1. หลังชนกำแพง


หลังชนกำแพง โดย ธันย์ โสภาคย์

 

        มะเร็งเป็นอาการของภาวะผิดปกติของร่างกายทุกระบบ ก้อนมะเร็งไม่ใช่โรคที่กำลังทำร้ายท่าน แต่ท่านเองอยู่ในลักษณะที่แย่มากแล้ว มะเร็งสงสารท่าน จึงทำอาการให้ท่านตกอกตกใจ ไม่ใช่หยอกเล่นฉันเพื่อนฝูงผู้ชอบเย้าแหย่หรือแซวเล่นสนุก ๆ แต่เป็นเพื่อนที่ห่วงใยตัวท่านเป็นพิเศษ แท้จริงเป็นตัวแทนของท่านเอง เป็นหุ้นส่วน เป็นมิตรสนิทที่รู้อกรู้ใจท่านดีมาก เป็นทั้งเพื่อนกินและเพื่อนตาย เพราะเขากินอย่างเดียวกับที่ท่านกิน และร่วมตายกับท่านด้วยอย่างไม่มีเงื่อนไข เพียงแต่ว่าเขาเป็นเพื่อนที่มีชีวิต แต่ไม่มีสมองของตัวเอง ไม่มีความคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุมีผล มีอยู่แต่ความจำผิด ๆ ที่ฝังอยู่ในดีเอ็นเอ สารโปรตีนที่บรรจุข้อมูลทางพันธุกรรม อยู่ในเม็ดกลางเซลล์ หรือนิวเคลียสของเซลล์ที่ถูกตั้งโปรแกรมไว้ให้เติบโต และเพิ่มจำนวนลูกเดียว ไม่มีเบรกห้ามล้อ ประดุจหัวรถจักรดีเซลที่ไม่มีคนขับ หลุดออกจากบางซื่อพุ่งชนทุกอย่างที่ขวางราง จบลงเมื่อมีการทำลายล้างตรงที่สุดทางที่หัวลำโพง สถานีกลางที่ควบคุมระบบรถไฟไทย จึงหมดแรงสิ้นฤทธิ์ เพราะระบบของสถานีกลางล้มเหลว

        สมมุตว่าตัวท่านเองอยู่ในโบกี้ที่รถจักรดีเซลแรงสูงลากห้อตะบึงอยู่ ท่านจะทำอย่างไร? สถานีหัวลำโพงยังอยู่ห่าง ๑๐  กิโลเมตร ระหว่างทางมีถนนที่รถยนต์วิ่งตัดรางรถไฟหลายจุดทั้งถนนใหญ่และเล็ก บางจุดมีสัญญาณปิดถนนอัตโนมัติ บางจุดก็ไม่มีแต่มีเจ้าพนักงานสับราง หรือไม่ก็ลากรั้วมากั้นชั่วคราวตามตารางการเดินรถ แต่รถไฟขบวนนี้ไม่มีกำหนดการมาก่อน อาจมีรถไฟขบวนอื่นสวนทางมาบนรางเดียวกัน ความเร็วของรถขณะนั้น ๖๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง ท่านเหลือเวลาราว ๑๐ นาทีจะถึงหัวลำโพงโดยไม่มีห้ามล้อ ท่านจะทำอย่างไร?

 

        แวบหนึ่งในความคิด ท่านจะกระโดดรถไฟออกมา แต่ก็กล้า ๆ กลัว ๆ เพราะเห็นเสาไฟฟ้าข้างทางวิ่งสวนทางไปเร็วจี๋ ถ้าไม่ตายก็คงเดี้ยงแน่ อีกความคิดหนึ่งท่านบอกตัวเองว่าจะหาทางหยุดเครื่องจักรที่ขาดการควบคุม หมายความว่าท่านต้องหาทางปีนข้ามข้ามไปห้องคนขับแล้วทำอะไรสักอย่างหนึ่ง แต่ท่านไม่มีความรู้เรื่องเครื่องยนต์กลไกมาก่อนแล้ว โอ ...การปีนป่ายไต่วิบากหรือก็ไม่เคยเลยในชีวิต เคยแต่ดูหนังที่พระเอกอย่าง สตีฟ แมคควีน ไอ้ปืนโต หรือ คริสโตเฟอร์ รีพ ที่แสดงเป็นซูเปอร์แมนแล้วชอบมาก ก็เท่านั้นเอง ประสบการณ์จริงช่างมีจำกัด แต่คนแรกหรือก็ตายไปแล้วด้วยมะเร็ง ส่วนอีกคนก็อัมพาตครึ่งท่อนด้วยอุบัติเหตุในการแสดง (ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว) แล้วกูแน่แค่ไหนถึงจะไม่ตาย? อย่ากระนั้นเลย ไม่เสี่ยงดีกว่า สู้นั่งปลงอนิจจังและสวดมนต์ภาวนา ขอให้คุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลก ในประโยคที่คุณเคยท่องบ่นบ่อย ๆ จนจำได้ ทำใจให้สงบ มองทุกอย่างรอบตัวอย่างคนมีธรรมะ รู้สัจธรรมดีว่าทุก ๆ สิ่งล้วนเกิดมา-ตั้งอยู่-ดับไป

 

        การตัดสินใจแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าสำหรับแต่ละคนขึ้นอยู่กับพื้นฐานของชีวิตที่สั่งสมมาตั้งแต่เกิด เมื่อเข้าโรงเรียนมีการพัฒนาไปอีกขั้นหนึ่ง และเมื่อมีประสบการณ์ในชีวิตมากขึ้น ๆ ก็พอรู้จักแก้ปัญหาโดยเอาประสบการณ์ที่ดีเป็นหลักและประสบการณ์เลว ๆ ที่ผ่านมาเป็นครู ทุกคนล้วนมีความทรงจำที่ไม่น่าพิสมัยนักคอยรบกวนจิตใจอยู่ แม้กระทั่งเวลาผ่านไปนานปีก็ไม่ยอมละลืม บางคนมีความจำแสนสั้น เรื่องที่ผ่านแล้วปล่อยให้ผ่านเลย ไม่มีการย้ำคิดย้ำความผิด ความน่าละอายใจ ความอดสู ตลอดจนความโศกเศร้าอาดูร เมื่อชีวิตวกวนอยู่ในวังวนแห่งความผิด การแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่จะตามมาจึงไม่เป็นไปตามข้อมูลและวัตถุประสงค์ที่ไม่เหมือนเดิม จิตใจที่ว้าวุ่นทำให้หมดความอยากพัฒนาตนเองขึ้นสู่ระดับยอดของบันไดอาชีพ ไม่ปรารถนาแม้ชีวิตครอบครัวและส่วนตัวที่ดีกว่าเดิม ความผิดในอดีตก่อความกลัว กลัวว่าจะทำผิดอีกแล้วได้รับผลร้ายทวีคูณ จิตใจมนุษย์นั้นแปลกตรงที่ใครมีความคิดปักใจเชื่ออย่างไร ผลของการกระทำของเขาก็จะออกมาเช่นนั้น คล้ายถูกสะกดจิตไม่ให้เป็นตัวของตัวเอง แต่หารู้ไม่ว่าจิตที่ถูกสะกดนั้นแท้จริงออกมาจากสมองซีกขวาของตนเองที่เก็บความจำเก่าแก่ไว้ในเบื้องลึกและส่งกระแสมาควบคุมอยู่เสมอไม่ปล่อยวาง จนกว่าเจ้าตัวจะหาวิธีการดับกระแสของสมองซีกขวาได้นั่นแหละ จึงจะทำอะไรได้อิสระตามที่ควรจะเป็นไปในสถานการณ์ฉุกฉินอย่างรถไฟที่แล่นตะบึงไปข้างหน้า โดยไม่มีกลไกห้ามล้อเพราะขาดคนควบคุมบังคับ การตัดสินใจในเหตุฉุกเฉินรีบด่วนมีความสำคัญที่สติ หากสติไม่นิ่ง มีแต่ความกลัว ความหมดหวัง ความสิ้นคิด ความกังวล ความซึมเศร้า การแก้ปัญหาย่อมไม่เป็นผลดีเลย บางคนตัดปัญหาโดยตัดสินว่าเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ หมดอำนาจและเรี่ยวแรงต่อสู้ เพราะภาพที่อยู่ตรงหน้าแสนจะน่าหวาดกลัว มองไม่เห็นทางออกเลย ทุกอย่างเป็นอุปสรรคไปหมด เมื่อทำนี่ก็ไม่ได้ ทำนั่นก็ไม่ดี ทำโน่นยิ่งไม่เห็นทาง เพราะไม่เคยทำและไม่เคยเห็นคนทำสำเร็จมาก่อนเลย ความจริงสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นไม่ได้จำกัดตัวว่าจะเกิดไม่ได้ ทุกอย่างมีทางคลี่คลายได้ในลักษณะที่ไม่คาดคิดกันมาก่อน บ้างหาว่าเป็นปาฏิหาริย์ เป็นโชคของเจ้าทุกข์ เป็นเหตุบังเอิญ เมื่อมีเหตุการณ์คล้ายกันอีกก็ได้แต่หวังว่าปาฏิหาริย์แบบนั้นจะกลับมาส่งผลให้อีก  ไม่มีความริเริ่มพยายามที่จะจัดวิธีแก้ให้เป็นไปตามที่เห็นว่าดีที่สุดสำหรับสถานการณ์ขณะนั้น ขอให้ตั้งหลักคิดใหม่ ด้วยสติที่ควบคุมด้วยจิตวิญญาณ ตั้งแต่นาทีนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าจะมีเวลาเหลือมากน้อยแค่ไหนก็ตาม

