เรียนรู้ความคิดวัยรุ่น...เกี่ยวกับ Multi-cultural world


พี่วั้นอายุจะครบ 18 ปีในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ สำหรับคุณแม่ที่เฝ้าดู เรียนรู้ตัวตนของลูกมาตลอดเวลานี้ พบว่า ไม่ว่าเราจะคิดว่าเรารู้จักลูกมากขนาดไหน เขาก็ยังคงเป็นตัวของเขาเองที่มีอะไรให้เราเรียนรู้ได้อีกไม่รู้จบ พี่วั้นมีศักยภาพในตัวหลากหลายมาก เป็นคนเรียนรู้สิ่งต่างๆได้รวดเร็ว ดูเหมือนว่าไม่ว่าจะจับอะไร พี่วั้นก็สามารถจะทำได้ค่อนข้างดี เมื่อสมัยเรียนว่ายน้ำก็ว่ายได้ดีจนโค้ชชอบใจ เครื่องดนตรีหลากหลายชนิดก็จับแล้วเล่นได้โดยไม่เคยมีพื้นฐาน สมัยอายุแค่ 10 นิดๆพี่วั้นก็หัดเล่นคีย์บอร์ดเอง โดยการฝึกจากแบบฝึกหัดในเครื่อง จนสามารถเล่นทั้งสองมือได้เป็นที่น่าทึ่งมากสำหรับคุณแม่อย่างเรา สมัยเข้าเรียนไฮสคูลปีแรกที่เขามีการแสดงเต้น พี่วั้นก็ได้แสดงเต้นท่าที่คุณแม่นึกไม่ถึงว่าลูกจะทำได้ด้วย

สิ่งที่คุณแม่แปลกใจมากๆอีกอย่างสำหรับพี่วั้นก็คือ เขาสามารถโต้วาทีได้ ต้องชื่นชมคุณครู โดยเฉพาะคุณครู Linda ที่มองเห็นศักยภาพด้านนี้ของพี่วั้น เป็นสิ่งที่คุณแม่มองไม่เห็นในตัวลูกมาก่อนเลย และเมื่อได้ไปดูเวลาพี่วั้นโต้วาที ก็ได้รู้สึกว่าเขาเป็นคนมีความคิดแบบ instant ได้เสมอ ซึ่งเป็นเสน่ห์ของการโต้วาทีที่เป็นธรรมชาติ และดูเหมือนเขาจะชอบการที่ได้พูดแบบที่เรียกว่า impromptu มากกว่าการเตรียมไปพูด ทำให้คุณแม่รู้สึกสนุกและอยากได้ฟังเขาพูดในงานแบบนี้เสมอ

มาปีนี้ ได้มีโอกาสอ่านสิ่งที่ลูกเขียนหลายๆครั้ง ก็ได้ชอบความคิดที่เขาเขียนออกมา ล่าสุดนี้เป็นเรียงความที่ลูกเขียนเพื่อเข้าร่วมการแข่งขัน โครงการชิงทุนการศึกษา “Cultural Crossroad” ที่จัดขึ้นโดยบริษัท เอกธนาฮอสปิตอลลิตี้ เอ็ดยูเคชั่น เซอร์วิสเซส จำกัด ร่วมกับ บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) โดย NJ Magazine ในหัวข้อ  “How can teens benefit from living in a multi-cultural world?” ไม่น่าแปลกใจที่เขาติดเข้ารอบไปสอบสัมภาษณ์ด้วยกับเพื่อนๆอีก 13 คน

คิดว่าลูกคงไม่สงวนลิขสิทธิ์เรียงความฉบับนี้ เลยขอนำมาฝากไว้ให้ทุกท่านที่สนใจได้อ่านความคิดของวัยรุ่นคนหนึ่ง ส่วนที่ขอนำมาฝากในบันทึกนี้ เพราะชอบรายละเอียดก็ตรงที่เขาเขียนไว้เป็นตอนสรุปค่ะ

As stated above, the concept of the multi-cultural world is very beneficial. Not just to teenagers but to people of every age from little kids to adults. However, for teenagers it is extremely important and has many advantages because at this stage in life it is the turning point and a lot of people have noticed. That’s why there are so many cultural exchanges program for teenagers to share their ideas to other people. The problems of the world tomorrow won’t be faced alone, but will be faced together with everyone holding hands, understanding how others feel and respect their tradition and customs.

 โดยเฉพาะวรรคสุดท้ายที่ว่า ปัญหาของโลกในอนาคตนั้นจะไม่เป็นการเผชิญแบบโดดเดี่ยว แต่เป็นการร่วมมือ ร่วมใจกันด้วยความเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่นและเคารพในธรรมเนียมปฏิบัติและวัฒนธรรมของกันและกัน

ชื่นใจค่ะที่ได้เป็นแม่ของลูกวัยรุ่นที่มีความคิดเช่นนี้

หมายเลขบันทึก: 248276เขียนเมื่อ 13 มีนาคม 2009 23:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 มิถุนายน 2012 13:41 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

เยี่ยมยอดค่ะ

กำลังจะข้านอน เฮ้อ ชื่นใจ

ชื่นชมในครอบครัวของคุณค่ะ วัยรุ่นนั้นเป็นวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ แต่ครอบครัวเป็นส่วนสำคัญที่คอยประคับประคองให้เขาเดินในเส้นทางที่สร้างสรรค์ ขอให้คุณแม่และพี่วั้น ประสบความสำเร็จทุกด้านค่ะ

  • สุดยอดคุณแม่
  • สุดยอดคุณลูก
  • สุดยอดครอบครัว ;)
  • ร่วมแสดงความชื่นชมด้วยคะ
  • ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นคะ

สวัสดีครับ

พี่วั้นเป็นวัยรุ่นสมัยใหม่ที่ไม่สร้างความทุกข์ใจให้กับพ่อแม่

ขอแสดงความยินดีด้วยครับ

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาร่วมชื่นชมและให้กำลังใจนะคะ สิ่งที่อยากสื่อสารในบันทึกนี้และบล็อกนี้คือ วิถีทางในการใช้ชีวิต วิธีการประสบการณ์ที่เราพบผ่าน ไม่ได้อยากประชาสัมพันธ์ว่าเราเก่ง เราดี แต่อยากให้คนอ่านได้รับรู้ว่า ประสบการณ์แบบเรานั้นทำได้ค่ะ ขอให้ช่วยกันพยายามเป็นคนดี ตั้งใจทำดี เป็นแบบอย่างดีๆ ไม่ตั้งความหวังให้ใครทำอะไร แต่ตัวเราเองนี่แหละค่ะ ต้องทำตัวเราให้ดีและพร้อมที่จะแลกเปลี่ยนสิ่งที่เราคิดว่าดีกับคนอื่นๆ ดีใจที่มี GotoKnow ให้เราได้ทำแบบนี้ในแบบของเรานะคะ ขอบคุณทุกท่านจริงๆที่มาช่วยสร้างกำลังใจให้ว่า ยังมีคนที่อยากทำดีแบบเงียบๆอีกมากมายค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท