คุณใสแดง แก้วธรรมอีเมลล์มารายงานผลงานเมื่อวันที่ ๒๘ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๑ ว่า "ทางนิติกรของอำเภอแม่อายได้โทรศัพท์ไปบอกที่สำนักงานคลินิกกฎหมายชาวบ้านแม่อายว่า กรณีของเด็ก ๓๓ ราย ซึ่งนายอำเภอแม่อายได้อนุมัติและทำการเพิ่มชื่อไปแล้ว คงเหลือ อีก ๑๓ ราย ที่ยังไม่ได้รับการเพิ่มชื่อ บัดนี้ นายอำเภอแม่อายได้เซ็นอนุมัติคำร้องของเด็กทั้งหมดแล้ว จำนวน ๑๒ ราย ยกเว้น คำร้องของ น.ส.ยุพิน น้อยอ้าย เพราะยังรอผล ดี.เอ็น.เอ จาก โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ และทางนิติกรของอำเภอบอกว่าให้ทางเจ้าหน้าหน้าที่ของคลินิกกฎหมายฯ ติดต่อประสานให้บิดา/มารดา ของเด็กนำเด็กไปทะยอยเพิ่มชื่อเข้าในทะเยียนราษฎรของบิดา/มารดาได้แล้ว ในสัปดาห์หน้า โดยให้เริ่มตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไปฯ”
กวนตะกอนขอแสดงความโล่งใจต่อชาวบ้านแม่อายซึ่งมีสัญชาติไทย แต่บุตรยังประสบความไร้สัญชาติ คนในสังคมไทยบางส่วนก็คงลืมเรื่องความไร้สัญชาติของคนแม่อาย ๑๒๔๓ คนและบุตรนั้นไปแล้ว ความโชคร้ายของชาวบ้านกลุ่มน้อยเหมือนนวนิยาย เริ่มต้นจากการตกหล่นจากการสำรวจทะเบียนราษฎรของรุ่นปู่ย่าตายายในราว พ.ศ.๒๔๙๙ และจะได้รับการเยียวยาใน พ.ศ.๒๕๔๒ เมื่อมีการถวายฎีกาต่อในหลวง แต่ก็มาถูกถอนชื่อออกจากทะเบียนบ้าน (ท.ร.๑๔) โดยอำเภอแม่อายอีกครั้งในวันที่ ๕ กุภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๔๕
ชาวบ้านกลุ่มนี้ได้ฟ้องอำเภอแม่อายต่อศาลปกครองในปลายปี พ.ศ.๒๕๔๕ และทั้งศาลปกครองชั้นต้นที่เชียงใหม่และศาลปกครองสูงสุดก็ตัดสินให้ชาวบ้านชนะคดี กล่าวคือ ยืนยันสิทธิในสัญชาติไทยของชาวบ้านทั้ง ๑๒๔๓ คน
ขอให้สังเกตว่า คดีในศาลปกครองสิ้นสุดปลายปี พ.ศ.๒๕๔๘ แต่การเยียวยาความเสียหายให้แก่ชาวบ้านเป็นไปอย่างยากลำบาก จนป่านนี้ พ.ศ.๒๕๕๑ แล้ว ก็ยังไม่แล้วเสร็จ กวนตะกอนหวังว่า อำเภอแม่อายจะรีบแก้ไขปัญหาให้แก่เด็กแม่อาย ๓๓
--------------------------------------------------------------- กว่า ๓ ปี นับแต่ศาลปกครองสูงสุดยืนยันสิทธิในสัญชาติไทยแก่ชาวบ้านแม่อาย ๑๒๔๓ คนและบุตร โดย รศ.ดร.พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตรา สายสุนทร วันศุกร์ที่ ๒๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ ---------------------------------------------------------------
ไม่มีความเห็น