วันนี้จัดชั้นหนังสือ ได้เจอสมุดเรียนภาษาไทยของน้องฟุงตอนที่กลับมาเมืองไทยใหม่ๆ เลยเอามาเขียนบันทึกยืนยันให้คุณพ่อคุณแม่ที่เกรงว่าลูกจะมีปัญหากับภาษาทั้งหลายว่า ธรรมชาติของเด็กมหัศจรรย์มากค่ะ เขารับอะไรต่ออะไรได้ง่ายและรวดเร็วจริงๆ
น้องฟุงติดตามคุณแม่ไปเมืองนอกตอนอายุ 2 ขวบยังพูดไม่เป็นประโยคเลย (เด็กบ้านนี้พูดช้าทั้ง 3 หนุ่มเลยค่ะ) ไปถึงก็ได้ไปเข้า Unicare สำหรับเด็กเล็กที่ออสเตรเลีย เขาก็เล่น ก็คุยกับเพื่อนๆหลายๆชาติในวัยเดียวกันได้ในเวลาไม่นาน (ด้วยภาษาที่เราฟังไม่รู้เรื่อง) และเข้าใจพี่เลี้ยงชาวต่างชาติได้ในเวลาอันรวดเร็ว เมื่อเริ่มพูดก็พูดประโยคภาษาอังกฤษถูกกว่าประโยคภาษาไทยเสียอีก แต่น้องฟุงเป็นคนกำหนดกฎเกณฑ์ให้พี่ๆทั้งสองพูดไทยกันที่บ้าน พี่วั้น พี่เหน่นนั้นเรียนอ่านเขียนไทยได้ค่อนข้างดีแล้วตอนที่ไปเมืองนอก อยู่ชั้นป.2 และป.3
เราพ่อแม่ตั้งใจว่าจะสอนภาษาไทยให้น้องฟุงเหมือนกัน ขอให้รุ่นน้องที่กลับมาซื้อโปสเตอร์อักษรไทยไปให้ ติดไว้หน้าประตูห้องนอน สอนให้น้องฟุงอ่าน แต่ก็ไม่ไปถึงไหนค่ะ น้องฟุงจำไม่ได้เลย ได้หน้าลืมหลังตลอด เลยใช้วิธีเขียนเป็นคำๆให้หัดอ่าน วิธีนี้ใช้ได้บ้าง แต่พอให้อ่านเมื่อคำรวมๆกันน้องฟุงก็แยกไม่ออกว่าจะเริ่มตรงไหนจบตรงไหน ต้องกั้นหน้ากั้นหลังกันให้ยุ่งไปหมด สุดท้ายเราก็เลยยอมแพ้ กะว่ากลับมาเมืองไทยก็ค่อยมาเริ่มใหม่แล้วกัน แต่สำหรับการเขียนไม่ค่อยยากนักสำหรับน้องฟุง เพราะเขาหัดเขียนตามได้ง่าย แม้ตอนแรกๆจะต้องขีดเส้นให้เห็นว่าตัวไหนเอาไว้ชั้นไหน (ได้สังเกตว่าภาษาเรานี่มีตั้ง 4 ชั้นนะคะ ไม้โทไม้เอกชั้นบนสุด ไม้หันอากาศชั้นรองลงมา แล้วยังมีชั้นของสระอุ สระอูอีกด้วย)
เมื่อกลับมาเมืองไทย พาไปโรงเรียนครั้งแรก คุณครูทดสอบด้วยการให้ทำข้อสอบเพื่อจะจัดชั้นเรียนให้ สรุปว่าต้องเริ่มที่ป.1 ค่ะ เพราะน้องฟุงอ่านภาษาไทยไม่ได้เลย แต่ปรากฎว่าเวลาผ่านไปไม่นาน (แค่นับเป็นเดือนเท่านั้นเองนะคะ) น้องฟุงก็อ่านเขียนภาษาไทยได้พอสมควรทีเดียว ต้องชมคุณครูปราณี ทิพย์สุขแห่งโรงเรียนแสงทองวิทยาด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ เอาหลักฐานมาให้ชมกันค่ะ
ไม่มีความเห็น