หลังจากที่ได้อ่านบทความของ Karen Frankola ซึ่งถอดความโดยอาจารย์อนุชัย ธีระเรืองไชยศรี สรุปได้ดังนี้
1. การเรียน e-Learning เป็นการเรียนที่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ
2. การเรียน e-Learning ที่ดีควรใช้รูปแบบการเรียนหลายวิธีรวมกัน เช่น ใช้รูปแบบการเรียนทั้งแบบไม่ประสานเวลา(Asynchronous) และ แบบไม่ประสานเวลา(Sychronous)
3. ปัญหาในการเลิกเรียนกลางคันของผู้เรียนออนไลน์ ไม่ได้อยู่ที่เทคโนโลยีหรือคุณภาพในการออกแบบการเรียนการสอน แต่อยู่ที่ผู้เรียน
4. ผู้เรียน ที่จะเรียนจนจบหลักสูตรนั้น จะต้องมี
- แรงผลักดันภายใน เช่น เห็นประโยชน์ที่จะได้รับ มีจุดมุ่งหมาย เห็นความสำคัญ มีความเชื่อมั่นในตนเอง
- แรงผลักดันภายนอก เช่น จากผู้สอน จากหัวหน้างาน จากบุคคลรอบข้าง จากเพื่อนที่เรียนด้วยกัน โดยจากการพูดคุยผ่านช่องทางต่างๆ เช่น เว็บบอร์ด การแชท การเรียนแบบประสานเวลา และกิจกรรมพบปะสังสรรกันในบางครั้งบางคราว
5. ผู้สอน/ผู้ช่วย
-ในรูปแบบ e-Learning ควรผ่านการฝึกอบรมการสอนในรูปแบบ e-Learning เพราะจะทำให้ทราบปัญหาและบริหารจัดการการเรียนการสอนได้ดี ซึ่งจะมีผลต่อผู้เรียนโดยตรง
- มีการปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับผู้เรียน เรียนรู้และทำความเข้าใจต่อตัวผู้เรียน
- มีเวลาในการตอบข้อซักถามของผู้เรียน หรือข้อสงสัยต่างๆของผู้เรียน
6. การมีการปฏิสัมพันธ์กันระหว่างผู้เรียนต่อผู้เรียนเอง และผู้เรียนกับผู้สอน/ผู้ช่วย ผ่านทางช่องทางต่างๆ เช่น เว็บบอร์ด การแชท การเรียนแบบประสานเวลา การแจ้งข่าวและความเคลื่อนไหวกิจกรรมต่างๆทางอีเมล์ และกิจกรรมพบปะสังสรรกันในบางครั้งบางคราว มีการปฏิสัมพันธ์กันโดยไม่ขาดสายจะทำให้ประสบความสำเร็จในการจัดการเรียนการสอน e-Learning
7. โปรแกรมที่ดีที่จะช่วยให้การบริหารจัดการเรียนการสอนของผู้สอน-ผู้เรียนสะดวกยิ่งขึ้นรองรับความต้องการของผู้เรียนและผู้สอนในทุกด้าน
ขอบคุณครับ :)
ขอบคุณค่ะ แวะมาหาความรู้ค่ะ
ครับ ครูแป๋มและคุณWasawat Deemarn