รายการนำฝากครั้งที่ 1 พาครอบครัวน้องออมสินและน้องคิงผู้ป่วยระยะสุดท้ายถวายสังฆทาน
การใช้ชีวิตในปัจจุบันบางคนใช้เงินเป็นตัวกำหนดทำงานเหนื่อยหนักเพื่อสะสมให้ได้เงินเยอะๆหาได้ก็เปิดบัญชีฝากธนาคารเพื่อสะสมให้เห็นตัวเลขเยอะๆในบัญชี แต่ถามว่าตายไปแล้วสามารถเอาเงินติดตัวไปด้วยได้หรือไม่ เปล่าเลย หาได้กี่เเสนกี่ล้านก็ไม่สามารถหอบเงินข้ามภพข้ามชาติไปได้ วันนี้ฉันไม่ได้มาเปิดบัญชีสะสมเงินทองอะไร เเต่บัญชีที่เปิดวันนี้เป็นบัญชีสะสมบุญที่ฉันคิดว่าเมื่อใดที่ฉันไกล้จะหมดลมหายใจบุญที่ฉันบันทึกลงในบัญชีในวันนี้ คงทำให้ฉันระลึกได้และคงพอที่จะเป็นบันไดให้ฉันได้ไต่ขึ้นสวรรค์ วันนี้ฉันขึ้นปฏิบัติงานตามปกติเเละวันนี้เป็นเวรเช้าผู้ป่วยในความดูแลของฉันมีทั้งหมด 10 คนเป็นผู้ป่วยเด็กโรคมะร็ง ถึง 9 คน 8 คนอยู่ในระว่างรักษาและยังพอมีความหวังบ้างว่าจะหายเเต่น้องออมสินที่ฉันเดินมาดูวันนี้เป็นผู้ป่วยระยะสุดท้ายที่มีชื่ออยู่ในโปรแกรมการดูแลของทีมนำทางคลินิกกุมารเวชกรรมของเรา
ฉันไม่ได้เจอออมสินหลายวัน วันนี้ที่เห็นออมสินเปลี่ยนไปมาก ตัวเหลือง ท้องโต นอนราบเเทบจะไม่ได้ทุกลมหายใจเข้าออกดูจะยากลำบากเสียเหลือเกินฉันถามตากับยายออมสินว่า ''วันนี้เป็นอย่างไรบ้างถ้าเทียบกับวันก่อนๆ'' ตาบอกว่า "บางมื้อกะมาทางเฮาอยู่ เเต่บางมื้อกะคือสิไปทางใหม่แล้วหละคุณหมอ" พุดไปฉันก็พลันหันไปมองยาย ยายร้องไห้แล้วก็บอกว่าได้เเต่สงสารหลาน พ่อเเม่ออมสินมาเยี่ยมบ้างมั๊ย เพิ่นว่าจั่งได๋ ฉันถามขึ้น''เพิ่นบ่ว่าจั่งได๋ดอกคุณหมอ เพิ่นบ่ได้เลี้ยง ''ฉันรู้สึกสงสารตายายและออมสินขึ้นมาจับใจ จึงพูดขึ้นว่า ''วันนี้เราไปทำบุญกันมั๊ย เสร็จงานแล้วอยากพาออมสินและตายายไปถวายสังฆทาน '' แววตาของยายเริ่มเปล่งประกายอย่างมีความหวัง และรีบตอบรับคำเชิญชวนของฉันทันทีพร้อมกับพูดขึ้นว่า ''เฮ็ดให้เพิ่นเนาะ ''แล้วก็หันไปทางออมสิน ฉันจึงตอบกลับไปว่า ทำให้เจ้ากรรมนายเวรที่เขามาเบียดเบียนหลานเราที่ต้องเจ็บต้องปวดก็ขอให้บรรเทาเบาบาง เมื่อนัดหมายกันเสร็จเรียบร้อย ตลอดวันฉันก็ทำงานในหน้าที่ตามปกติ เเละเมื่อถึงเวลานัดหมายฉันได้ชวนเเม่น้องคิงอีกคน คิงเพิ่งกลับมาจากวัดคำประมงจังหวัดสกลนครเนื่องจากขอไปรักษาแบบทางเลือกเเต่พึ่งจะเริ่มรักษาก็มีอาการซีดเเละเกล็ดเลือดต่ำจากตัวโรคที่อยู่ในระยะสุดท้ายของน้อง
