เปลี่ยนวิธีคิด ชีวิตก็เปลี่ยน


คิดเล็ก ปัญหาเยอะ คิดใหญ่ ปัญหาน้อย

                 กลับมาแล้วครับ ขออภัยที่ทิ้งหัวข้อเรื่องไว้นานไปหน่อย ชื่อบันทึกที่ตั้งไว้ว่า "เปลี่ยนวิธีคิด ชีวิตก็เปลี่ยน" นั้น มันสามารถเป็นได้จริงเลยครับ จากการที่ผมได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่ง เห็นว่าน่าสนใจ เผื่อจะเป็นแรงบันดาลใจ ให้หลายๆ คนที่คิดอยากจะประสบความสำเร็จ และมีอิสรภาพทางการเงินและเวลา รวมถึงคนที่ต้องการจะออกจาก "สนามแข่งหนู"

                 จุดประสงค์ของผมที่เขียนบันทึกนี้ ไม่ได้ต้องการเสนอในเรื่องของ ความรวย หรือ ความจน แต่ผมอยากจะฝากไว้สักนิดว่า "ถ้าคุณเปิดใจ และรับโอกาสใหม่ๆ ที่จะเข้ามาในชีวิต" คุณควรหาความรู้เพิ่มเติมในเรื่องนี้เพราะจะให้ประโยชน์มาก มีหนังสือหลายเล่ม อธิบายไว้อย่างดี เล่มหนึ่งที่น่าสนใจคือ "Rich Dad Poor Dad" by Robert T. Kiyosaki 

                คนจนและคนชั้นกลางทำงานเพื่อเงิน แต่คนรวยใช้เงินทำงาน

ที่สุดแล้วเราทุกคนก็คือลูกจ้าง แต่ในระดับที่แตกต่างกัน เราควรหลีกเลี่ยงกับดักซึ่งถูกสร้างขึ้นด้วยความกลัวและความโลภ หากเราควบคุมความต้องการได้ จะทำให้เรามีเวลาคิดมากขึ้น เราทุกคนมีความต้องการ กลัว โลภ หลายคนใช้มันในทางที่ผิด หลายคนตั้งตารอวันเงินเดือนออก รอโอกาสที่จะได้เงินเดือนขึ้น ก็เพราะความกลัวและความต้องการ โดยไม่คำนึงว่าชีวิตจะเป็นอย่างไรในวันหน้า เหมือนลาที่ถูกล่อให้เดินตามหัวแครอต จนไม่เหลียวดูหนทาง และหวังว่าพรุ่งนี้จะมีแครอตให้เดินตามอีก

                มองในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น

หากเราเปิดใจ เราจะมีอิสระทางความคิด จะเริ่มเห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น เพราะพวกเขาคอยมองหาแต่เงินเดือน จึงมองข้ามโอกาสที่ลอยอยู่ตรงหน้า เมื่อไหร่ที่คุณเริ่มเห็นโอกาส คุณจะมองเห็นมันไปตลอดชีวิต

                การมีเงินมากๆ นั้น ไม่สำคัญเท่ากับการรู้จักวิธีรักษามันไว้ให้อยู่กับเราลอดไป

หากคุณจะสร้างตึกเอ็มไพร์สเตท คุณคงต้องเริ่มด้วยการขุดหลุมลึกๆ และสร้างรากฐานอันมั่นคง ถ้าคุณจะสร้างบ้านในเขตชานเมือง คุณก็แค่เทคอนกรีตหนาสัก 6 นิ้ว แต่คนส่วนมากพยายามรวย ด้วยการสร้างตึกเอ็มไพร์สเตทบนคอนกรีตที่เทไว้หนาเพียง 6 นิ้วเท่านั้น

                ศึกษาหาความรู้ทางการเงิน

คุณต้องเริ่มทำความเข้าใจความแตกต่างของคำว่า ทรัพย์สิน และ หนี้สิน และพยายามสะสม ทรัพย์สิน ที่สามารถสร้างรายได้ให้คุณ นี่แหละคือวิธีสู่ความร่ำรวย มันจะทำให้ทรัพย์สินของคุณเพิ่มพูนขึ้น ทำให้คุณมีเงินมากพอที่จะเริ่มลงทุน การลงทุนที่คนทั่วไปมองว่าเป็นความเสี่ยง จริงๆ แล้วการลงทุนนั้นไม่เสี่ยงเลย การขาดความรู้ทางการเงินต่างหากที่เป็นความเสี่ยง

         หากคุณเป็นลูกจ้าง(มนุษย์เงินเดือน) และหาซื้อบ้าน หรือมีบ้านเป็นของตนเอง คุณกำลังทุ่มเทกำลังแรงกายแรงใจ เพื่อบุคคลต่อไปนี้

                1.คุณทำงานรับเงินเดือน     คุณกำลังทำให้นายจ้างหรือผู้ถือหุ้นรวยขึ้น ทำให้ประสบความสำเร็จเร็วขึ้น

                2.คุณทำงานเพื่อเลี้ยงรัฐบาล    เพราะรัฐบาลเก็บภาษีจากรายได้ของคุณ ยิ่งคุณทำงานมากขึ้น คุณก็ต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้น (จำนวนเงินที่คุณเสียภาษีให้รัฐบาลนั้น เท่าๆ กับเงินเดือนตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคม)

                3.คุณทำงานเพื่อเลี้ยงนายธนาคาร     เพราะเงินที่เหลือหลังจากหักภาษี คุณก็ต้องนำมาจ่ายค่าบ้าน ดอกเบี้ย และหนี้บัตรเครดิต

ปัญหาคือยิ่งทำงานมาก ยิ่งต้องจ่ายมาก แล้วทำอย่างไรเล่าจึงจะทำงานมากและได้เงินมากขึ้นด้วย ทำอย่างไรผลของการออกแรงมากจึงจะตกกับตัวคุณและครอบครัวคุณโดยตรง

คนรวยซื้อทรัพย์สิน

คนจนมีแต่รายจ่าย

คนชั้นกลางซื้อหนี้สิน ที่พวกเขาคิดว่าเป็นทรัพย์สิน

                เพิ่มทรัพย์สิน ทำธุรกิจของตนเอง

ปัญหาของระบบการศึกษาคือ ไม่ว่านักเรียนเรียนวิชาอะไร เขามักจะออกมาทำอาชีพนั้น เช่น เรียนหมอก็ออกมาเป็นหมอ เรียนช่างยนต์ก็ออกมาซ่อมรถ เรียนกฎหมายก็ต้องเป็นทนาย มุ่งออกมาทำงานตามที่เล่าเรียนมา จนลืมไปว่าเขากำลังทำงานให้คนอื่น และไม่ใช่เพื่อตัวเองเลย เราจึงมักจะได้ยินคำว่า

                          ฉันอยากได้เงินเดือนขึ้น

                เมื่อไหร่จะได้เลื่อนขั้นสักที

                ฉันจะกลับไปเรียนหนังสืออีก จะได้หางานที่ดีกว่านี้

                ฉันอยากทำงานล่วงเวลาหรือหางานทำตอนวันหยุดอีกสักอย่าง

                ลาออกดีกว่า ฉันได้งานใหม่ เงินเดือนดีซะด้วย

รากฐานของคนชั้นกลางหรือคนจนก็คือ กลัว ไม่กล้าเสี่ยง ทำให้ยึดติดอยู่กับเงินเดือนและงานที่ทำอย่างเหนียวแน่น เพราะที่นั่นเขารู้สึก ปลอดภัย

                   หลายคนมักจะบ่นว่าไม่เคยเจอสิ่งดีๆ ในชีวิตเลย คนเหล่านี้ได้แต่นั่งรอว่าสักวัน โอกาสดีๆ จะวิ่งมาชน และก็มีหลายคนที่เจอสิ่งดีๆ ในชีวิต แต่ไม่มีเงิน จึงได้แต่นั่งรอและบ่นว่าไม่มีเงิน ปล่อยให้ โอกาสดีๆ หลุดมือไป อีกหลายคนเจอสิ่งที่ดีมากๆ แต่ก็ไม่รู้หรอกว่านั่นคือ โอกาส คนพวกนี้มีเงิน มีจังหวะ แต่มองไม่เห็น โอกาสดีๆ ในโลกนี้ มีคนประเภทนี้จำนวนมากที่มองไม่เห็นโอกาสที่วางอยู่ในมือ ได้แต่นั่งรอ แล้ววันหนึ่งคนอื่นก็คว้าเอาไป

                  คำว่า อะไร สำคัญไม่เท่า อย่างไร ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น สิ่งสำคัญคือคุณจะทำอย่างไร ทำอย่างไรจึงจะให้ธนบัตรใบละบาทกลายเป็นใบละร้อย เงินร้อยกลายเป็นเงินล้าน นี่แหละ..คือการใช้ความรู้ ไหวพริบ และความคิดสร้างสรรค์ เพื่อแก้ปัญหาการเงิน

                ในยุคแห่งข้อมูลข่าวสารเช่นปัจจุบัน ความร่ำรวยเพิ่มขึ้นรวดเร็ว คนบางคนรวยขึ้นในพริบตา โดยไม่ต้องใช้อะไรเลย นอกจากความคิดและข้อตกลง

                เหตุผลที่ผมเล่าเรื่องพวกนี้ให้คุณได้รู้ เพราะ

                                1.อยากชักชวนให้คุณเรียนรู้(ความรู้ทางการเงิน)มากขึ้น

                                2.เพื่อให้เห็นว่าถ้ามีพื้นฐานดี การทำเงินไม่ใช่เรื่องยาก

                                3.เพื่อให้เห็นว่าทุกคนมีสิทธิ์ร่ำรวยได้

                                4.เพื่อให้เห็นว่ามีวิธีมากมายที่จะได้เงินล้าน

                                5.เพื่อให้เห็นว่าไม่ใช่เรื่องยากเกินกว่าที่คนอย่างคุณจะเข้าใจได้

สนใจศึกษาโอกาสดีๆ ขอเรียนเชิญที่ www.richagel.com/?id=paisan

 

หมายเลขบันทึก: 257658เขียนเมื่อ 27 เมษายน 2009 12:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:39 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

มาส่งกำลังใจให้ค่ะ

...

แวะไป  รักษาสุขภาพด้วยกันที่นี่นะคะ

จะทำสถิติ  กรุ๊ปชาวบล็อก  ค่ะ

ที่นี่นะคะ....

★.• •★ ทานอาหาร...ตามกรุ๊ปเลือด...เพื่อสุขภาพที่ดี★... •★

ขอบคุณครับผม คุณปลายฟ้า สำหรับกำลังใจที่ส่งมาให้ ยังไงก็ขอเป็นแรงใจให้ด้วยเช่นกันนะครับ แล้วจะแวะไป รักษาสุขภาพ ตามที่แนะนำมานะครับผม

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท