เส้นทางของใจ - นารา : บทที่ 1


บทที่ 1

การเดินทางครั้งนี้เป็นครั้งที่ยาวนานที่สุดในชีวิตของแก้ว ชั่วชีวิตที่ผ่านมาบ่อยครั้งที่แก้วเคยได้ยินว่า คนเราพออายุเข้าใกล้ช่วงเบญจเพส มักจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงในชีวิต บางครั้งเหตุการณ์ที่ว่านั้นก็เป็นเรื่องร้ายแรงที่อาจเปลี่ยนทางเดินของชีวิตไปเลย อีกสามปีหล่อนก็จะถึงช่วงเบญจเพส และเรื่องรุนแรงหรือร้ายแรงที่ว่า ก็คงเกิดขึ้นไปแล้วแถมซ้ำแล้วซ้ำอีกในยามนี้เอง

 

ดวงหน้าขาวซีดเอียงซบอยู่กับขอบหน้าต่างอย่างอ่อนล้า แววตาฉายชัดว่าอ้างว้างเหลือเกิน ลมที่โชยเข้ามายิ่งทำให้อารมณ์หดหู่แม้มันจะช่วยบรรเทาความร้อนอบอ้าวให้กับอากาศยามบ่ายแบบนี้ จิตใจยังคงวกวนกับเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งทำให้แก้วไร้ญาติขาดมิตรโดยสิ้นเชิง แต่ก็ยังดีกว่าทนอยู่อย่างนั้น มันเหมือนนรก...!

 

รถไฟมาถึงปลายทางตามกำหนดบ่ายสามโมงตรง แก้วขยับตัวลุกจากที่นั่งหลังจากผู้คนทยอยกันลงไปจนเกือบหมดแล้ว พอเดินออกมาจนถึงปากทางเข้าสถานีเห็นมีร้านอาหารอยู่สองสามร้านเลยตัดสินใจเข้าไปนั่งกินข้าวอยู่ครู่ใหญ่

อากาศเดือนมีนาคมร้อนอบอ้าวจนเหงื่อผุดพรายทั่วใบหน้า มือบางยกขึ้นบังแสงแดดที่เจิดจ้าจนแสบตา อีกข้างก็ยกขึ้นดึงกระชับหูกระเป๋าที่คล้องอยู่กับไหล่ หล่อนมีเพียงกระเป๋าเป้ใบเล็กๆ ซึ่งข้างในมีกรอบรูปของพ่อและแม่ อีกสองสิ่งคือโกฏิใส่เถ้ากระดูกของทั้งสองที่เก็บลงหีบใบเล็กอย่างทะนุถนอม ทั้งหมดคือสิ่งที่แก้วคิดจะนำมาด้วย

แก้วยิ้มเศร้า ก่อนจะใช้มือปาดเหงื่อออกจากหน้าผากอย่างลวกๆ พลางเดินเข้าตลาดเพื่อหาร้านขายเสื้อผ้าสักร้าน หล่อนไม่มีเสื้อผ้าอื่นอีกนอกจากที่ติดกายออกมาจากบ้านหลังนั้น...บ้านที่เธอเกิดและเติบโต

 

มือบางที่ล้วงลงไปในกระเป๋ากางเกงอย่างเคยชินสัมผัสกับอะไรบางอย่างที่ทำให้แก้วหลุดจากอาการเหม่อลอย มันคือกระดาษที่พับอย่างลวกๆ เพราะความรีบ พลางนึกถึงจดหมายในช่องเล็กๆ ของเป้ที่สะพายอยู่ แก้วเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามันสำคัญอย่างไร เธอได้มันมาเมื่อวานจากเด็กสาวคนหนึ่งที่เคยอาศัยอยู่ด้วยกัน

 

พี่แก้วเก็บนี่ไว้นะ มันอยู่ที่เดียวกับที่พี่แก้วจะไป ถ้า... ถ้าพี่แก้วไม่รู้จะทำยังไงต่อไป ให้ไปหาตามที่อยู่นี่ แล้วเอาจดหมายนี่ให้คนชื่อน้าเนียน น้าเนียนเป็นน้าหนูเอง หนูว่าน้าเขาต้องช่วยอะไรพี่แก้วได้ นี่ก็ทำได้เท่าที่หนูจะทำได้ หนูไม่รู้จะช่วยอะไรพี่แก้วให้มากเท่าที่พี่เคยทำให้หนู คุณ... เอ่อ พี่แก้ว...รักษาตัวด้วยนะคะ แล้วถ้าพี่แก้วไม่ไปไหน วันนึงหนูจะไปหาพี่นะ

 

หญิงสาวคลี่มันออกดูอ่านอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ วันนี้คงทำอะไรไม่ได้แล้วเพราะทุกอย่างในตัวเมืองเล็กๆ นี่กำลังเข้าสู่ความเงียบ รถคงหมดไปนานแล้วเพราะท่ารถที่คงจะใช้จอดรอผู้โดยสารนั้นว่างเปล่า แก้วเดินไปถามแม่ค้าที่กำลังเก็บร้านอยู่ใกล้ๆ เพื่อให้แน่ใจอีกครั้งว่ามันใช่เส้นทางที่ต้องนั่งรถสายนี้

 

หมดวันไปแล้ว หวังว่าการตัดสินใจก้าวออกมาจากวังวนนั้นจะทำให้ชีวิตนี้ไม่ต้องพบกับความหวาดหวั่นเหล่านั้นอีก ดวงหน้าหม่นหมองเหลือบแลไปยังขุนเขาที่เห็นอยู่ไม่ไกล ความสงบนั้นเรียกเสียงถอนหายใจให้ดังแผ่วๆ ผ่านไปกับสายลมยามเย็น ณ เมืองอันแสนไกลจากบ้านเกิดที่เธอจากมา...

 

แก้วมานั่งรอรถแต่เช้า ดวงหน้าซีดเซียวยิ่งดูอิดโรยมากกว่าเดิม เมื่อคืนนั้นแทบไม่ได้นอน โรงแรมเล็กๆ ที่ไปเปิดห้องนอนนั่นแทบไม่มีสภาพของความน่าอยู่หรือจะทนอยู่ได้ แต่หญิงสาวก็ทำมึนชากับสภาพนั้นเสีย เธอเจออะไรมามากกว่านั้นเพียงแค่คิดก็ตัดความรู้สึกเก่าๆ ที่บังอาจผุดขึ้นมาในใจออกไปได้สำเร็จ ความจริงเธอไม่ได้นอนหลับอย่างเต็มตามานานนับตั้งแต่พ่อและแม่จากไป สายตาเหลือบมองกระดาษที่กุมไว้ในมือ เสียงเบาแทบกระซิบเมื่ออ่านตามลายมือหวัดๆ ของคนที่พอจะหวังดีและเป็นห่วงแก้วอยู่บ้าง

 

บ้านไร่กลาปบุญ...

 

.........................

 

จ้ะ... ที่นี่แหล่ะ หนูมีธุระอะไรรึเปล่า

 

หญิงสูงวัยมองร่างบางที่แต่งตัวธรรมดาและท่าทางขรึมๆ แล้วจึงตัดสินใจแทนสรรพนามหญิงสาวไปแบบนั้น แสดงให้เห็นว่ามีความอารีอยู่ในน้ำเสียงที่เอ่ยถาม ผู้หญิงสาวๆ แปลกหน้าหรือแม้แต่คุ้นหน้าส่วนใหญ่ที่มาที่นี่มักจะขับรถหรู แต่งกายเปรี้ยวจนชวนให้เข็ดฟัน พวกนั้นเค้าจะไม่มาถามคนงานหรือใครแบบนี้ เว้นแต่เด็กคนนี้ที่คงไม่ได้มาเพราะจุดประสงค์เดียวกันแน่นอน อะไรบางอย่างบอกหล่อนแบบนั้น

 

แก้วสบตากับหญิงคนนั้นอีกครั้งก่อนจะก้มลงหยิบจดหมาย พลางตอบว่า

 

หนูมาขอพบน้าเนียนค่ะ

 

คราวนี้หญิงที่บังเอิญผ่านมาเห็นและเปิดประตูรับแก้วทำหน้าสงสัย ก่อนจะถามเธอว่า

 

มีเรื่องอะไรรึเปล่า พอจะบอกได้ไหม

 

หนูมีเรื่องจะรบกวนน้าเนียนน่ะค่ะ เอาไว้จะอธิบายให้เค้าฟังเมื่อได้เจอ และมีจดหมายจากหลานสาวน้าเนียนด้วย

 

หลานสาว...

 

แก้วพยักหน้า จ้องมองคนถามอย่างสงสัยว่าทำไมถึงต้องซักถามกันขนาดนี้ คนที่เธอต้องการพูดด้วยในตอนนี้คือคนชื่อเนียนเท่านั้นเอง แต่ความสงสัยจางไปเมื่อหญิงสูงวัยเริ่มยิ้มให้อีกครั้งก่อนจะเอ่ยรับว่า

 

น้าเองจ้ะ... คนที่หนูต้องการพบ เข้ามาข้างในก่อนเถอะท่าจะมาไกลเลยนะ

 

ขอบคุณค่ะแก้วค่อยๆ เดินผ่านเนียนจันทร์เข้าไปภายในอาณาเขตรั้วไม้สูงซึ่งปกคลุมด้วยเถาไม้เลื้อยเขียวชอุ่ม ซึ่งเธอระบุไม่ได้ว่าเป็นต้นอะไร ประสบการณ์อันน้อยเกี่ยวกับต้นไม่ไม่ได้ช่วยอะไรเธอนัก

 

หนูว่ามีจดหมายจากแดงใช่ไหม?”

 

แก้วไม่ตอบ เพียงแต่ยิ้มน้อยๆ แล้วยื่นจดหมายในมือส่งให้น้าเนียน ซึ่งนางรับไปแล้วหันมาเอ่ยชวนอย่างมีน้ำใจว่า

 

เข้าไปนั่งในบ้านก่อนเถอะ จะได้กินน้ำกินท่า แล้วเดี๋ยวเราค่อยคุยกัน หนูคงต้องเล่าอะไรให้น้าฟังใช่ไหม มาเถอะ...ตามน้ามาก่อน

 

แก้วมองตามหลังผู้เป็นจุดหมายของเธอในตอนนี้อย่างอุ่นใจขึ้นมาบ้าง ท่าทางซึ่งบ่งชัดว่าคนผู้นี้มีใจเป็นมิตรกับเธอไม่น้อย แก้วสูดลมหายใจลึก ความกังวลเมื่อแรกเริ่มเดินทางมาที่นี่ในตอนเช้าค่อยๆ หมดไป อย่างน้อยก็เป็นไปได้ที่โชคชะตาอาจจะไม่โหดร้ายกับหล่อนเกินไปนัก มือบางที่เริ่มหยาบกร้านเลื่อนไปลูบเป้ที่สะพายอยู่เบาๆ คล้ายกับบอกกับบุพการีของหล่อนว่า ตนเองเริ่มมีแรงจะสู้ขึ้นมาบ้างแล้ว

 

...พ่อคะ แม่คะ ช่วยคุ้มครองลูกด้วยนะคะ...

 

............................

 

เนียนจันทร์สงสัยเหลือเกินว่าแดง...หลานสาวที่ไม่เคยติดต่อกันมาหลายปีจะมีธุระอะไร จึงรีบเปิดจดหมายออกอ่านคร่าวๆ นึกเห็นใจคนตรงหน้า และอยากจะช่วย จากที่แดงเล่ามาสิ่งที่เด็กคนนี้ต้องเจอมันหนักหนาน่าดู และเด็กคนนี้ก็คงสำคัญกับหลานสาวของหล่อนมากแน่ๆ ไม่อย่างนั้นแดงคงไม่อ้อนวอนมาขนาดนี้ เนียนจันทร์เงยขึ้นสบตาร่างบางที่นั่งสงบอยู่ตรงหน้า

 

น้าพอจะเข้าใจจากที่แดงเค้าเล่ามาในจดหมายแล้วล่ะ หนูล่ะ...แก้วใช่ไหม

 

แก้วรับคำ

 

แก้วมาที่นี่มีอะไรให้น้าช่วยได้ เอาเป็นว่าเล่าตั้งแต่ต้นเลยแล้วกันว่าเรื่องเป็นมายังไง อย่าถือว่าน้าเป็นคนอื่นเลย เพราะถ้าแดงคิดกับแก้วเหมือนพี่ แก้วก็คิดซะว่าน้าเป็นน้าคนหนึ่งของแก้วแล้วกัน

 

แก้วนิ่งไปครู่ ไม่ใช่ว่าหล่อนไม่ไว้ใจน้าของแดง แต่เรื่องของหล่อนเองมันเจ็บปวดจนไม่อยากจะเอ่ยถึงให้ใครเห็นน้ำตา หนทางที่ดีในการมีชีวิตอยู่ให้สงบสุขอีกครั้งคือการลืมมันไปเสีย อีกอย่างแก้วยังไม่สนิทใจกับคนที่เพิ่งพบกันคนนี้มากพอจะพูดอะไรออกไปได้ การพูดเรื่องปัญหาชีวิตให้คนที่ไม่คุ้นเคยรับฟังไม่ใช่วิสัยของแก้ว

 

น้าพอจะแนะนำงานที่ไหนให้แก้วไปทำได้บ้างคะ แก้วต้องการงาน จริงๆ แก้วเองไม่อยากรบกวนใครให้ต้องเดือดร้อนไปด้วย เพียงแต่แก้วไม่รู้ว่าต้องเริ่มที่ไหนก่อน

 

จากที่แดงเขียนมา เนียนจันทร์ก็คาดว่าหญิงสาวจะตอบเช่นนี้ หล่อนจึงพยักหน้าอย่างไม่คาดคั้นเรื่องที่จะให้แก้วเล่าปัญหาของตัวเอง

 

ถ้าอย่างนั้นน้าก็อยากให้แก้วลองทำงานที่นี่ก่อนเป็นไง เพราะแถวนี้น่ะไม่ใช่ว่าหางานได้ง่ายๆ เหมือนกรุงเทพฯ หรอกนะ แก้วจะว่ายังไง

 

แล้วที่นี่พอจะมีงานอะไรให้แก้วทำบ้างล่ะคะ

 

งานน่ะมี มีเยอะเชียวล่ะ...แต่น้าจะถามแก้วว่า แก้วทำงานอะไรได้บ้าง เรียนจบอะไรมาเราน่ะ

 

แก้วจบ...จบ ม.6 ค่ะ เคยทำงานตามบ้านมา 3 ปี เลี้ยงเด็กเล็กได้ ทำบัญชีเป็นค่ะ แต่ถ้าน้าเนียนจะให้แก้วทำอะไรก้อได้นะคะ ถ้าแก้วทำได้แก้วจะทำ แต่ถ้าไม่เป็นแก้วก็จะฝึก ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็แล้วแต่น้าเนียนเถอะค่ะ

 

หญิงสาวเอ่ยประโยคนี้อย่างกระตือรือล้นเป็นครั้งแรก

 

งั้นช่วยน้าดูแลงานบ้านที่เรือนใหญ่ เพราะพอดีตอนนี้เด็กที่เป็นลูกมือน้าลาออกไป น้ากำลังขาดคนช่วย อย่างที่เมื่อกี้ที่แก้วเห็นน้าต้องทำงานจุกจิกเอง คนงานส่วนใหญ่จะอยู่ที่ไร่ บนเรือนใหญ่จะมีคุณท่านกับลูกอยู่ เรือนนั้นจะมีงานเช้าก็ทำความสะอาด กลางวันก็มีซักผ้า รีดผ้า เดี๋ยวน้าจะคอยบอกเอง และน้าอยู่ที่เรือนเล็กหลังนี้คนเดียวถ้าแก้วตกลงมาทำกับน้าก็พักที่นี่จะได้สะดวกน้าด้วย ส่วนเงินเดือนก็คิดตามแรงงานขั้นต่ำ กินอยู่ที่นี่ พอใจไหมแก้ว แต่ไม่ได้มีแค่งานในบ้านเท่านั้นนะที่เราต้องทำกัน ยังมีอะไรอีกเยอะที่น้าเป็นคนดูแลอยู่ และแก้วก็ต้องคอยช่วยน้าตรงส่วนนั้นด้วย

 

เท่าที่ฟังมาแก้วเริ่มยิ้มออก ไม่คิดว่าการมาที่นี่จะได้ในสิ่งที่หวังง่ายนัก เป็นงานที่ยุติธรรมดี หล่อนไม่ได้เข้ามาอาศัยใครฟรีๆ ทำงานแลกที่กินที่อยู่และเงินเดือน หญิงสาวคิดอยู่ครู่หนึ่ง พลางเอ่ยถามบางสิ่งที่สงสัยเกี่ยวกับงานก็ตอบตกลง

 

เอาล่ะถ้าแก้วตกลง น้าจะพาไปเก็บของที่ห้อง พักกับน้ามีอะไรก็ช่วยกัน เดือดร้อนอะไรก็บอกน้าได้ น้าช่วยได้จะช่วยเต็มที่ ไป...เอาของไปเก็บ เสร็จแล้วออกมาหาน้าที่นี่ น้าจะพาไปพบคุณท่าน แล้วไปลงทะเบียนคนงานที่สำนักงานไร่กัน

 

ขอบคุณค่ะน้าเนียน

 

แก้วไหว้เนียนจันทร์อย่างขอบคุณด้วยความจริงใจ พอจะรู้ว่าหญิงสูงวัยต้องการจะช่วย

 

ส่วนเนียนจันทร์พอส่งแก้วที่หน้าห้องแล้วก็ปล่อยให้แก้วจัดการตัวเอง ตนก็เดินกลับมาที่ห้องโถงหยิบจดหมายที่วางไว้ขึ้นมาอ่านอีกครั้ง

 

............................

 

‘...น้าเนียนจ๊ะหนูสงสารเธอจับใจ เธอช่วยหนูมามากแต่มาตอนนี้ที่เธอลำบากหนูอยากตอบแทนบ้าง…’

เมื่ออ่านจบอย่างละเอียดอีกครั้งใจก็คิดถึงหลานที่ไม่ได้เจอกันมานาน แต่เมื่อซึมซับกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับแก้วก็ชวนให้หดหู่ คนอะไรจะเจอเรื่องร้ายๆ ได้ไม่หยุด นี่ยังดีที่หลานสาวแนะให้มาที่นี่ เสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามาเรียกให้ใบหน้าที่กำลังครุ่นคิดหันไปมอง แก้วกลับออกมาในชุดเดิมแต่คงล้างหน้ามาแล้วเพราะดูว่าสีหน้าสดชื่นขึ้นกว่าเก่า

เนียนจันทร์ส่งยิ้มอบอุ่นให้หญิงสาว แก้วยิ้มตอบกลับมาน้อยๆ ก่อนจะก้าวเดินมาหยุดยืนห่างออกไปไม่มากนัก เอ่ยเบาๆ ว่า

จะให้แก้วทำอะไรก่อนคะ

เดี๋ยวไปพบคุณท่านก่อนแล้วกัน

เนียนจันทร์บอก ก่อนจะเดินนำลงจากเรือนเล็กที่ตั้งเยื้องมาทางด้านหลังของเรือนใหญ่ ปกคลุมด้วยไม้ใหญ่ให้ร่มเงาเย็นสบายทั้งที่อากาศอบอ้าวขนาดนี้ แก้วเพิ่งได้เปิดตารับรู้ว่าที่นี่สวยงามขนาดไหน เมื่อเช้าตอนมาถึงอารมณ์หม่นหมองเกินกว่าจะเห็นความสวยความงามของสิ่งรอบกาย

เนียนจันทร์หันมองร่างบอบบางแต่ค่อนข้างสูงของคนงานคนใหม่ที่เดินตามมาช้าๆ หล่อนเพิ่งสังเกตว่าวงหน้ารูปไข่เล็กๆ ที่เมื่อมองผ่านนั้นจะไม่สะดุดตาอะไรเลย แต่เมื่อพิศดีๆ จะเห็นว่าแก้วมีโหนกแก้มที่เด่นและสูงบ่งบอกลักษณะบางอย่างที่คนมองไม่คิดว่าเธอจะเป็นแค่คนเร่ร่อนไม่มีหัวนอนปลายเท้า ยามที่เจ้าตัวอมยิ้มเหมือนเช่นตอนนี้แก้มทั้งสองข้างจะนูนสวยสะดุดตา ผิวพรรณเนียนละเอียด ดวงตายาวรีใต้แพขนตางอนยาวคงเป็นประกายสวยถ้าไม่มีแววหมองอย่างนั้น จมูกของแก้วโค้งสวยพองามรับกับริมฝีปากเล็กได้รูปที่แดงโดยไม่ต้องแต่งแต้มเลยแม้แต่น้อย

งามอย่างเพ่งพิศ ถ้ามองผ่านผาดไปคงพบแต่สาวหน้าใสธรรมดาๆ คนหนึ่ง...


 ติดตามตอนต่อไปนะคะ

หมายเลขบันทึก: 247301เขียนเมื่อ 9 มีนาคม 2009 16:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:25 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

กราบนมัสการเจ้าค่ะ

มือใหม่หัดแต่ง ดองไว้นานแล้วค่ะ เลยลองยกมาแปะที่นี่ เผื่อให้คนอื่นตัดสินว่าต้องแก้อะไรบ้าง

ขอบพระคุณมากเจ้าค่ะ

ตาลายแฮะ...ตัวใหญ่ไม่สวย - - ตัวเล็กอ่านยาก แก้เป็นสิบรอบแล้วคร้าบบบบ

ชื่อนางเอกเหมือน พี่แก้วเลย น่าสงสารแก้วจังค่ะ น้องปุ้ย

หนูจ๋า...สว.อย่างครูแอนก็ตาลายคะ...อิอิ

สวัสดีค่ะ

  • รอติดตามตอนต่อไปค่ะ
  • แต่ตัวเล็กไปหน่อยนะคะ

 

ตามมาอ่านก่อนนะครับ เดี๋ยวมาใหม่

ขอบคุณค่ะพี่แก้ว...อิอิ - - นางเอกของปุ้ยบั่นชื่อจริงของเธอออกเหลือแค่คำนี้คำเดียว ดูน่ารักดีเนาะคะ

เหมือนพี่แก้วเลย

ขอบคุณค่าที่เข้ามาอ่าน

ดีใจๆ

ตัวใหญ่แล้วคร้าบ....แต่ดูทึบๆ ทึมๆ ทะมึนๆ - - เดี๋ยวไปหาภาพสวยๆ มาแปะดีกว่า

ขอบคุณค่ะพี่ครูแอน...ตาลายเช่นกันค่ะ - - ปรับใหญ่แล้ว แต่มันยังด้านๆ ยังไงไม่รู้

เฮ้อ...ขอบคุณที่มาเยี่ยมนะคะ

ขอบคุณนะคะครูคิม - - แก้แล้วค่ะ อ่านง่ายหรือยังเอ่ย???...ดีใจๆ ที่มีคนพลัดหลงเข้ามาด้วย

อิอิ

ขอบคุณค่ะอาจารย์ขจิต...คิดถึงๆ เป็นไงมั่งคะ สนุกไหม? อ่านเพลินๆ นะคะ อาจารย์สบายดีนะคะ

(^-^)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท