วันวัยในยามเยาว์...เวลาอันมีค่าแห่งชีวิต


วันนี้ที่ลูกชายตัวน้อยๆทั้ง 3 คนที่เราเฝ้าดูแล รักและเอาใจใส่มาเป็นเวลา 12, 16 และ 17 ปีเติบโตมาเป็นหนุ่มน้อยๆที่ตัวโตกว่าคุณแม่หมดแล้ว ได้เห็นลูกๆรวมกลุ่มกันร้องเพลง เจ้าตัวเล็กสุดปรับจังหวะให้เร็วขึ้น เพื่อจะให้พี่ชายทั้ง 2 ร้องตามให้ทัน ท่าทางสนุกสนานกันเป็นยิ่งนัก ทั้งๆที่ปกติแล้วเจ้าตัวเล็กกับเจ้าตัวโตจะค่อนข้างเป็นไม้เบื่อไม้เมากันยิ่งนัก โดยเฉพาะในช่วงที่ต่างสลับกันเป็นวัยรุ่น นึกย้อนเวลาแล้วได้เห็นว่าสิ่งต่างๆที่เราทุ่มเทให้เขานั้น มาปรากฎผลเอาในวัยนี้นี่เอง

ลูกทั้ง 3 คนมีลักษณะนิสัยประจำตัวที่ต่างกันอย่างมากมาย ไม่ใช่พี่น้องที่รักใคร่กลมเกลียวกันสักเท่าไหร่ ต่างคนก็ต่างเป็นตัวของตัวเองอย่างที่สุด เป็นเด็กธรรมดาๆที่มีทั้งเวลาดีและเวลาร้าย มีทั้งเวลาที่มีเหตุผลและหงุดหงิดฉุนเฉียว แต่เราก็อยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขสนุกสนานเป็นส่วนใหญ่ ลูกๆเป็นเด็กดีของคุณครูและผู้ใหญ่รอบๆตัว เป็นเพื่อนที่ดี เป็นคนดีของสังคม รู้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำเวลาอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม มองเห็นแล้วว่าจากวันนี้เป็นต้นไปไม่ว่าเขาทั้ง 3 คนจะไปทำอะไรที่ไหน เขาก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สังคมของเราดีขึ้นได้แน่ๆ ซึ่งนี่คือเป้าหมายที่ตัวเองตั้งใจเอาไว้เมื่อคิดอยากมีลูก

ไม่ได้คาดหวังให้ลูกต้องเก่งกาจเหนือใครๆ ไม่คาดหวังให้ลูกเป็นคนดีเลิศที่ใครๆยกย่องชื่นชม เพียงหวังให้เขาเป็นคนดีที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม เป็นเพื่อนที่ดีของผู้อื่น มีน้ำใจ มีความสุขสนุกสนาน ทำให้คนที่อยู่รอบข้างมีความสุข ซึ่งเป็นคุณสมบัติพื้นฐานง่ายๆที่จะสร้างให้เกิดสิ่งดีๆได้อีกมากมาย

เชื่อว่าสิ่งต่างๆเหล่านี้ต้องบ่มเพาะมาตั้งแต่เขาเกิดมาเลยทีเดียว การสอนให้ลูกมีวินัย รู้หน้าที่ รักเสียงเพลง รักธรรมชาติ รู้ว่าความสุขอยู่ที่ใจไม่ใช่วัตถุ ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวมีความหมาย เรื่องเล็กเรื่องน้อยในชีวิตประจำวันก็เป็นบทเรียนได้ทั้งนั้น เห็นคุณค่าของทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆตัว เราใช้เวลาตั้งแต่ลูกตัวเล็กๆในการถ่ายทอดสิ่งเหล่านี้ให้เขาผ่านการเล่น การทำงาน หน้าที่เล็กๆน้อยๆที่เขาต้องรับผิดชอบ การจูงใจให้ทำสิ่งที่ดีๆ เราต้องพยายามเป็นตัวอย่างที่ดีในทุกๆเรื่องที่เราสอน รับฟังเหตุผลและให้เหตุผลตามวัยของเขา เวลาช่วงก่อนจะถึงวัย 10 ขวบนั้นต้องถือว่าเป็นวัยวันอันมีค่าที่สุดเลยค่ะ เขียนบันทึกนี้เพื่อยืนยันให้คุณพ่อคุณแม่และผู้ใหญ่ทุกท่าน ที่มีโอกาสได้เลี้ยงดูลูกหลานได้ตระหนักว่า หน้าที่อันสำคัญอันดับแรกๆในชีวิตสำหรับผู้ใหญ่อย่างเราอยู่ที่เขาเหล่านั้นค่ะ ไม่ใช่หลักประกันอื่นใดในชีวิตที่เป็นวัตถุสิ่งของ

หมายเลขบันทึก: 245112เขียนเมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2009 00:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 05:22 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

อ่านแล้วเห็นภาพเลยค่ะพี่ นี่ก็เสียวๆ น้องทีมว่าตอนเป็นวัยรุ่นจะเป็นไง อีกแค่สองสามปีเอง เราก็พยายามเลี้ยงแบบคนที่เขาเป็นพ่อแม่ทำกัน แต่ก็ได้เท่านี้ รักมากแต่ก็เหนื่อยอ่ะพี่ บางทีก็คุยเหมือนเด็กโต บางทีก็ทำตัวเป็นเด็กเล็กๆ อ้อนซะ คุยกับน้องชายว่าเราสองคนนี่ตอนวัยรุ่นใช้ชีวิตเฮี้ยวสุดขีดไม่ใช่น้อย ถ้าเจ้าน้องทีมโตเป็นวัยรุ่นแล้วแค่กระดิกตัวเราก็รู้ถึงกึ๋นแล้วว่าคิดไรอยู่ ไม่รู้เขาจะอึดอัดมั้ยที่มีคนรู้ทันตลอด แต่มีแนวโน้มว่าจะไม่ต้องเป็นห่วงสวัสดิภาพมากเพราะออกแนวปอดแหก ไม่ค่อยกล้าทำอะไรที่ผิดปกติจากชีวิตธรรมดา ไม่ชอบเสี่ยงภัย ชอบอ่านหนังสือ เล่นกีฬา และชอบอยู่บ้าน ไม่หาเรื่องใคร คือเลี้ยงไปเลี้ยงมาเหมือนคนเลี้ยงค่ะ แม่บอกว่าแกะพิมพ์มาหมด

ปล. แต่พี่เก่งมากนะ เลี้ยงเด็กผู้ชายสามคนนี่ต้องเหนื่อยอย่างแรง

โชคดี จังเลยนะค่ะได้ให้ความเป็นพ่อเป็นแม่ กับลูกได้ตั้ง 3 คน สิ่งที่ได้ให้กับลูกๆ เป็นอะไรที่มีค่าและยิ่งใหญ่ในความเป็นมนุษย์ของเรา และความรู้สึกของการให้ของคนที่เป็นพ่อเป็นแม่ทีให้กับลูกๆ มันไม่ใช้ว่าทุกคนจะสัมผัสได้ รางวัลที่พ่อแม่ได้รับจากการให้กับลูกๆ เราได้รับเสมอทุกครั้งที่เราให้สิ่งดีๆ กับลูก แค่ลูกมีความสุข สนุก สนานก็เป็นรางวัลให้กับพ่อแม่อย่างเราๆ แล้ว ยิ่งถ้าลูกเป็นคนดี มีวินัย มีน้ำใจตอบกลับมาให้คนอื่น ให้สังคม พ่อแม่อย่างเราๆ ก็ยิ่งรู้สึกว่าหัวใจพองโต แค่นี้ก็เป็นน้ำทิพย์ชโลมหัวใจที่เหน็ดเหนื่อยกับภาระงานมากโข

สวัสดีค่ะ คุณโอ้ว..โน้ว

อิอิ

เอามาฝากค่ะ

เปิดลำโพงด้วยน่ะค่ะ

http://www.horhook.com/section/spinyarns/new/01726_6.html

  • สวัสดี  เจ้า  ป้าโอ๋
  • ข้อความแรกที่จะเอ่ยถึง คือ อยากได้ลูกชายค่ะ
  • น้องพอ 5 ปี  น้องเพียง 2 ปี ดูแล้วก็น่าจะมีนิสัยต่างๆกัน 
  • เสียงร้องไห้  ของสองพี่น้อง มีสลับกันเป็นระยะ ๆ
  • คุณยาย งง ว่า อยู่กับยาย ไม่เคยร้อง ซัก นิด
  • เห็นด้วย  กับข้อความ ของ ป้าโอ๋  ไม่ได้หวังให้ลูก เก่งกว่าคนอื่น  แค่อยากให้ลูก ๆเป็นเด็ก มนุษยสัมพันธ์ดี มีน้ำใจ ไม่ขี้อาย กล้าแสดงออก ตอนนี้  ก้พยายามฝึกผ่านการ เล่น อยู่นะคะ ป้าโอ๋  ขอคำแนะนำด้วยนะคะ

ที่บ้านก็มีลูกชาย 3 คนเหมือนกันค่ะ เป็นหนุ่มกันหมดแล้ว พ่อแม่ก็เหนื่อยแทบหมดแรง

สวัสดีค่ะคุณพี่โอ๋ เด็กๆ วัยก่อนสิบขวบ เชื่อและฟังเราทั้งหมดนะคะ เมื่อเด็กๆ เป็นตัวของตัวเองแล้ว คุยกันต้องมีเหตุผล พ่อแม่ทำการบ้านหนักเพิ่มขึ้นหลายเท่า เพื่อให้เขาได้ดีตามที่เราหวัง เรื่องเก่งไม่ใช่สิ่งสำคัญ ขอให้เป็นคนดี เป็นที่รัก เข้ากับผู้อื่นได้ รู้ทันคนและสังคม เพื่อให้อยู่รอดปลอดภัย เท่านี้พ่อแม่ก็มีความสุขแล้วค่ะ

  • สวัสดีค่ะ อ.โอ๋
  • การได้เฝ้ามองคนที่เรารัก มันเป็นอะไรที่อธิบายได้ลำบากจังนะคะ
  • เป็นความปลาบปลื้มที่ยากจะอธิบายค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท