เวทีผ่านมาหลายวันแล้วเพิ่งได้มีโอกาสบันทึกเล่าสู่กันฟัง เมื่อวันจันทร์ที่ 16 มีนาคม ที่ผ่านมาได้ติดสอยห้อยตามพี่ภีม ร่วมประชุมภาคีเครือข่ายชุมชนอินทรีย์ อยู่ดีมีสุข (ขอเรียกว่าอย่างนี้ละกันนะค่ะ) ครั้งที่ 4 จัด ที่ องค์การบริหารส่วนตำบลบางจาก อ.เมือง จ.นครศรีฯ
โดยส่วนใหญ่ผู้เข้าร่วมจะเป็นสมาชิกในพื้นที่ ตำบลบางจาก ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่ สอบต.ของแต่ละหมู่ อบต.อื่น ๆ ที่เข้าร่วมก็จะเป็นตัวแทนจาก อบต.ท่าซัก อบต.โพธิ์เสด็จ (เจ้าภาพครั้งที่ 5) แว่วว่าการประสานไม่ทั่วถึง บ้างก็ติดภารกิจ เพราะช่วงเดือนมีนาคม เป็นช่วงของการเร่งทำเวทีประชาคมของ อบต.แต่ละที่ ค่ะ
นอกจากนั้นก็เป็นแกนหลัก ๆ ที่ให้ความร่วมมือ และขับเคลื่อนกระบวนการนี้อย่างเข้มแข็ง อาทิ ครูนงเมืองคอน(ช่วงนี้โดนมรสุมกระหน่ำ แต่คนดี คนเก่งอย่างครูนงยืดหยัดได้ค่ะ สู้สู้) ครูราญ ครูแต้ว (ทีม กศน.) หมอวิเชียร ไชยเจริญ คุณสุธรร (สีสันแห่งเวที) คุณคณพัฒน์ ทองคำ (รองนายก อบต.บางจาก เจ้าภาพครั้งนี้นั่นเองค่ะ)
ทบทวนประเด็นเวทีที่ผ่านมาเพื่อเชื่อมโยงสู่การขับเคลื่อนงานต่อในครั้งที่ 4 นี้ ส่วนของประเด็นการเชื่อมงานนั้น คือ คลอง คุณภาพชีวิต ประวัติศาสตร์เมืองพุทธภูมิ พี่ภีม เสนอว่าวันนี้เราน่าจะมีทีมคณะทำงานเพื่อขับเคลื่อนเชิงปฏิบัติจริง แล้วมานำเสนอผลที่ปฏิบัติในเวทีแต่ละครั้ง มิเช่นนั้นจะมีแต่การพบปะกันอย่างเดียว หลายท่านมองว่าต้องใช้เวลาค่อยเป็นไป หาประเด็นร่วมให้ชัดแล้วค่อยเดิน อย่างไรเสียเป้าหมายปลายทางต้องไปถึงแน่นอน (แหม่มมองว่าหากชัดในประเด็นร่วมแล้วเราก็ควรมุ่งสู่การปฏิบัติจริง….ซึ่งในส่วนตัวนั้นคิดว่าประเด็นเราน่าจะชัดตั้งแต่เวทีครั้งที่ 1 ….เวทีครั้งหลังคือการปฏิบัติจริง…. ทีมทำชัด นำกระบวนการขับเคลื่อนให้เกิดจริง การจะไปถึงเป้าก็จะได้ประหยัดทุน ทุนคน ทุนเวลา และทุนเงินตรา อยากให้คำนึงส่วนนี้ด้วย )
หลังจากทบทวนประเด็นพร้อม ลปรร.กันเล็กน้อย ให้ภาพของ ตำบลบางจากและประเด็นของพื้นที่
ตำบลบางจากมี 11 หมู่บ้าน ประชากรกว่า 9,000 คน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เป็นพื้นที่ราบลุ่มเหมาะแก่การทำนา กิจรรมเด่นของตำบลบางจาก
- รางวัลพระราชทาน รางวัลหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง “อยู่เย็นเป็นสุข” ประจำปี 2549 บ้านบางสะพานหมู่ที่ 7
- ศูนย์นวดแผนไทย วัดธาราวดี หมู่ที่ 3
- โรงเรียนอนุรักษ์ป่าชายเลนดีเด่น โรงเรียนบ้านบางใหญ่ หมู่ที่ 5
- โรงงานปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ
- กองทุนสวัสดิการตำบลบางจาก
