1 ธันวาคม 2551
คุณอ่านตอบอุทธรณ์จากเทศบาลเมืองระนอง พร้อม ๆ กับผม คุณคิดและตัดสินใจอย่างไรต่อไป เห็นด้วย, ไม่เห็นด้วย หรือเห็นด้วยบางส่วนกับตอบอุทธรณ์ คำตอบเหล่านี้จะทำให้คุณพิจารณาไปถึงสิทธิของ
มะเฮตีไท้ซาน
หากคุณงงว่านี้มันเกิดอะไรขึ้น ขอคุณกลับไปอ่านเรื่อง "อุทธรณ์คำสั่งปฏิเสธ" และหากปรารถนารู้ที่มาที่ไปทั้งหมดก็ต้องอ่านตั้งแต่เริ่มแรก ในเรื่อง "บันทึกการต่อสู้เพื่อเด็กต่างด้าวที่เกิดในแผ่นดินไทย"
ผมย้อนกลับมาที่เรื่องเดิม หากคุณเห็นด้วยก็เป็นอันว่าสิทธิในการได้รับสถานะบุคคลของมะเฮตีไท้ซานเป็นอันสิ้นสุด เธอจะตกเป็นคนไร้รัฐโดยทันที
หากคุณไม่เห็นด้วยสิทธิในการนำคดีขึ้นสู่ศาลปกครองก็มีทันทีเช่นกัน แต่ช้าก่อน อย่าเพิ่งรีบร้อน ผมยังมิได้รับคำตอบอุทธรณ์จากนายทะเบียนจังหวัดระนอง ต้องรอจนกว่านายทะเบียนจะตอบกลับมา หรือไม่ตอบกลับมาภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน 2551 จึงเป็นอันว่าไม่ตกม้าตายกลางศึก
หากคุณเห็นด้วยบางส่วน และส่วนที่เห็นด้วยเป็นสาระสำคัญคือไม่อนุญาตให้มะเฮตีไท้ซานแจ้งการเกิดก็เป็นอันจบ หาต้องนำไปสู่ศาลปกครองแต่อย่างใด หากไม่ใช่ก็ต้องคิดเพื่อกระบวนการข้างหน้าสู่ศาลปกครองต่อไป
จากอุทธรณ์ข้างต้นนี่แหละคุณจะเห็นว่านี่เป็นการต่อสู้ทางกฎหมายล้วน ๆ แม้นว่าจะมีความคิดเห็นไปคนละทาง แต่นัยแห่งความขัดแย้ง และการต่อสู้อย่างนี้สิที่จะนำสังคมไปสู่สันติสุขได้
เพราะการต่อสู้ในกรณีนี้ กฎหมายมีกติกาชัดเจน จะแตกต่างก็เพราะการตีความการใช้กฎหมายที่ต่างกันไปตามประสบการณ์ ความคิดของแต่ละคน ซึ่งความแตกต่างนี้ หากไม่สามารถแก้ไขด้วยวิธีการอื่นได้อีก ก็ยังสามารถแก้ไขโดยให้คนกลางเป็นผู้ชี้ขาดซึ่งก็คือศาล
ผมอ่านตอบอุทธรณ์จบพร้อมกับคุณ ผมมึน ผมมีคำตอบว่า “ไม่เห็นด้วย” แต่ยังหาเหตุผลที่เป็นขั้นเป็นตอนเพื่อต่อสู้ต่อไปไม่ได้ ผมได้แต่ “มึน”
ผมทำได้แต่เพียงส่งตอบอุทธรณ์ไปให้อ.แหววอ่านทาง e-mail แล้วก็มี e-mail จากนักกฎหมายสาวผู้น่ารักท่านหนึ่งทำให้ผมยิ้ม และมีแนวทางต่อสู้ไม่จนแต้ม สู้เพื่อมะเฮตีไท้ซานและเด็กอื่น ๆ ต่อไป
ชอบที่จันทร์กระดาษเขียนว่า "นักกฎหมายสาวผู้น่ารักท่านหนึ่ง"
ฮิฮิ......
จะเอาเรื่องนี้ เขียนในรายงานเสนอสหประชาชาติในเรื่องที่เกี่ยวกับ ICCPR