เรื่องเล่าวันนี้ (22 ก.พ.52) เชื่อมโยงจากบันทึกที่แล้วครับ เนื่องจากผมได้รับมอบจากองค์กรให้รับผิดชอบการจัดการความรู้(KM) ก็คิดทบทวนในหลาย ๆ ด้าน เป็นเรื่องที่ยากไม่น้อย ที่สำคัญและทำก่อนที่คิดได้ ก็คือชวนคนที่สนิท ๆ กันมาหลาย ๆ คน โดยคุยหารือเป็นการส่วนตัวก่อนสั้น ๆ พอให้รู้เจตนาของผม ทั้ง พี่ เพื่อน และน้อง (ทั้งในส่วนของสำนักงานระดับจังหวัด และระดับอำเภอ)
จนในที่สุดก็ได้ทำเป็นเรื่องเป็นราว และเห็นพ้องกันว่าตั้งเป็นคณะทำงาน (สร้าง KM Team) ให้ทีมคุณเอื้อเป็นที่ปรึกษา และได้ประชุมวางแผนเพื่อให้เป็นตามขั้นตอนและเป้าหมายที่ชัดว่าจะทำอะไรกันก็ตามบันทึกที่แล้ว ครับ หลัก ๆ เพื่อ "เพื่อนช่วยเพื่อน" ทำให้เนียนอยู่ในระบบส่งเสริมการเกษตร
ท้าพิสูจน์ของการทำงาน KM Team ครั้งแรก ในการลงสนามปฏิบัติจริง เมื่อวันที่ 17 ก.พ.52 ในการประชุมเชิงปฏิบัติการระดับอำเภอ กลุ่มอำเภอลุ่มน้ำปากพนัง ที่ศูนย์อำนวยการและประสานงานโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง เพื่อให้เป็นไปตามที่พูดว่า "ให้เนียนอยู่ในเนื้องาน" นั้นเป็นอย่างไร
กลุ่มอำเภอนี้มี อำเภอเมือง พระพรหม ร่อนพิบูลย์ จุฬาภรณ์ ชะอวด หัวไทร เชียรใหญ่ เฉลิมพระเกียรติ และปากพนัง มีจำนวนคน รวม ๆ แล้ว 83 ซึ่งก็เยอะ พอสมควร เรา KM Team ไปกันตั้งแต่เช้า เพื่อดูสถานที่ที่อำเภอปากพนัง(อำเภอเจ้าภาพ) ได้เตรียมประสานไว้ให้และก็จัดห้องประชุมไว้เรียบร้อยแล้ว สามารถใช้เครื่องมือโสต ฯ ได้สะดวก ทราบว่าทางเจ้าภาพได้เรียนเชิญท่านนายอำเภอมาพบปะในฐานะเจ้าบ้านด้วย ก็เลยต้องปรับเวลาจากกระบวนการที่วางไว้เล็กน้อย เนื่องจากถ้าแยกกลุ่มออกไปแล้วจะลำบากเวลาเรียกกลับมารวมใหม่ในเวลาสั้น ๆ เพราะท่านนายอำเภอยังไม่ได้มาในช่วงเริ่มต้น ก็อยากให้ทุกอย่างที่ไม่ได้อยู่ในขั้นตอนการเรียนรู้ได้ดำเนินการให้เรียบร้อยก่อน และก็รับแจ้งทางโทรศัพท์ว่าท่านนายอำเภอติดราชการด่วนไม่ได้มาพบพวกเราแล้ว ก็เริ่มกระบวนการตามที่อำเภอปากพนังเจ้าภาพกำหนดไว้ ส่วนเวทีเรียนรู้ผมบอกเจ้าภาพไว้ว่าเมื่อเจ้าภาพมอบมาแล้วเวลาคงเป็นของเรื่องการเรียนรู้ทั้งหมด จนสิ้นสุดกระบวนการจึงจะเปลี่ยนเป็นเรื่องอื่นได้ เพราะจะทำให้เสียสมาธิและความลื่นไหลจะหายไป
เกษตรอำเภอปากพนัง ท่านวิจิตร นวลพลับ นำเสนอ แนะนำ "อำเภอปากพนัง" ต่อที่ประชุม และมอบเวลามายัง KM Team โดยคุณนิพนธ์ สุขสะอาด ผู้รับผิดชอบงานระบบส่งเสริมการเกษตร ซึ่งเป็นปีแรกที่รับผิดชอบงานนี้ชี้แจงสั้น ๆ และมอบมายังผมต่อ ผมชี้แจง พอเข้าใจสั้น ๆ ให้พอเห็นเจตนา ของ KM Team ว่าเรามีงานอะไรบ้างที่รออยู่ข้างหน้าและควรเอาประสบการณ์ของเรามาช่วยกันจัดการ โดยเฉพาะ เรื่องการจัดทำแผนพัฒนาการเกษตร ตามภาระกิจ และแผนชุมชนที่จังหวัดกำลังจะจัดทำ ซึ่งเกี่ยวโยงถึงกันวิเคราะห์ให้เข้ากันจะเป็นงานเดียวกัน หลายคนมีประสบการณ์ทำได้ง่ายบูรณาการเก่งอยู่แล้วเอามาแลกเปลี่ยนกับเพื่อนบ้างเพื่อให้เพื่อนได้เป็นแนวทางในการปรับใช้ และแยกกลุ่มกันไปซึ่งทุกอย่างเตรียมการไว้ล่วงหน้าทั้งหมด
กลุ่มอำเภอนี้มีคนจำนวนมาก ได้ออกแบบกระบวนการพอสังเขป ดังนี้
การดำเนินการกิจกรรมในวันนี้ เป้าหมายมีซ้อนทับกันอยู่ในหลาย ๆ ด้าน คือ ต้องการให้ผู้ที่คิดว่ายังสับสนได้เรียนรู้ของจริงเข้าใจด้วยตัวเอง ให้เข้าใจ KM เนียนในเนื้องานเป็นอย่างไร ให้เข้าใจ KM เป็นเครืองมือใช้ตอนไหน
ส่วนที่ลุ้นสำหรับ KM Team ในครั้งนี้ คือเมื่อจบเวทีแล้ว 83 คน คิดอะไร เรามีเวลากับจำนวนคนไม่สมดุลกันจึงให้แค่ผู้แทนกลุ่มได้พูด 4 คน ที่เหลือให้เขียนความรู้สึก ผลออกมาเราต้องเลิกทำหรือทำต่อไป แต่ในที่สุดก็เป็นกำลังใจให้ KM Team ได้ขับเคลื่อน "เพื่อนช่วยเพื่อน" กันต่อไป เพราะกระดาษ A4 ที่ตัด 3 ส่วน เป็นบัตรคำ (ได้เขียนย้อนกลับมาทุกคน บางท่านด้วยความตั้งใจใส่ชื่อ พร้อมคำหน้าว่า "พี่......." และ "น้อง.......") ที่แจกให้เพื่อเขียนความรู้สึก ว่าวันนี้เป็นอย่างไร โดยไม่ใช้หลักการอะไรเลยผมขอร้องให้เขียนทุกคน ทั้ง บวก และ ลบ และโดยสรุปเขาบอกให้ทำต่อไปดีแล้วกรุณาอย่าเลิกหรือเปลี่ยนแปลงอีก
สวัสดีครับ พี่วิทย์
น่าสนใจดี จะนำไปปรับใช้มั่ง
ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณมากค่ะ คุณชาญวิทย์ เป็น lo km ที่ดีค่ะ จะลองเอาไปใช้บ้างค่ะ
ยินดีแลกเปลี่ยนความเห็นค่ะ
เสียดายจังเลย
ไม่ได้อยู่ KM Team ของนครศรีฯ ด้วย...
เด็กบันทึก
ยินดีต้อนรับกลับนคร
เด็กบันทึก
ยินดีต้อนรับกลับนคร
กลับไปจะได้อยู่ฝ่ายยุทธฯ หรือป่าวค่ะ