และพื้นที่ทางความคิด โดยนับแต่วันนี้เป็นต้นไป ผมในนามของรัฐบาลจะร่วมมือกับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อดำเนินการวาระสำคัญ 4 เรื่อง ได้แก่
1. สนับสนุนพื้นที่สื่อสร้างสรรค์ที่มีคุณภาพสำหรับเด็ก เยาวชน และครอบครัว ให้มีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้น และผลักดันให้เกิดกองทุนสื่อสร้างสรรค์สำหรับเด็ก เยาวชน และครอบครัว
2. ส่งเสริมกลไกการเรียนรู้สำหรับเด็กและเยาวชน โดยจัดให้หน่วยงานและองค์กรต่างๆ ที่มีภารกิจเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของเด็ก ได้ดำเนินการให้เกิดประสิทธิผลอย่างเต็มที่
3. ส่งเสริมกลไกการทำงานร่วมระหว่างภาครัฐ เอกชน และภาคสังคม ทั้งที่มีอยู่แล้ว และที่จะริเริ่มขึ้นใหม่ เพื่อให้เกิดการดำเนินงานตามวาระเรื่องพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับเด็ก เยาวชน และครอบครัว
4. ส่งเสริมบทบาทของกลไกระดับท้องถิ่น เช่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้เข้ามาร่วมขับเคลื่อนวาระเรื่องพื้นที่สร้างสรรค์ ให้เกิดการขยายออกไปทุกท้องถิ่นทั่วประเทศ
ขอขอบคุณทุกองค์กร ที่จะมีส่วนช่วยให้วาระอันสำคัญนี้บังเกิดผลอย่างแท้จริง รัฐบาลเชื่อมั่นว่า ด้วยพลังแห่งความร่วมมือร่วมใจครั้งนี้ เด็กๆ จะได้มีพื้นที่สร้างสรรค์ที่เพียงพอและเหมาะสมนับตั้งแต่นี้ไป
ผมในนามรัฐบาล ขออวยพรให้เด็กทุกคนมีความสุข สมหวังในสิ่งที่ดีงาม มีความแข็งแรงแกร่งกล้าทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา และขอจงมีแรงบันดาลใจที่จะทำให้ความฝันของแต่ละคนเป็นผลสำเร็จ
ทั้งนี้แผนงานสื่อสร้างสุขภาวะเยาวชน(สสย.)ภาย ใต้การสนับสนุนสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส. ได้ร่วมกับองค์กรภาคีต่างๆที่มาร่วมจัดซุ้มกิจกรรมบริเวณภายในทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้เด็กๆได้เข้าร่วมในกิจกรรมต่างๆคือ ซุ้ม ฉลาดคิด ซุ้มจิตบริสุทธิ์ ซุ้มจุดประกายฝันและซุ้มผูกพันรักสามัคคี โดยเครือข่ายต่างๆ มูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก มูลนิธิเครือข่ายครอบครัว คณะทำงานด้านเด็ก 19 องค์กร เครือข่ายครอบครัว เครือข่ายจิตอาสา เครือข่ายหนังสือเพื่อเด็ก เยาวชนและครอบครัว ขบวนการตาสัปรด แผนงานICT นิตยสารฟิ้ว และโลกทัศน์ สโมสร
รายงานโดย
นายเชษฐา มั่นคง
แผนงานสื่อสร้างสุขภาวะเยาวชน (สสย.)
วันที่ 12 มกราคม 2552