สังคมใดก็ตามจะยั่งยืนยาวนานแค่ไหนเพียงไร จะต้องใช้ หัวใจหล่อเลี้ยง จนเกิดความไว้วางใจกัน จากนั้น พลังปัญญา จะปรากฎออกมาเองค่ะ
ที่ผ่านมาศิลาได้ยินคำถามที่เกิดขึ้นบ่อยมากเกี่ยวกับกรณีของการเข้ามาใน G2K เพื่อเข้ามาค้นองค์ความรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยเฉพาะ
“พิมพ์ Key words คำที่จะค้นหาใน G2K แล้วจะพบความรู้เกี่ยวกับเรื่องนั้นทั้งหมดเลยไหมคะ”
“ทำไมพิมพ์คำนี้ จึงไม่เจอความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างเพียงพอเลย”
“จะหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ใน G2K อย่างไร”
“มีระบบการจัดข้อมูลเป็นหมวดหมู่เกี่ยวกับเรื่องนี้โดยเฉพาะอย่างไรบ้าง”
ศิลาต้องขออภัยอย่างยิ่งจากใจจริงหากคำตอบต่อไปนี้ของศิลาไม่ถูกต้องตรงใจสำหรับท่านผู้อ่านท่านใด โดยศิลาถือว่าตนเป็นเพียงสมาชิกรุ่นน้องของกัลยาณมิตร G2K คำตอบจึงเปรียบเสมือน ผู้ยังไม่รู้จริง
ศิลาบอกผู้ที่ตั้งคำถามว่า ชุมชน G2K เป็นชุมชนกัลยาณมิตรแลกเปลี่ยนเรียนรู้แบบใจถึงใจ หากจะเข้ามาหาข้อมูลแบบสำเร็จรูป อาจจะไม่พบตรงตามที่ต้องการหรือคาดหวังไว้ ทางที่ดีที่สุด ศิลาจึงอยากให้พี่ ๆ น้อง ๆ เพื่อน ๆ หรือคนรู้จักของศิลาที่ตั้งคำถามข้างต้นนี้ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ G2K เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สร้างชุมชนเครือข่ายใจถึงใจ อย่างกัลยาณมิตรจิตโยนิโสมนสิการ
มาร่วม Cheer & Share…. เสมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน
คำตอบของศิลาจึงดูเหมือนไม่ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับวิธีการสืบค้นข้อมูลเป็นระบบ เป็นหมวดหมู่ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น
สำหรับศิลาแล้ว การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ต่อยอดใด ๆ จะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อมีชุมชน มีเครือข่าย มีน้ำใจไมตรี มีความผูกพัน และที่สำคัญคือ ความไว้เนื้อเชื่อใจกัน ซึ่งไม่ต้องมีเหตุผลใด ๆ มาอธิบายมากมาย เป็นการสัมผัสรู้ด้วยจิต
เมื่อเกิดอารมณ์ร่วมเป็นหนึ่งเดียวกัน เสมือนเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว จะทำให้เราเปิดใจเข้าหากัน จากนั้น ไม่ว่าเราจะอยากแลกเปลี่ยนเรียนรู้อะไร การเปิดปัญญา โดยอิสระก็จะตามมาเอง
สิ่งที่ศิลาสัมผัสด้วยตัวเองจากการทำงานในองค์กร คือการรายงานตามคำสั่งหรือหน้าที่ แตกต่างกับการหารือด้วยความไว้วางใจโดยสิ้นเชิง
บันทึกนี้ จึงไม่มีอะไร นอกจากอยากบอกว่าศิลาเชื่อมั่นว่าสังคมใดก็ตามจะยั่งยืนยาวนานแค่ไหนเพียงไร จะต้องใช้ หัวใจหล่อเลี้ยง จนเกิดความไว้วางใจกัน จากนั้น พลังปัญญา จะปรากฎออกมาเองค่ะ
(หลังจากศิลาลงบันทึกนี้ไปและได้อ่านความเห็นของคุณพี่ชยพร ทำให้ทราบว่าตนเองยังเขียนไม่เสร็จสิ้นกระบวนความภายในใจทั้งหมด...คำตอบอยู่ที่ความเห็นที่ 1 ของคุณพี่ชยพรค่ะ...โดยขอยืนยันว่าพลังปัญญาและการแสวงหาความรู้อย่างเป็นระบบย่อมจะต้องเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอนค่ะ...เป็นลำดับไป)
หากมีคำตอบใด ๆ ควรเพิ่มเติมมากกว่านี้ ขอเชิญกัลยาณมิตร G2K ของเรามาร่วม Cheer และ Share ได้เลยค่ะ เพื่อว่าศิลาจะได้นำไปตอบให้ผู้ที่ตั้งคำถามทั้งหลายได้ทราบข้อมูลเพิ่มเติม… (จากศิลาผู้ยังไม่รู้จริง)
ขอจบสไตล์ศิลา แถมท้ายด้วยความรู้หลักธรรมเกี่ยวกับบุพนิมิตแห่งมรรค 7 ธรรมที่เป็นเครื่องหมายบ่งบอกว่าหากผู้ใดมีประดับตนไว้ มรรคมีองค์ 8 ประการอันประเสริฐจะเกิดขึ้นแก่ผู้นั้นค่ะ และโปรดสังเกตองค์ประกอบในบุพนิมิตแห่ง 7 ด้วยว่ามีคำว่ากัลยาณมิตรและโยนิโสมนสิการค่ะ
280] บุพนิมิตแห่งมรรค 7 (ธรรมที่เป็นเครื่องหมายบ่งบอกล่วงหน้าว่า มรรคมีองค์ 8 ประการอันประเสริฐจะเกิดขึ้นแก่ผู้นั้น ดุจแสงอรุณเป็นบุพนิมิตของการที่ดวงอาทิตย์จะอุทัย, แสงเงินแสงทองของชีวิตที่ดี, รุ่งอรุณของการศึกษา - a foregoing sign for the arising of the Noble Eightfold Path; precursor of the Noble Path; harbinger of a good life or of the life of learning)
1. กัลยาณมิตตตา (ความมีกัลยาณมิตร, มีมิตรดี, คบหาคนที่เป็นแหล่งแห่งปัญญาและแบบอย่างที่ดี - good company; having a good friend; association with a good and wise person)
2. สีลสัมปทา (ความถึงพร้อมด้วยศีล, การทำศีลให้ถึงพร้อม, ตั้งตนอยู่ในวินัยและมีความประพฤติทั่วไปดีงาม - perfection of morality; accomplishment in discipline and moral conduct)
3. ฉันทสัมปทา (ความถึงพร้อมด้วยฉันทะ, การทำฉันทะให้ถึงพร้อม, ความใฝ่ใจอยากจะทำกิจหน้าที่และสิ่งทั้งหลายที่เกี่ยวข้องให้ดีงาม, ความใฝ่รู้ใฝ่สร้างสรรค์ - perfection of aspiration; accomplishment in constructive desire)
4. อัตตสัมปทา (ความถึงพร้อมด้วยตนที่ฝึกดีแล้ว, การทำตนให้ถึงพร้อมด้วยคุณสมบัติของผู้ที่พัฒนาแล้วให้สมบูรณ์ ทั้งด้านกาย ศีล จิต และปัญญา [ที่จะเป็น ภาวิตัตต์ คือผู้มีตนอันได้พัฒนาแล้ว] - perfection of oneself; accomplishment in self that has been well trained; dedicating oneself to training for the realization one's full human potential; self-actualization)
5. ทิฏฐิสัมปทา (ความถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ, การทำทิฏฐิให้ถึงพร้อม, การตั้งอยู่ในหลักความคิดความเชื่อถือที่ถูกต้องดีงามมีเหตุผล เช่น ถือหลักความเป็นไปตามเหตุปัจจัย - perfection of view; accomplishment in view; to be established in good and reasoned principles of thought and belief)
6. อัปปมาทสัมปทา (ความถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาท, การทำความไม่ประมาทให้ถึงพร้อม - perfection of heedfulness; accomplishment in diligence)
7. โยนิโสมนสิการสัมปทา (ความถึงพร้อมด้วยโยนิโสมนสิการ, การทำโยนิโสมนสิการให้ถึงพร้อม, ความฉลาดคิดแยบคายให้เห็นความจริงและหาประโยชน์ได้ - perfection of wise reflection; accomplishment in systematic attention)
เมื่อใดธรรมที่เป็นบุพนิมิต 7 ประการนี้ แม้อย่างใดอย่างหนึ่งเกิดมีในบุคคลแล้ว เมื่อนั้นย่อมเป็นอันหวังได้ว่าเขาจักเจริญ พัฒนา ทำให้มาก ซึ่งมรรคมีองค์ 8 ประการอันประเสริฐ คือจักดำเนินก้าวไปในมัชฌิมาปฏิปทา
แหล่งข้อมูลพจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรมพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) http://www.84000.org/tipitaka/dic/d_seek.php?text=%C1%C3%C3%A4