 

        มะเร็งนั้นแน่นอนที่สุด เป็นปัญหาทางกายภาพ เป็นการเจ็บป่วยที่ร้ายแรงสำหรับร่างกายทั้งมวล แม้กระนั้นคนที่เคยต่อสู้กับมะเร็งอย่างมีสติและประสบการณ์ต่างรู้ดีว่ามะเร็งเป็นเรื่องของการต่อสู้ทางจิตใจและจิตวิญญาณด้วย และพวกเขารู้ดีแล้วว่าผลของการต่อสู้ทางจิตใจและจิตวิญญาณส่งผลดีอย่างไรบ้าง

 

        ขอให้ท่านเจาะลึกลงไปในส่วนลี้ลับของจิตวิญญาณของท่านที่ติดตั้งมากับตัวนานแล้วแต่ท่านไม่เคนสนใจเลย บัดนี้เป็นเวลาอันเหมาะที่จะทำความเข้าใจถึงพลังอันสูงส่งที่อยู่เบื้องหลัง ขอให้ใช้ความเจ็บป่วยของท่านเป็นโอกาสเพื่อมีชีวิตก้าวไกลต่อไปข้างหน้า นั้นอาจดูเสมือนมากเกินไปสำหรับความสามารถของท่าน แต่ขอให้เชื่อเถิดว่าสิ่งนี้เป็นไปได้และท่านทำได้ การเจ็บป่วยแม้ร้ายแรงปานใดก็เป็นโอกาสหรือช่องทางให้เจ้าตัวค้นพบตัวเองว่าสามารถพัฒนาชีวิตให้เป็นคนใหม่ได้อย่างไม่เคยคาดฝันมาก่อน สิ่งนี้บังเกิดขึ้นแล้วกับคนหลายล้านที่ตกที่นั่งเดียวกับท่านนี่แหละ ความเจ็บป่วยเปรียบได้กับสัญญาณปลุกให้ท่านตื่นขึ้นมาในตอนเช้า เป็นสัญญาณตั้งต้นของการพิจารณาชีวิตที่เป็นมาและชีวิตที่ต้องการให้เป็นไปในภายหน้า

 

        ไม่ว่าท่านจะมีเวลาคิดถึงเรื่องนี้กี่มากน้อยกว่าจะสิ้นชีวิต ท่านก็ต้องใช้เวลาทุกนาทีเพื่อมีชีวิตอยู่อย่างครบรูปแบบในวันนี้ให้ได้ ตั้งความปรารถนาไว้ในใจว่าจะให้อภัยและให้ความรักอย่างลึกซึ้ง สิ่งนี้ทำให้ท่านมีชีวิตเต็มเปี่ยมขึ้นมาในบัดดล และมักมีความหมายไปถึงชีวิตที่ยืนยาวต่อไปเท่าที่ท่านคาดหวังก็ได้ ขอให้การเจ็บป่วยครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้น เลือกนาทีนี้ให้เป็นนาทีที่จะมีชีวิตเต็มเปี่ยมด้วยคุณภาพ อนาคตที่สดใสอยู่ไม่ห่างไกลจากท่านนักแล้ว การเลือกทางเดินและเส้นทางของจิตวิญญาณในชีวิตเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ท่านจะทำได้เมื่อแพทย์ระบุออกมาว่าท่านเป็นมะเร็ง

