ความรุนแรง...ซึม ลึก เด็กไทย
แนะพ่อแม่หากิจกรรม ดึงเด็กออกจากทีวี
โครงการเพื่อเด็กไทย ใส่ใจสื่อ โดยการสนับสนุนของแผนงานสื่อสร้างสุขภาวะเยาวชน(สสย.)บริหารแผนโดย มูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) นำเสนอผลการวิจัย เรื่อง “การวิเคราะห์ความรุนแรงในรายการโทรทัศน์” มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาจำนวนรายการ / ปริมาณเวลา / ลักษณะของความรุนแรง / จำนวนและลักษณะภาพยนตร์โฆษณาที่นำเสนอความรุนแรง รวมทั้ง ศึกษาความคิดเห็นของเด็กและผู้ปกครองที่มีต่อความรุนแรงในรายการโทรทัศน์สำหรับเด็ก โดยทำการศึกษาสถานีโทรทัศน์ฟรีทีวี ได้แก่ ช่อง 3 , 5 , 7 , 9, NBT และ THAI PBS สำรวจ 1 สัปดาห์ในช่วงปลายเดือนธันวาคมปี 2551 ที่ผ่านมา พบว่า รายการการ์ตูนเป็นรายการที่มีปริมาณเวลาการออกอากาศมากที่สุด
“แต่สิ่งที่ตามมาคือ พบว่ารายการต่างๆที่นำเสนอให้เด็กๆดู มีความรุนแรงเกินกว่าครึ่ง ถึงร้อยละ 54.95 โดยปรากฏในรายการประเภทการ์ตูนมากที่สุด รองลงมาคือละคร” ผศ.ลักษมี คงลาภ ในฐานะคณะผู้วิจัยกล่าว
สิ่งที่ผู้วิจัยค้นพบในรายการโทรทัศน์ที่ปัจจุบันมีภาพความรุนแรงปรากฏอย่างชัดเจน คือ ความรุนแรงที่อยู่หน้าจอโทรทัศน์มีการแสดงออกทั้งทางวาจา การกระทำทางร่างกายโดยใช้อุปกรณ์และไม่ใช้ ความกดดันทางจิตใจ ความก้าวร้าว การทำข้าวของเสียหาย ฯลฯ เพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ต้องการ
ส่วนภาพยนตร์โฆษณาในรายการโทรทัศน์สำหรับเด็กส่วนใหญ่เป็นโฆษณาขนมขบเคี้ยวมากที่สุด และมีการนำเสนอความรุนแรงในภาพยนตร์โฆษณาเช่นกันคิดเป็นร้อยละ 31.89
“เด็กๆ ได้รับผลเสียอย่างไม่รู้ตัวจากโทรทัศน์ 2 ต่อ คือ ภาวะโรคอ้วนจากการซื้อขนมที่ดูโฆษณาทางโทรทัศน์ และความรุนแรงจากสื่อโฆษณา ซึ่งเป็นสิ่งที่ซึมลึกมากกว่าจะเห็นผลในทันที”
ผู้วิจัยกล่าวเสริม
คณะนักวิจัยร่วมสนทนากลุ่มเด็กอายุ 6-12 ปีและผู้ปกครอง พบว่า ทีวีเป็นสื่อที่เด็กๆชอบดูกับครอบครัว โดยรายการตลก รายการผีเป็นสิ่งที่เด็กๆชอบ แต่รายการละครจะดูกับคนในบ้านที่เปิดดูอยู่แล้ว เด็กยอมรับว่าเคยเลียนแบบตัวละครในทีวี เช่น การเตะ ถีบ ต่อย ดึงผม ข่วนหน้า ใช้อาวุธ และเด็กๆเห็นว่า ละครหลังข่าวมีความรุนแรงมากที่สุด
ส่วนผู้ปกครองเห็นว่า การจัดเรตติ้งรายการโทรทัศน์มีประโยชน์สำหรับผู้ปกครอง เพราะหากเป็นรายการสำหรับเด็กที่มีตัวอักษร ด ก็จะให้ลูกดู โดยไม่ห่วง ส่วนการที่เด็กดูรายการละครที่มีบางฉากไม่เหมาะสมกับวัย ก่อให้เกิดปัญหากับพ่อแม่ในเรื่องการอธิบายเพื่อสร้างความเข้าใจให้กับลูก ผู้ปกครองมีความกังวลว่า เด็กๆชอบดูการ์ตูน แต่การ์ตูนมักนำเสนอความรุนแรง และบางเรื่องมีความล่อแหลมทางเพศ
รายการโทรทัศน์สำหรับเด็กที่ผู้ปกครองอยากให้มีเพิ่มมากขึ้น คือ รายการให้ความรู้พื้นฐานที่ใช้ในการเรียน ให้ข้อคิด คติสอนใจ ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และส่งเสริมความรู้ แต่หากรายการที่เป็นการแข่งขัน อยากให้สะท้อนถึงความมีน้ำใจ นอกจากนี้ อยากให้มีการ์ตูนที่เป็นวรรณคดีหรือวรรณกรรมพื้นบ้านของไทยเพิ่มมากขึ้น
ในโครงการเดียวกัน ดร.บุญอยู่ ขอพรประเสริฐ รายงานผลการสำรวจพฤติกรรมการเปิดรับและความต้องการของเด็กที่มีต่อรายการโทรทัศน์ โดยศึกษาเด็กชั้น ป.1 – ป. 6 ทั่งประเทศ จำนวน 1,600 คน พบว่า เด็กๆดูทีวีในช่วงค่ำมากที่สุดในวันธรรมดา ส่วนวันหยุด เด็กสามารถตื่นเช้ามาดู ทีวีได้ในช่วงเวลา 06.00 – 09.00 น. ส่วนใหญ่ดูกับพ่อแม่ผู้ปกครอง รายการที่ชอบที่สุดคือ ละครแนวต่อสู้ รู้สึกสนุก รายการโทรทัศน์ที่เด็กต้องการให้เพิ่มขึ้น คือรายการสารคดี ข่าว และการ์ตูน เด็กๆไม่มีความรู้เรื่องการจัดเรตติ้งเป็นส่วนมาก
“ดูเหมือนว่าความรุนแรงจะอยู่กับเด็กเราจนเคยชินทางโทรทัศน์ เราจึงอยากเสนอให้พ่อแม่ทำกิจกรรมสร้างสรรค์อื่นๆกับเด็กมากกว่าการใช้เวลาว่างดูทีวีอย่างเดียว” คณะผู้วิจัยกล่าว
จากผลการวิจัยข้างต้น จึงจะได้มีการจัดเสวนาเรื่อง “เจาะลึกจอตู้..วันนี้ หนูๆ ดูอะไร” ในวันพฤหัสบดีที่ 12 มีนาคม 2552 เวลา 09.30-12.30 น. ณ ห้องประชุมชั้น 35 สสส. อาคารเอสเอ็มทาวเวอร์ ตรงข้าม ททบ.5 ถนนพหลโยธิน กรุงเทพฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอผลการวิเคราะห์รายการโทรทัศน์และความรุนแรงในรายการโทรทัศน์สำหรับเด็ก และเป็นเวทีให้ผู้เข้าร่วมเสวนาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการนำเสนอความรุนแรงในรายการโทรทัศน์สำหรับเด็กในปัจจุบัน อันจะเป็นแนวทางในการพัฒนารายการโทรทัศน์สำหรับเด็กต่อไป นอกจากการนำเสนอผลการวิจัยโดยนักวิชาการแล้ว ยังมีการร่วมแสดงความคิดเห็นโดย นายแพทย์สุริยเดว ทรีปาตี ผู้เชี่ยวชาญจิตวิทยาเด็ก / คุณกมลชนก (กวาง) เขมะโยธิน นักแสดง/พิธีกร/นักธุรกิจ/แม่บ้าน / คุณสืบสกุล พันธุ์ดี ผู้ประกาศข่าว ช่อง 5
ไม่มีความเห็น