การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องปกติพื้นฐานที่เกิดขึ้นได้ในทุกองค์กรเพียงแต่ว่าจะเป็นเรื่องเล็ก ใหญ่หรือถี่ห่างกันมากแค่ไหนเท่านั้น ไม่มีองค์กรใดจะอยู่ยั้งยืนยงโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดไป หากแต่ในการเปลี่ยนแปลงนั้น จะต้องมีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ มีการวางแผนงาน ให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่ต้องการและระบุบทบาทหน้าที่ของบุคลากรที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจน ทั้งนี้เป็นเพราะพฤติกรรมของคนเป็นสิ่งที่ทำนายได้ เมื่อคนเรารับรู้ถึงสิ่งแปลกใหม่และปฏิเสธการเปลี่ยนแปลง คนเรามักจะเกิดความรู้สึกต่อต้าน โกรธ โมโหและพยายามต่อรอง จนส่งผลให้ผลงานตกต่ำลง เมื่อระยะเวลาผ่านไป ความรู้สึกเปลี่ยนเป็นการเริ่มลองปฏิบัติ ยอมรับการปฏิบัติ และเกิดผลการเปลี่ยนแปลงจนนำมาซึ่งการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
การบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลงที่ดีต้องสร้างสมดุลความรู้สึกและแนวทางการเปลี่ยนแปลงให้ชัดเจนโดยต้องพึงระวังไม่ให้ภาวการณ์ตกต่ำของประสิทธิภาพการทำงานนานเกินไปจนไม่สามารควบคุมได้ การบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การปรับตัวและยอมรับสิ่งใหม่ จะต้องสื่อสารให้ชัดถึงแนวทางที่องค์กรเตรียมไว้ สื่อให้รู้ถึงผลกระทบต่อบุคลากรในองค์กร ประโยชน์ที่คาดว่าจะเกิดขี้น และวิธีการวัดผลการดำเนินการให้ชัดเจน
ทั้งนี้ บทบาทที่สำคัญในกระบวนการบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลงได้แก่ ผู้ที่จะตัดสินใจว่าการเปลี่ยนแปลงใดจะเกิดขึ้น (Change Sponsor) ผู้ที่สนับสนุนการเปลี่ยนแปลง (Change Advocate) ผู้ที่ช่วยให้การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น (Change Agent) และผู้ที่ต้องปรับตัวเปลี่ยน (Change Target) บทบาททั้งสี่นี้มีความแตกต่างกัน แต่บทบาทที่สำคัญที่สุดคือ Change Sponsor ซึ่งก็คือผู้บริหารระดับสูง ผู้ให้การสนับสนุนและตัดสินใจแก้ปัญหาอุปสรรค เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงสามารถเกิดขึ้นได้อย่างราบรื่นและบรรลุตามวัตถุประสงค์ขององค์กร
ขอบคุณครับ ที่ชี้แนะ
น่าสนใจมากครับ
อยากได้รายละเอียด น่าจะหางานวิจัยสนับสนุน
สวัสดีค่ะ
- จะติดตามนะค่ะ
เขียนบ่อย ๆ นะค่ะ จะเป็นแฟนคลับต่อจ้า