 

        อย่าลืมว่า ท่านทำได้ ลงมือทำเดี๋ยวนี้

 

หมายเหตุ เรื่องนี้พิมพ์เผยแพร่ครั้งเดียวในหนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ ศาสตราจารย์ นายแพทย์ ม.ร.ว. ธันยโสภาคย์ เกษมสันต์ วันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๔๓

 

ตอนต่อไป

เกิดอะไรขึ้นเมื่อหมอบอกว่าท่านเป็นมะเร็ง

หมายเลขบันทึก: 243968เขียนเมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2009 19:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:20 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)
  • สวัสดีค่ะหลานดาว
  • เข้ามาอ่านค่ะ

สวัสดีค่ะป้าแดง

บันทึกยาวหน่อยนะคะ...เอาให้จบในบทเลยค่ะ ติดตามต่อสัปดาห์หน้านะคะ ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะ..

  • พี่อมรแวะมาอ่านค่ะ
  • ดีมากเลยค่ะ
  • มีประโยชน์สำหรับพี่อมรมากค่ะ

                  

  • สวัสดีค่ะ คุณดาว
  • เป็นบทความที่ดีมากค่ะ
  • ครูอิงอ่านจนจบโดยไม่คิดเสียดายเวลาเลยค่ะ
  • เคยพาเพื่อนไปตรวจที่สถาบันมะเร็ง
  • คนที่เป็นมะเร็งบางคนถูกทอดทิ้งให้อยู่อย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย
  • โดยเฉพาะคนเป็นภรรยา ถูกทอดทิ้งจากสามี
  • ครูอิงเคยมีหลานสาว เป็นมะเร็งปากมดลูก
  • อาการหนัก ตายก่อนกำหนด ทั้งที่น่าจะยังอยู่ได้อีก
  • เป็นเพราะสามีไม่ดูแล  แถมติดผู้หญิงใหม่ ทั้งที่เมียยังไม่ตาย
  • เศร้ามากค่ะ
  • จะมาติดตามตอนต่อไปนะคะ
  • ขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีค่ะ พี่ดาวลูกไก่ คะ

หลายคน แค่รู้ว่าเป็นโรคมะเร็ง หรือเป็นโรคร้าย ก็หมดแรงหมดกำลังใจไปก่อนแล้ว 

น้องใบไม้คิดว่า โรคภัยไข้เจ็บในชีวิตคนเราเป็นเรื่องธรรมดา ที่มีการเกิด แก่ เจ็บ ตาย.....  การใช้ชีวิตในทุกๆ วันนี้  คนส่วนใหญ่มักจะอยู่ในภาวะเร่งรีบ  จนลืมไปว่า ร่างกายของเราก็ต้องใช้เวลาส่วนหนึ่ง ในการดูแล ทำความสะอาด บำรุงรักษา ให้ความสดชื่น..... ไม่ต่างจากสิ่งของที่เอื้อประโยชน์ให้สุขสบายในการใช้ชีวิตประจำวัน  หลายคนก็ชะล่าใจ ใช้ร่างกายเราเอง แบบไม่ทนุถนอม และไม่พักผ่อน....  พออายุมากหน่อย ร่างกายก็สึกหรอเร็วกว่าปกติ..... 