- พื้นที่เรียนรู้การใช้ประโยชน์ ของแปลงนา (การทำนาไม่เอาแต่ข้าว)
มีหน่วยงานราชการที่สำคัญในพื้นที่
- สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน
- โรงเรียนจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย
- ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงาน
- ศูนย์อนามัยที่ 11
- ศูนย์วิจัยข้าว
จากสภาพพื้นที่ราบลุ่มเหมาะแก่การทำนานั้น ประเด็นของบางจากที่ต้องการขับเคลื่อน คือ “การจัดการน้ำเพื่อการเกษตร” ค่ะ
ก่อนปิดเวทีช่วงเช้านั้นพี่ภีมทำ Powerpoint เสนอให้เห็นภาพรวมชุมชนอินทรีย์ เครือข่ายอำเภอเมือง อีกครั้ง
- บุคคล เราจะคำนึงถึง คุณภาพชีวิต ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับสุขภาพ สังคม/ชุมชน และสิ่งแวดล้อม
- ทรัพยากร อ.เมืองเรา มีทั้ง ดิน น้ำ ป่าชายเลน และทะเล
- เรามีภูมิปัญญา ความรู้
- เรามีกลุ่มองค์กรชุมชน
- เรามีทุน (ออมทรัพย์ สวัสดิการ)
- ด้านอาชีพ ข้าว กุ้ง โค ชายฝั่ง ไม้ผล ปุ๋ยอินทรีย์ ท่องเที่ยว
- ดังนั้นเราควรมีการเรียนรู้ กระบวนการจัดการความรู้ เรื่อง คลอง นา ข้าว ปุ๋ยชีวภาพ กองทุนสวัสดิการชุมชน ศูนย์สามวัย และเมืองพุทธภูมิ (โดยมีการตั้งคณะทำงาน ซึ่งมาจาหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งหมดที่ทำ MOU ร่วมกัน)
ซึ่งมองแล้วพี่ภีมพยายามกระตุ้นให้เกิดการสร้างทีมทำงานที่จะลงไปปฏิบัติจริงในพื้นที่(ประเด็นชัดมุ่งสู่การปฏิบัติจริง) เล่นเอาเหนื่อยเลยใช่มั๊ยค่ะพี่ภีม ^_^สู้สู้ (….อ.หมอวิเชียร แห่ง ม.วลัยลักษณ์ ได้กล่าวไว้ว่า ….การเคลื่อนงานก็เหมือนขบวนรถไฟสายใต้ที่จะมุ่งสู่จุดหมายปลายทางที่หัวลำโพง กทม. กว่าจะถึงเป้าหมาย ต้องใช้เวลา แต่อย่างไรก็ถึงเป้าหมายแน่นอน แต่อาจจะแวะหลายป้ายหน่อย อ.หมอกล่าวไว้อย่างนั้น…เสียงบประมาณเยอะนะแหม่มว่า เพราะการแวะหลายป้ายเราก็จะมีช่องทางที่จะจับจ่ายเยอะขึ้น… :)
ครูนงเมืองคอนทบทวนสาระสำคัญ MOU ก่อนแยกย้ายกันทานข้าวเที่ยงฝีมือชาวบ้านที่อร่อยมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆทานแล้วคิดถึงฝีมือแม่จัง…..
แวะมาชื่นชมผลงานกับความรู้สึกดีๆของคนทำงานในบ้านเกิดของผมครับ ขอเป็นกำลังใจให้ในการทำงานครับ
ขอบคุณที่ถ่ายทอดเรื่องราวให้ติดตามคะ ช่วงนี้พลาดการร่วมทีมหลายเวที คอยติดตามอ่านแบบนี้ก็ทำให้เห็นภาพได้อีกทางคะ
การแวะหลายป้ายอาจต้องเสียงบประมาณแน่หากการแวะครั้งนั้นมีการซื้อสินค้าด้วย แต่หากแวะแล้วไม่ซื้อเราก็คงเสียแค่ค่าผ้าเบรคเล็กน้อย แต่อาจได้วิวสวยๆ ติดไม้ติดมือเพิ่มขึ้นหรือเปล่า ^_^ คิดเล่นๆ นะคะ
ขอบคุณที่แบ่งปันเรื่องราวคะ