แม่คิงตอบตกลงที่จะไปกับเรา ฉันจึงชวนน้องเก๊าะน้องพยาบาลที่ขึ้นปฏิบัติงานเวรเช้าด้วยกันไปด้วย เก๊าะไปด้วยเก๊าะยังไม่ได้ทำบุญวันเกิดเลย ฉันขอเวลาทุกคนออกไปซื้อชุดทำบุญ ก่อนที่จะกลับมาพร้อมกับชุดทำบุญชุดใหญ่พร้อมกับเดินนำหน้าพาทุกคนมี ยายออมสิน แม่น้องคิง เเละ เก๊าะ ตรงดิ่งไปที่หอผู้ป่วยสงฆ์อาพาธทันที เมื่อไปถึง ฉันแจ้งความประสงค์กับเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นบุรุษพยาบาลว่าต้องการถวายสังฆทาน เจ้าหน้าที่เดินนำหน้าพาเราทั้งหมดเข้าไปที่ห้องพำนักของพระสงฆ์ ทราบภายหลังว่าท่านเป็นพระนักปฏิบัติมาจากอุดรธานี มาปรนนิบัติหลวงพ่อซึ่งมรณภาพเป็นเวลา 1 เดือนแล้วแต่ท่านยังไม่กลับ นับเป็นโชคดีของพวกเรา ประโยคเเรกที่ท่านถาม ทำไมถึงอยากมาทำบุญ ฉันตอบแทนทั้ง 3 คน ว่า 2 ท่านเป็นแม่และยายของผู้ป่วยเด็กระยะสุดท้าย ส่วนเรา 2 คน ฉันหมายถึงฉันกับเก๊าะ มาเพื่อทำบุญวันเกิดและอยากทำบุญให้เจ้ากรรมนายเวร ดีแล้วก่อนถวายขอให้กล่าวอีมีนาก่อน.......กล่าวได้มั๊ยด้วยความที่ฉันเคยปฏิบัติจึงไม่ยากกับขั้นตอนการกล่าวคำถวายต่างๆ ฉันรีบทำตามที่ท่านบอกทันที กล่าวจบท่านจึงพูดขึ้นว่า ไหนๆก็มาแล้วก็ฟังเทศน์เสียก่อนนะโยม ในโลกของความเป็นมนุษย์ เกิด เเก่ เจ็บ ตาย ความพลัดพรากเป็นของธรรมดา โยมเคยเห็นต้นมะม่วงมั๊ย มะม่วงดิบร่วงก่อนมะม่วงสุกก็ยังมี ดอกมะม่วงร่วงก่อนที่จะเป็นผลก็มี เพราะฉะนั้นหากเด็กจะตายก่อนผู้ใหญ่ก็ไม่แปลก แต่ขอให้พึงระลึกนึกถึงเราเองว่าวันหนึ่งก็ต้องร่วงไปเหมือนกับมะม่วง พระอาจารย์ยังสอนให้เราให้ใช้อุบายธรรมในการให้สติกับตัวเองเมื่อต้องพบกับความสูญเสียมีเรื่องเล่าว่า เคยมีผู้หญิงคนหนึ่งเสียใจทุกข์ระทม จมปรักอยู่กับความเศร้าเป็นเวลาเเรมปีเมื่อชายคนรักเสียชีวิตอย่างกระทันหันทำอย่างไรก็ไม่สามารถคลายความทุกข์ได้ วันหนึ่งเธอขึ้นไปนั่งรถไฟฟ้า นั่งไปก็เห็นคนเดินขึ้น เดินลง คนขึ้นหลังเเต่ลงก่อน เเต่ละคนถึงจุดหมายไม่พร้อมกัน เมื่อเห็นดังนั้นจึงหันมามองดูตัวเองว่าก็เปรียบกับชีวิตคนที่เกิดมาก็ไม่พร้อมกัน ตายก็ไม่พร้อมกันเเฟนเราที่เขาตายก่อน ก็เปรียบกับคนที่โดยสารรถไฟฟ้าถึงจุดหมายก่อน สุดท้ายผู้หญิงคนนี้ก็คิดได้เเละเห็นถึงสัจจธรรมความเป็นจริงของโลก ทำให้เขาค่อยๆคลายจากความทุกข์ความเศร้า
วันนี้นอกจากฉันจะได้ทำหน้าที่พยาบาลที่คอยให้การช่วยเหลือและประคับประคองจิตวิญญาณของผู้ป่วยเด็กระยะสุดท้ายและครอบครัวแล้วฉันเองก็รู้สึกอิ่มบุญ เห็นใบหน้าเปื้อนน้ำตาปนยิ้มของยายออมสินกับเเม่คิงแล้วฉันก็สุขใจและวันนี้ฉันได้จุดประกายความคิดว่าฉันควรจะเปิดบัญชีเพื่อบันทึกเรื่องราวเเห่งบุญ เพื่อย้ำเตือนตัวเองว่าบุญทำได้ไม่มีสิ้นสุด และควรจะบันทึกไว้ในบัญชีสะสมบุญต่อไป
คุณยายน้องออมสินขณะถวายสังฆทาน น้องเก๊าะผู้เปิดบัญชีร่วมบุญในวันนี้
สุธีรา บันทึก 12 มีนาคม 2552