เคยสังเกตุเห็นคนที่มีอายุหน่อย ไม่สบายด้วยโรคนี้   พอไปตรวจกลับไปเจอโรคโน้น  แล้วยิ่งตรวจก็ยิ่งเจออีกหลายโรค  ทีนี้ ก็เลยเสียกำลังใจ ยิ่งกว่าเดิม

ดังนั้น น้องคิดว่า  ทุกๆ วัน เราต้องดูแลร่างกายของเรา และ สร้างกำลังใจ คิดบวก เมตตาต่อร่างกายจิตใจของตัวเอง  มีการแบ่งเวลาพักผ่อนไปด้วย คู่ๆ กับการใช้ชีวิตประจำวันค่ะ

สวัสดีค่ะคุณครูพี่อมร ไกรเทพ

ดาวลูกไก่อ่านบันทึกของคุณครูพี่อมรด้วยค่ะ

บันทึก 48.เมื่อฉันเป็นมะเร็ง ตอนที่ 1 มีส่วนในการตัดสินใจนำเรื่องนี้มาเผยแพร่ด้วยค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะคุณครู อิงจันทร์

เมื่อสมัยดาวลูกไก่อายุ 30 ต้นๆ เกือบได้เลี้ยงมะเร็งไว้ในมดลูกเหมือนกันค่ะ หากปล่อยทิ้งไว้ ก็คงไม่อยู่ถึงวันนี้

เมื่อมะเร็งเปิดเผยตัวเอง ก็ควรต้องยอมรับว่าเป็นสมาชิกหนึ่งของครอบครัวแล้วนะคะ

สวัสดีค่ะน้อง ใบไม้

เห็นด้วยนะคะว่าเราจะต้องดูแลสุขภาพกายคู่กับสุขภาพจิต แต่บางครั้งก็รู้สึกว่า..ทำยาก

พ่อพี่คนหนึ่งค่ะ ทำ แต่พอเห็นคนไข้เดือดร้อนกว่ามากๆ ก็ลืมดูแลตัวท่านเอง พี่ก็แปลกใจมาก ที่ ท่านเดินทาง  ไปอยู่ที่ รพ. ในกทม 3 วัน -อยู่ ชม. สี่วัน ไปดูแลคนไข้ค่ะ ไม่ได้ไปรักษาตัว

พี่ดาวคะ 

พ่อพี่คนหนึ่งค่ะ ทำ แต่พอเห็นคนไข้เดือดร้อนกว่ามากๆ ก็ลืมดูแลตัวท่านเอง พี่ก็แปลกใจมาก ที่ ท่านเดินทาง  ไปอยู่ที่ รพ. ในกทม 3 วัน -อยู่ ชม. สี่วัน ไปดูแลคนไข้ค่ะ ไม่ได้ไปรักษาตัว.....

คุณพ่อของพี่ดาว เป็นคุณหมอที่มีจิตเมตตาสูง  น้องขอชื่นชมค่ะ.....

มีช่วงหนึ่งในชีวิต ที่น้องก็เคยไปเกาะติดโรงพยาบาล  และเห็นได้ชัดเจนเลยว่า  คนไม่สบาย รออยู่นอกห้องตรวจ แต่ละวัน เยอะๆๆๆ มากๆๆๆ  เคยคำนวณเวลา ถ้าคุณหมอใช้เวลาให้คนไข้ คนละ 10 นาที  จะตรวจคนไข้ได้ชั่วโมงละ 6 คน  ซึ่งในความเป็นจริงกับปริมาณคนไข้  แทบจะไม่เกิดประโยชน์ในการจะได้ใช้เวลา คิดเอาความรู้ลึกๆ ที่มีอยู่ออกมาใช้ เพราะที่น้องเห็น และคิดเอง ก็คือ วินิจฉัยแบบรวมๆ รักษาคล้ายๆ กันไปหมดทุกโรคค่ะ.....

จริงอยู่  คุณหมอบางท่านมีสปิริตสูง  แต่ความเป็นไปไม่ได้ในความเป็นจริงที่เกิดขึ้นก็มากค่ะ  ก็เลยกลายเป็นการทำร้ายตัวเองไปโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ 

น้องเคยเห็นกระทั่งว่า  นักศึกษาแพทย์ ปีสุดท้าย ใช้เข็มทิ่มๆๆๆ ร่างกายคนป่วยระยะสุดท้าย เหมือนกับกำลังจิ้ม กบ หรือสัตว์ทดลองด้วยค่ะ  และไม่เคยลืมเลย.....  กว่าจะมาเป็นนักศึกษาแพทย์ปีสุดท้าย มีเวลา ตั้ง 6 ปีกว่า  แต่จิตใจไม่ได้รับการปลูกฝังเมตตาเลย  ซึ่งไม่รู้จะโทษหลักสูตรแพทย์ หรือ โทษพื้นฐานของจิตใจ.....

ขอบคุณค่ะน้องใบไม้ที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็น พี่เคยไปคลีนิคคุณหมอ (เฉพาะทาง/อาการ) ที่มีประสบการณ์สูง ๆ  ท่านจะใช้เวลาตรวจวินิจฉัยคนไข้จากการพูดคุย ดูอาการ บางครั้งไม่ทันได้นั่ง หรือไม่เกิน 2 นาทีก็สั่งยาได้แล้วค่ะ แต่หมอใหม่ๆ บางครั้งเจอ 15-20 นาที และอาจยังจัดยาไม่ถูกกับอาการ แต่เข้าใจค่ะ ในไม่ช้าคุณหมอทุกคนก็จะสามารถบริการคนไข้ได้เร็วขึ้น  แม่นยำขึ้น

แต่...นิสัยพี่เสียอย่างเดียว ไม่ค่อยชอบการรอนานค่ะ เอะอะอะไรก็ไป...คลีนิก(เฉพาะทาง/อาการ เช่น หูคอจมูก , ตา , กระดูก) ดีกว่า แล้วเลือกเวลาก่อนหมอปิดสัก 15-30 นาที ถ้ามีคนไข้นั่งเยอะก็..ฟิ้ว วันอื่นก็แล้วกัน (ทำยังกับว่า โรคเรานั้นรอได้เนอะ^^)

ตรงนี้พี่เคยอ่านบทความของพ่อพี่ด้วยค่ะ เรื่องการตรวจวินิจฉัยอาการ เจอหมอทั่วไปก็อย่าง หมอเฉพาะด้านก็อีกอาการ แจ๊กพอตจะ...แตกมั้ย!?! อิอิ

เรียนท่านดาวลูกไก่ น้องพี่สีชมพู

  • UKM15 มน เป็นเจ้าภาพครับ ช่วงนั้เปลี่ยนอธิการบดี ไม่แน่ใจ ว่า ท่านรองวิบูลย์ ท่าน จะนัดเข้า BAR กันวันใด
  • ส่วนกิจการ LO Lib_CMU v2 ได้จัดการเรื่องตั๋วเดินทางแล้วครับ จะมาถึง เชียงใหม่ เที่ยวบ่ายๆ
  • รบกวน ขอมี ช่วงติดตาม กลุ่มแรก ที่เคยเข้าเรียนรู้ ด้วย ครับท่าน

เรียนท่านอาจารย์ JJ ค่ะ

  • รับทราบและปฏิบัติด่วนจี๋แล้วค่ะ
  • พรุ่งนี้จะนำเสนอโครงการเพิ่มมูลค่าทรัพยากรมนุษย์ที่มีชีวิตอยู่ติดหนังสือ :) จัดกิจกรรมสามช่วงเวลาต่อวัน สูตรเวลา 3:2:2 (เกรงใจอาจารย์บอกถึงเที่ยงคืนก็ได้ค่ะ) ยึดประเภทผู้แลกเปลี่ยนเรียนรู้เป็นหลักค่ะ ขอบพระคุณค่ะ
  • ภาพสวยนะคะ มีความหมายไหมคะนั่น...55 สมดุลในธรรมชาติ

10. ดาวลูกไก่ ชื่นชมยินดี
เมื่อ อา. 22 ก.พ. 2552 @ 21:59

พี่ดาวคะ  น้องใบไม้ขอโทษด้วยค่ะ เพราะสิ่งที่น้องเขียนนั้น มีความในใจ ที่วกวน มากไปหน่อย  ตัวเองมาอ่านอีกทีก็รู้สึกงง ๆ อยู่เหมือนอยู่เหมือนกัน  พี่ดาวอย่าถือสาเลยนะคะ

การเลือกทางเดินและเส้นทางของจิตวิญญาณในชีวิตเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

เห็นด้วยค่ะ ที่ขวัญ และ กำลังใจของตัวเอง เป็นเรื่องสำคัญมากกว่าสิ่งอื่นๆ  ขอบคุณน้ำใจของพี่ดาว ที่ทำให้น้องใบไม้ มีกำลังใจมากมายในวันนี้ค่ะ.....

 

 

 

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท