เส้นทางของใจ - นารา : บทที่ 2


บทที่ 2

ท่านคะ

เนียนจันทร์เอ่ยเรียกชายร่างท้วมที่นั่งอ่านหนังสือเล่มหนาอยู่บนโซฟาสีครีมตัวโต ดูจากสีเทาเงินที่แซมแถวโคนผมทำให้พอเดาอายุเขาได้ว่าไม่ต่ำกว่าหกสิบปี เมื่อได้ยินเสียงเรียกเขาก็หันมาเผยยิ้มกว้างอย่างคนใจดีให้ พลางเอ่ยว่า

ว่ายังไง แม่เนียน...นึกว่าเย็นนี้จะไม่ได้เห็นหน้าเสียแล้ว

พอดีมีเรื่องต้องจัดการนิดหน่อยน่ะค่ะท่าน แก้ว...นี่คุณประสพ เรียกท่านว่าคุณท่านแล้วกันเหมือนทุกคนที่นี่ คุณท่านคะนี่แก้วค่ะ เพิ่งรับมาช่วยงานบ้าน ท่านคงไม่ว่าอะไร

หญิงสาวจึงยกมือไหว้ประสพ ประสพมองแก้วแล้วยิ้มอย่างเมตตา

จะไปว่าอะไรเล่า ดีแล้วมีคนมาช่วยน่ะ แล้วนี่ไปลงทะเบียนมารึยังล่ะ อยู่นานๆ ช่วยแม่เนียนเค้าทำงานไปเรื่อยๆ อย่ารีบออกซะล่ะ

ประสพทำท่าจะหัวเราะ แต่ครู่หนึ่งที่ชายสูงวัยเงียบไป ก่อนจะเอ่ยว่า

หน้าตาเรา... ฉันคุ้นๆ นะ เหมือนเคยเจอที่ไหน

แก้วค่อนข้างหวาดหวั่นกับคำเปรยนั้นของชายสูงวัย คงต้องยอมรับว่าหล่อนกลัว...กลัวทุกคนที่อาจจะรู้จักตน นายใหญ่ของบ้านไร่กลาปบุญมองหน้าแก้วอีกเป็นครู่กว่าจะปัดความสงสัยที่นึกไม่ออกไปเสียว่าเคยเห็นเด็กคนนี้ที่ไหนมาก่อน

เนียนจันทร์เอ่ยขอตัวจะพาแก้วไปลงชื่อที่สำนักงานไร่ ประสพจึงยิ้มและโบกมือเอ่ยว่า

ไปเถอะไป จัดการให้เรียบร้อย ตามสบายนะ ทำงานที่นี่ไม่ต้องห่วงเรื่องเอารัดเอาเปรียบ ฉันรับรอง

แก้วถอนหายใจก่อนจะยิ้มแล้วยกมือไหว้ตอบเบาๆ

ขอบคุณค่ะคุณท่าน แก้วไม่ห่วงเรื่องนั้นหรอกค่ะ แก้วลานะค่ะ

..................................

ห้องที่เนียนจันทร์ให้แก้วพักอยู่บนชั้นสองของตัวบ้านตรงข้ามกันกับห้องของนางเอง แก้วอดนึกเปรียบเทียบกับห้องที่ตัวเองเคยอาศัย ‘…ซุกหัวนอนมาหลายปีไม่ได้ ที่ที่จากมามีเพียงฟูกผืนบางที่ถูกใช้จนแทบจะไม่มีไส้ในเหลืออยู่ ตู้เสื้อผ้าพลาสติกและโต๊ะเล็กๆ วางรูปพ่อกับแม่ที่ล่วงลับไปแล้วเท่านั้น

แก้วนั่งพักหลังจากทำความสะอาดห้องจนเรียบร้อยแล้ว พลางรื้อกระเป๋าเป้สมบัติเพียงชิ้นเดียวที่มีติดตัวมาจนถึงที่นี่ มือบางหยิบกรอบรูปขึ้นมาดู นิ้วเรียวค่อยๆ ลูบไล้ภาพถ่ายคู่ของพ่อและแม่ วันนี้ไม่มีน้ำตาให้รินไหลอีกแล้วมันเหือดหายไปนานแล้วนับจากที่ต้องทนคับแค้นใจมานาน

ร่างบางลุกขึ้นนำกรอบรูปและโกฏิไปวางที่โต๊ะตรงมุมห้อง ปากบางคลี่ยิ้มน้อยๆ เมื่อคิดว่าเมื่อมีเงินจะหาแจกันและดอกไม้มาวางให้พ่อและแม่ทุกวัน แก้วหันกลับมาจะจัดเสื้อผ้าเข้าตู้แต่ต้องชะงักเมื่อมีเสียงเคาะประตู

คะ...

น้าเองจ้ะแก้ว ขอเข้าไปหน่อยนะ

เนียนจันทร์หอบกล่องพลาสติกเข้ามาในห้อง หลังจากแก้วเปิดประตูให้ หญิงสูงวัยวางกล่องลงแล้วรู้สึกปวดหลังขึ้นมาทันที

โอย... ไม่ได้ยกของหนักๆ มานาน แย่เลยเรา รู้อย่างนี้เรียกให้เด็กยกขึ้นมาบนนี้เลยจะดีกว่า

อะไรเหรอคะนั่น

แก้วมองของที่เนียนจันทร์เปิดออกดู แล้วบอกแก้วว่า

เสื้อผ้าเก่าของลูกสาวคุณท่านน่ะจ้ะ ตอนนี้อยู่เมือกนอก เสื้อผ้าพวกนี้ยังไม่เก่าหรอกนะ สภาพดีเชียว น้าเอามาให้เห็นว่าแก้วคงไม่มีติดตัวมา แต่มันไม่ค่อยเหมือนเสื้อผ้าผู้หญิงเท่าไหร่หรอก แต่ก็คงเหมาะกับเราเพราะต้องทำงานทั้งวัน คุณศาชอบแต่งตัวทะมัดทะแมงเลยมีแต่กางเกงพวกนี้ แก้วคงใส่ได้ตัวเล็กๆ เหมือนกัน

เธอไม่ใช้แล้วเหรอคะ

จ้ะ ที่ทิ้งไว้นี่ก้อเลยเก็บไว้เฉยๆ น้านึกขึ้นได้ ลองดูๆ เอาเองนะ น้าไปล่ะ เดี๋ยวจะลงไปทำกับข้าว แก้วจัดอะไรเสร็จแล้วก็ตามไปจะได้กินข้าวกัน

แก้วมองสบตาเนียนจันทร์อย่างขอบคุณ แต่ไม่ทันพูดอะไรเพราะคนที่อุตส่าห์ขนกล่องใบนี้มากลับออกไปเสียก่อน หญิงสาวลุกเดินไปหยุดมองภาพนอกหน้าต่าง ยังขอบคุณโชคชะตาอยู่บ้างที่อย่างน้อยชีวิตนี้ก็ไม่ต้องเจอแต่คนที่จ้องจะทำร้ายเสมอไป

ที่ผ่านมาเรื่องร้ายๆ เหล่านั้นก็บั่นทอนความเข้มแข็งที่มีไปจนแทบจะยอมแพ้แก่คนพวกนั้นเสียแล้ว ถ้าไม่คิดว่าตัวเองเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่สมควรจะได้มีชีวิตที่ดีกว่านั้น พรุ่งนี้แก้วก็จะเริ่มงานแต่ชีวิตใหม่ของหล่อนคงเริ่มขึ้นนับตั้งแต่ก้าวเท้าออกจากบ้านมา และชั่วชีวิตนี้คงไม่กลับไปอีก แม้จะอาลัยอาวรณ์กับมันมากเท่าไหร่ก็ตาม

..................................

ตื่นแล้วเหรอแก้ว ยังมืดอยู่เลย

เนียนจันทร์เดินเข้ามาในครัวหลังจากได้ยินเสียงกอกแกรก เห็นร่างบางกำลังง่วนอยู่กับการทำอาหารทั้งที่ยังเช้ามืดอยู่ จำไม่ผิดมองนาฬิกาเมื่อครู่เพิ่งจะตีสี่กว่าๆ เท่านั้น สาวๆ สมัยนี้เค้าตื่นกันครึ่งค่อนวันเสียเป็นส่วนใหญ่...

คงยกเว้นแก้วไว้คนเสียกระมัง แต่คิดอย่างนั้นก็ไม่ได้เพราะตอนนี้แก้วเป็นคนงานของที่นี่ไม่ใช่หรือ เนียนจันทร์มองหญิงสาวอย่างพินิจพิเคราะห์โดยที่เจ้าตัวไม่ทันสังเกต

แก้วกำลังเตรียมกับข้าวเช้า เห็นว่าน้ายังไม่ตื่น น้าคงพอทานได้นะจ๊ะกับข้าวง่ายๆ น้าคงไม่ว่าที่แก้วไม่ได้ขออนุญาตก่อน

ดีแล้วล่ะแก้วน้าไม่ว่าหรอก ดีเสียอีกมาช่วยน้า เมื่อคืนน้าปวดหลังจะแย่เลยลุกไม่ขึ้น ปกติน้าจะตื่นมาก่อน น้าใส่บาตรทุกเช้าน่ะ สงสัยวันนี้คงไม่ทัน

แก้วหันไปมองกับข้าวที่ทำไว้

ถ้าน้าไม่ว่าอะไร ก็ใช้กับข้าวที่แก้วทำได้นะจ๊ะ รออีกเดี๋ยวก็จะเสร็จแล้ว

เอาสิ ถ้าอย่างนั้นเราก็มาทำบุญด้วยกันเลย อย่าว่าน้าเลยนะที่อู้ไปหน่อยเลยต้องมาพลอยลำบากแก้ว

ไม่จ้ะ...ไม่ลำบาก น้าอย่าพูดอย่างนั้นสิจ๊ะ แค่นี้น้าก็ช่วยแก้วมามากแล้ว แก้วทำอะไรได้แก้วทำให้ทุกอย่าง น้าบอกมาได้เลย

อย่าคิดว่ามันเป็นบุญคุณเลยแก้ว นั่นน่ะ...ยังไงเสียถ้าน้าแนะงานที่อื่นให้แก้วก็คงได้งานเหมือนกัน น้าเสียอีกที่สบายมีคนมาช่วย ไม่เอาๆ มัวแต่คุยกัน เดี๋ยวไม่ทันพระท่านพอดี

เนียนจันทร์ตัดบทเดินไปดูเตาที่ตั้งแกงเลียงไว้ ดูจากหน้าตาและกลิ่นหอมแล้ว เชื่อเลยว่ารสชาติต้องใช้ได้ทีเดียว น่าสงสัยจริงๆ ว่าคนที่มาจากฐานะระดับนั้นจะทำอะไรได้บ้าง หญิงสูงวัยลอบมองร่างบางที่กำลังเก็บภาชนะใช้แล้วลงอ่างเพื่อล้างทำความสะอาด พลางถอนใจด้วยความเวทนา

..................................

แปลงดอกไม้ฝั่งนั้น ที่นี่เราจะตัดไปขายส่ง ไกลถึงกรุงเทพฯ ก็มีนะ แต่คุณสณฑ์กันให้ทำแปลงแค่นั้นเองทั้งที่ดอกงาม ส่วนใหญ่จะเป็นไม้ผลเสียละมาก ดอกไม้นั่นจะถูกแบ่งส่งไปที่เรือนใหญ่บ้างเพื่อเราจะได้จัด หน้าที่นี้แก้วทำได้ไหม

ค่ะ แก้วรับคำ หันมองแปลงดอกไม้ที่ว่า ขนาดคนพูดจำกัดความว่า แค่นั้นแต่มันไม่เล็กเลยในความรู้สึกของแก้ว เท่าที่เห็นมันกว้างสุดสายตาเสียด้วยซ้ำ

เนียนจันทร์เดินนำแก้วช้าๆ มาที่เรือนใหญ่ตอนฟ้าสาง พลางอธิบายทั้งงานในไร่และงานของแก้วควบคู่กันไปเพราะมีบางอย่างที่ต้องเชื่อมโยงกัน แก้วตั้งใจฟัง หันมองโน่นนี่ตามที่หญิงสูงวัยกว่าชี้ชวนให้ดูและพูดไปด้วย

จนมาถึงห้องครัวกว้างขวาง ซึ่งคนครัวกำลังเตรียมอาหารเช้าสำหรับขึ้นโต๊ะ ตอนนี้โต๊ะกลางห้องมีดอกไม้วางอยู่ก่อนแล้ว นั่นคืองานชิ้นแรกที่แก้วจะรับผิดชอบ หญิงสาวเดินเข้าไปดูใกล้ๆ กุหลาบสีเหลืองดอกโตๆ หลายสิบดอกที่เพิ่งแย้มกลีบออก ยังมีหยดน้ำค้างเกาะพราวให้เห็นนั้นชวนให้คนมองทึ่งยิ่งนัก

สักครู่เดียวเนียนจันทร์ก็นำอุปกรณ์มาให้พร้อมบอกที่เก็บและบอกตำแหน่งของแจกันแต่ละใบว่าต้องนำไปวางที่ใดบ้าง แก้วรับคำแล้วเริ่มหยิบงานขึ้นจับ ดวงหน้านวลขมวดมุ่น

การจัดดอกไม้ไม่ยาก แต่ถ้ามันจะยากก็เพราะแก้วไม่เคยทำ ถึงแม้จะเคยเห็นกับตามาบ้างแต่ไม่คิดจะสนใจ...ภาพของแม่วาบเข้ามาในความคิด แววในดวงตายาวรีเปลี่ยนเป็นหม่นหมองแทบจะทันที หากเพียงวูบเดียวที่แก้วปล่อยให้มันหลุดลอดออกมา

...มันคงไม่ยากจนถึงขนาดทำไม่ได้หรอกน่า...

หญิงสาวคิด ปากบางเม้มพยายามใส่ใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า เนียนจันทร์มองนิ่งอยู่เมื่อเห็นว่าแก้วเงียบไปก็เดาว่าหญิงสาวไม่ต้องการอะไรอีก หญิงสูงวัยจึงเดินออกไปตรวจตราความเรียบร้อยตามปกติ

..................................

จัดดอกไม้เก่งนะเราน่ะ... สวยมากน้าชอบ นี่คุณท่านเห็นคงแปลกใจน่าดูเชียวล่ะ ฝีมือไม่เบาเลยแก้ว

เนียนจันทร์เอ่ยชมหลังจากดูงานที่ออกมาภายในเวลาไม่นาน หล่อนยิ้มพอใจกับงานแรกของแก้ว ขณะที่คนถูกชมไม่แสดงสีหน้าดีใจหรือภูมิใจ แต่ภายใต้อาการเงียบขรึมนั้น ความยินดีเล็กๆ ก็จุดประกายในแววตาโศก โดยที่เจ้าตัวกำลังคิดถึงคนที่เคยพยายามให้แก้วทำความรู้จักกับดอกไม้ให้มากกว่าการที่เราจะเชยชมมันทางสายตาโดยที่ยังติดอยู่กับต้น แต่แก้วกลับปฏิเสธ

ลองดูสิลูก...

น้ำเสียงนุ่มๆ ที่คุ้นหูกล่าวเบาๆ

ไม่ล่ะค่ะ แก้วใจร้อน...คงทนนั่งปักมันลงแจกันไม่ทันเสร็จแน่

บางทีแค่เราจับดอกไม้ขึ้นมา ลูกจะรู้ว่า...เราทำได้ ดอกไม้จะให้ความรู้สึกบางอย่างที่ลูกอยากจะทะนุถนอม ไม่อยากให้มันต้องบอบช้ำ แล้วมันจะออกมาสวยงามด้วยตัวของมันเอง เพียงแค่ลูกตั้งใจ

แจกันดอกไม้มากมายที่ประดับด้วยผลงานสมบูรณ์แบบตรงหน้าแก้วในเวลานี้สะท้อนคำพูดนั้นได้เป็นอย่างดี

เมื่อจัดการงานแรกเรียบร้อย เนียนจันทร์ก็พาแก้วไปที่ลานกว้างด้านหลังของเรือนซึ่งจัดไว้อย่างเป็นระเบียบสำหรับซักล้างเสื้อผ้าต่างๆ

เสื้อผ้าหรือผ้าอะไรต่างๆ ซักที่นี่ ห้องรีดจะอยู่ห้องที่เราเดินผ่านมาเมื่อกี้ ก่อนอื่นก็ต้องขึ้นไปดูและจัดห้องข้างบน เสร็จแล้วก็ขนผ้าลงมาซัก ผ้าที่ต้องรีดก็อยู่ในห้องโน้นนะแก้ว น้าก็อยู่กับแก้วตลอดถ้ามีอะไรสงสัยตอนไหนก็ค่อยถามๆ ไปแล้วกันนะ

ดวงหน้านวลใสฉายแววชัดว่าเข้าใจก่อนที่ปากบางจะตอบรับ

..................................

หมดวัน หน้าที่ของแก้วก็เหลือแต่เอาอาหารเข้าท้อง ซึ่งกินได้ไม่เท่าไหร่ก็ทำท่าจะกลืนไม่ลง เนียนจันทร์ที่มองอย่างเป็นห่วงจึงถามขึ้น

เหนื่อยมากไหมแก้ว รีบๆ กินแล้วไปพักซะเถอะ วันนี้วันแรกคงยังไม่ชิน เดี๋ยวพรุ่งนี้คงจะดีขึ้น

แก้วฝืนยิ้ม

ไม่มากเท่าไหร่หรอกจ้ะ แก้วกินช้ามันฝืดคอ...

คนมองได้แต่นึกเห็นใจ แต่เอ่ยแกมบังคับตบท้ายว่า

กินเข้าไปอีกหน่อย... ฝืนใจเข้า แล้วกลับห้องไปอาบน้ำนอนซะ ทางนี้เดี๋ยวน้าทำเอง เมื่อเช้าแก้วก็ตื่นมาตั้งแต่ไก่ยังไม่ขัน อย่าฝืนร่างกายมันหน่อยเลย น้ามองก็รู้ว่า ยืนยังไม่ไหวแล้วน่ะเรา

จ้ะ แต่เดี๋ยวพรุ่งนี้แก้วมาช่วยน้าทำกับข้าวนะจ๊ะ

แก้วรับคำโดยดีแต่ก็ยังอยากจะช่วยเต็มที่ ถือซะว่าเป็นการตอบแทนน้ำใจที่ผู้หญิงคนนี้มีให้ตน เนียนจันทร์พยักหน้า

ถ้าตื่นไหวก็มาสิ ไม่ต้องรีบหรอกนะ ถ้าเหนื่อยก็นอนพักเถอะ รอให้ชินก่อนแล้วอยากทำอะไรก็จะทำได้เอง รู้ไหมแก้ว

จ้ะ...แก้วขอบคุณน้ามากจริงๆ

ร่างเล็กๆ ที่กำลังจะลุกขึ้นจากที่นั่งหยุดหันมามองหญิงสาว ดวงหน้าอ่อนโยนยิ้มให้เมื่อรับรู้ถึงนัยของคำขอบคุณที่มากกว่าเรื่องนี้ รวมถึงความจริงใจของคนพูด เนียนจันทร์ไม่เอ่ยอะไรอีกหันหลังเดินกลับออกไปเงียบๆ ส่วนแก้วก็ฝืนกินได้อีกไม่กี่คำ เพราะความเหนื่อยล้า

งานที่นี่ไม่ได้เยอะหรือน้อยไปกว่าที่เคยทำแต่ทำไมถึงได้มีอาการแบบนี้ อาจเป็นเพราะเดินทางมาไกลประกอบกับไม่ได้นอนมาหลายคืน ผลมันจึงออกมาเป็นแบบนี้ แก้วลาเนียนจันทร์กลับห้อง กว่าจะลากขาขึ้นบันไดมาครบทุกขั้นก็แทบจะลมจับ

สงสัยคืนนี้คงได้หลับเต็มตาแน่ๆ...

หญิงสาวพึมพำหลังจากออกจากห้องน้ำมาทิ้งตัวลงบนเตียงเล็กๆ ไม่นานนักดวงตายาวรีที่ยังคงแฝงแววโศกไว้แทบตลอดเวลาก็ปิดลง

ความมืดนำแก้วดำดิ่งสู่ความฝันที่หลอกหลอนหล่อนมานานปีอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เหมือนแก้วเจอแสงสว่างรำไรที่ทอดสู่ทางออกจากฝันร้าย ร่างบางวิ่งและวิ่งไปจนสุดทางแล้วแสงนั้นก็สว่างมากขึ้น มันทั้งอบอุ่นและปลอดภัย

ร่างที่นอนยาวอยู่บนเตียงคลี่ยิ้มน้อยๆ อย่างเป็นสุข รอยยิ้มที่ไม่เคยปรากฏมานานมากจนเจ้าตัวเองก็คงจำไม่ได้ด้วยซ้ำ ผ้าม่านพลิ้วเปิดให้แสงจันทร์ผ่านเข้ามาอาบไล้ใบหน้านวล กลิ่นหอมของดอกแก้วกรุ่นไปทั่วห้อง ราวกับมีใครจงใจให้เกิด

...แก้วสุคันธ์

ในฝันแก้วได้ยินเสียงเรียกของพ่อและแม่ หญิงสาวขานรับอย่างยินดี แต่หาตัวท่านไม่พบ ร่างบางทรุดนั่งลงพลางระเบิดเสียงร้องไห้ดังไปทั่ว

พ่อคะ...แม่

แม้จะตะโกนสักเท่าไร แต่เสียงที่ผ่านริมฝีปากออกมาก็เป็นเพียงเสียงกระซิบที่แผ่วเบาเกินกว่าใครจะได้ยิน


ติดตามตอนต่อไปนะคะ

หมายเลขบันทึก: 247633เขียนเมื่อ 11 มีนาคม 2009 10:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:25 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

มาให้กำลังใจน้องปุ้ยที่รัก

ด้วยประจักษ์รักนี้ไม่มีสอง

ห้องหัวใจให้ใครได้เป็นรอง

แม้นว่าสองรองใครใคร่ขอดู

ตัวของพี่ไม่เคยอ่านนิยายน่ะ

เจอบรรทัดแรกเข้า อ่านต่อเจอบรรทัดสอง

บรรทัดสองผ่านไป เจอบรรทัดสาม

บรรทัดหลังก็ตามตามกันมา

อิอิ บอกอีกทีพี่ไม่เคยอ่านนิยาย

ตาย ตายแล้ว ชักมึนเหมือนอายุ

ว่าแล้วทำไมพี่สาวถึงได้รู้เรื่องอายุ

ก็เพราะพี่สาวพี่ชอบอ่านนิยาย

ตาย ตาย ตายแล้วไปไหน

จำได้ไหมมีคนเคยเขียนบันทึกนี้

อิอิ จำได้ว่า ญ.ปุ้ย กับคนพลัดถิ่นซี

แต่มีคนเค้าก้อปปี้ของญ.ปุ้ยไปแล้วเว้ย

พี่ไปเจอของพี่เค้าเอาไปเฉย ๆ

อ้าววววววววอันนี้คุ้นจังเลยตายแล้วไปไหน

อิอิ นึกแล้วเชียวคุ้น ๆ ว่าของใคร

ของน้องญ.ปุ้ยไง ใช่เลยเค้าเอาไปจริง ๆ

วันนี้พี่ป่วย หลายโรคมันรุมเร้า

เหมา เหมา เอาว่าท้องเสีย เพลียแรง ปวดฉี่ทั้งวัน

ดูสินั่นยังไม่พอ เป็นหวัดคัดจมูก

บอกไม่ถูกเลยอาการเนี๊ยะน่ะ

แต่ว่ายังมีแฮงเข้ามาได้

โห.....ไปก่อนน่ะ น้องญ.ปุ้ย

อุ้ย อุ้ย อุ้ย

ญ.ปุ้ย เป็นนักเขียน

แหะแหะแหะ เอาไงแล้ว พี่เริ่มเม้นเวียน

ขอให้น้องนักเขียน มีความสุข หมดทุกข์เอย

จุ๊ฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ

ไม่อยากจะงงเลยค่ะ...แต่ก็งง - - อิอิ

ขอบคุณนะคะที่มาเยี่ยม

ตอนนี้กำลังรีไรท์...อยากให้จบสักเรื่องนึง - - ไม่รู้จะจบไหมเนี่ย

คิดถึงๆ จุ๊ฟๆๆๆๆๆ

อิอิ งงใช่มั้ย

นั่นแน่ ว่าแล้วต้องงง

น้องญ.ปุ้ยงง ถูกต้มแล้วครับ

ถ้าไม่งง อันนี้พี่ไม่เชื่อ

เพราะพี่เม้นเองยังงง

ไหนเม้นว่าอะไรแล้วอ่ะ

อ่านใหม่น่ะ อิอิ

อ๋อ มันงง แบบนี้นี่เอง

แต่ว่าภาพนี่สิ ภาพในบันทึก เท่ห์จริง ๆ สีชัด

ให้ว่างแล้วจะวาดมั่งน่ะค่ะ

อิอิ...555+

นั่นไงๆ งงด้วยกันเลย...เมาแล้วล่ะค่ะ - - ช่วงนี้ปุ้ยยุ่งมาก...แวะเข้ามาแต่ยังไม่ได้ไปหาพี่ใยมดเลย

ขอโทษน้า...ความคิดกำลังไหลลื่น - - เดี๋ยวตันๆ เมื่อไหร่จะมาโลดแล่นไปเยี่ยมทุกบ้านเลย

  • หวัดดีค่ะ
  • สบายดีนะค่ะ
  • แวะมาเยี่ยมค่ะ

น้องญอของพี่ใยมด

หายไปนานเลยน่ะค่ะ

อิอิ สงสัยงานยุ่งมาก

คิดถึงจัง

ส่งความคิดถึงแบบ คิดถึงมาก ๆ ไปหน่อยน่ะ

หึหึ สงสัยแก้งค์พี่จะเหี่ยวแล้วงานนี้

ไม่มีน้องญอ

 

สวัสดีค่ะน้องญ.ปุ้ย

หายไปเลยน่ะ

สุขสันต์ทุกวันค่ะ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท