ในการทดลองนำร่องการใช้หลักสูตรแกนกลาง พ.ศ.2551 ในปีการศึกษา 2552 เขตพื้นที่การศึกษาละ อย่างน้อย 3 โรงเรียน ในการนี้ เพื่อเป็นการผลักดันให้สถานศึกษาที่ร่วมทดลองนำร่องการใช้หลักสูตร ดำเนินการใช้หลักสูตร อย่างเป็นระบบ จริงจัง เป็นไปตามหลักวิชา เขตพื้นที่การศึกษาควรกำหนดข้อตกลงกับโรงเรียนว่า “ในการทดลองนำร่อง 1 ปีการศึกษา โรงเรียนจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง และ อะไร คือ ตัวชี้วัดว่าโรงเรียนได้ดำเนินการอย่างมีคุณภาพแล้ว” ทั้งนี้ หากเป็นไปได้ น่าจะมีการจัดทำเป็นบันทึกข้อตกลง( Memorandum of Understanding...MOU)ที่เป็นรูปธรรม
ในบันทึกข้อตกลง อาจกำหนด พฤติกรรม/ตัวบ่งชี้ ดังต่อไปนี้
1) โรงเรียนมีการจัดทำปฏิทินการบริหารจัดการหลักสูตร ระยะเวลา 12 เดือน ที่ชัดเจน(ตัวชี้วัด คือ ปฏิทิน การขับเคลื่อนหลักสูตร)
2) โรงเรียนจัดทำหลักสูตรสถานศึกษา โดยเน้นบทบาทร่วมระหว่างผู้เกี่ยวข้อง ให้แล้วเสร็จก่อนเปิดภาคเรียน อย่างน้อย 30 วัน(ตัวชี้วัด คือ เอกสารหลักสูตรสถานศึกษา)
3) จัดอบรมครู/ส่งครูเข้ารับการอบรม ให้ครูทุกคน รู้-เข้าใจหลักสูตร โดยมีการประเมินความรู้ ความเข้าใจของครู อย่างเป็นรูปธรรม(ร้อยละของครูที่ผ่านการอบรม และ จำนวนชั่วโมงที่ได้รับการอบรมโดยเฉลี่ยต่อครูหนึ่งคน)
4) ชี้แจงหลักสูตร ต่อผู้เกี่ยวข้อง คือ กรรมการสถานศึกษา เครือข่ายผู้ปกครอง และชุมชน และจัดให้มีการประชาพิจารณ์ หรือแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับหลักสูตร ก่อนเปิดภาคเรียน(บันทึกการประชุม หรือรายงานผลการจัดประชาพิจารณ์)
5) มอบหมายและดูแลให้ครู จัดทำแผนจัดการเรียนรู้ และเอกสารประกอบการสอน ภาคเรียนที่ 1 และภาคเรียนที่ 2 ให้แล้วเสร็จก่อนเปิดภาคเรียน อย่างน้อย 10 วัน(ร้อยละของครูที่ส่งแผนจัดการเรียนรู้ก่อนเปิดภาคเรียน)
6) โรงเรียนจัดให้มีการนิเทศภายใน เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้และร่วมแก้ปัญหา หรือพัฒนาการใช้หลักสูตร ทั้งในระดับโรงเรียนและระดับกลุ่มสาระ อย่างต่อเนื่อง ทุกเดือน(บันทึกการประชุมนิเทศภายในระดับโรงเรียน และระดับกลุ่มสาระ)
7) ส่งเสริมให้ครูผู้สอน ระดับรายวิชา มีการทดลอง วิจัยและพัฒนารูปแบบการสอน รูปแบบการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน อย่างหลากหลาย อย่างเป็นระบบ(ร้อยละของครูที่มีการคิดวิธีการสอนใหม่และมีแผนการทดลองที่เป็นรูปธรรม)
8) จัดให้มีการรายงานความก้าวหน้าในการใช้หลักสูตรของกลุ่มสาระต่าง ๆ ต่อที่ประชุมประจำเดือนของสถานศึกษา พร้อมสรุป Best Practice ของแต่ละกลุ่มสาระ ในรอบเดือน(บันทึกการประชุมประจำเดือน)
9) จัดให้มีการสัมมนาประเมินผลการใช้หลักสูตร สิ้นภาคเรียนที่ 1 โดยรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากหลายแหล่ง หลายลักษณะ ใช้ประกอบการสัมมนาโดยมีผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมสัมมนา คือ ผู้บริหาร ครู กรรมการสถานศึกษา และเครือข่ายผู้ปกครอง และผู้แทนสถาบันอุดมศึกษาในท้องถิ่น ฯลฯ (รายงานการสัมมนาประเมินความก้าวหน้าในการใช้หลักสูตร ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2552)
10) สิ้นปีการศึกษา 2552 จัดสัมมนาประเมินผลการทดลองนำร่องการใช้หลักสูตร โดยทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้จะต้องจัดทำรายงานการประเมินผลการใช้หลักสูตรระดับกลุ่มสาระ นำเสนอต่อที่ประชุม เชิญกรรมการสถานศึกษา และเครือข่ายผู้ปกครอง ผู้แทนสถาบันอุดมศึกษาในท้องถิ่น เข้าร่วมประชุมด้วย และสถานศึกษา(บันทึกการประชุม สัมมนาประเมินผลฯ)
11) จัดทำรายงานผลการทดลองนำร่องการใช้หลักสูตร ระยะ 1 ปีเสนอต่อเขตพื้นที่การศึกษา และ สพฐ.(รายงานผลการทดลองนำร่องการใช้หลักสูตร ระยะ 1 ปี ในภาพรวมของสถานศึกษา)
ถ้ากำหนดงาน/พฤติกรรมการทำงาน และ ตัวชี้วัดที่เป็นรูปธรรม โดยเขตพื้นที่การศึกษา มีการกำกับติดตาม กระตุ้น สนับสนุนให้สถานศึกษา มีการดำเนินการตาม MOU อย่างจริงจัง เชื่อว่า เมื่อสิ้นปีการศึกษา 2552 โรงเรียนทดลองนำร่องคงจะมีความก้าวหน้าในเชิงวิชาการที่ชัดเจน และจะเป็นแบบอย่างสำหรับสถานศึกษาอื่น ๆ ในการตามร่อง ในปีการศึกษา 2553 ได้เป็นอย่างดี
สวัสดีค่ะ อาจารย์
อาจารย์สบายดีนะคะ
สวัสดีครับท่านอาจารย์ที่เคารพ
ผมได้รับฟังคำแนะนำของท่านในการประชุมสัมมนา
รองผู้อำนวยการโรงเรียนของ สพท.กทม. เขต ๒ ที่ชะอำ เมื่อวันที่
๓๐ เมษายน ๕๒ และอ่านบทความนี้แล้ว ต้องขอขอบคุณท่านเป็น
อย่างมาก เพราะช่วยให้ผมเห็นแนวทางการขับเคลื่อนหลักสูตร ๕๑
ที่เป็นรูปธรรมและคงจะเป็นประโยชน์ต่อโรงเรียนของผม
และโรงเรียนอื่นๆ อย่างมากแน่นอน
ก่อนหน้านี้ถ้าผมทราบว่าท่านมี Blog อยู่ใน gotoknow
ผมคงมีแนวทางดีๆ มีประโยชน์อย่างมากในการบริหารงานวิชาการที่
ผมรับผิดชอบอยู่ และผมจะศึกษางานเขียนของท่านที่ผ่านมาและที่จะ
เขียนในโอกาสต่อไป และขออนุญาตเป็นลูกศิษย์ของท่านคนหนึ่งนะ
ครับ
สวัสดีครับ
สวัสดีครับ ครูอ้อย
เรียน คุณเรวัช
สวัสดีครับท่านอาจารย์ที่เคารพ
ท่าน รองฯ เรวัช
ผมดูโครงสร้างแล้ว ผมเข้าใจดังนี้
ถ้าเป็นไปตามเงื่อนไขโครงสร้างนี้ คงไม่มีปัญหาอะไรนะครับ น่าจะ O.K.
ที่โรงเรียนไม่ได้นำร่องค่ะ
แต่สนใจเอง เพราะที่ผ่านมาเราประสบปัญหา ด้านผู้เรียน
โรงเรียนจึงไม่สามารถผลิตนักเรียนได้ตรงตามคุณลักษณะที่พึงประสงค์ และไม่สามารถผลิตนักเรียนได้ตามมาตราฐานที่กำหนดขึ้น
เด็กจบช่วงชั้นขาดคุณภาพ มีคุณภาพไม่เหมาะสมกับชั้นเรียน
เมื่อเลื่อนชั้นจึงไม่สามารถต่อยอดได้อย่างแนบเนียน
ทำให้ครูต้องปรับกระบวนยุทธวิธีการสอน
เพื่อให้ผู้เรียนเรียนรู้ได้อย่างมีความสุข
สำหรับวิชาบางวิชาที่ต้องเน้น เช่นประวัติศาสตร์ เห็นด้วยที่เพิ่มชั่วโมง แต่กระบวนการเรียนรู้ก็เป็นปัญหาหนึ่งที่ทำอย่างไรเด็กจะเกิดโยนิโสมนสิการ
ขอให้ช่วยเหลือครูที่ไม่สามารถพัฒนาเด็กให้อ่านออกเขียนได้ตามเกณฑ์ เพราะปัญหาอาจไม่ใช่อย่างที่คิดหรือที่รายงาน
CAR น่าจะช่วยแก้ปัญหาได้ในระดับที่น่าพอใจ และจะดีมากๆหากได้สำรวจกันจริงๆว่าครูสามารถเล่นกับcarได้มากน้อยเพียงใด ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อให้ครูสามารถคิดแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบแบบไม่เครียด
ชอบการแก้ปัญหาที่จัดให้มีครูธุรการของโรงเรียน เพราะที่ผ่านมาผลเสียหายมีมากกว่าผลดี เกิดเงาบริหารเกลื่อนโรงเรียน ไม่ทราบจะฟังคำสั่งจากใครดี ผลสุดท้ายก็มาลงเอยที่ฟังตัวเอง เป็นการเพาะเชื้ออัตตาให้มันแข็งแรงเกินไป นักเรียนถูกทอดทิ้ง
ขอบคุณค่ะ
krutoi
ผมอยู่้ในเขตพื้นที่ กทม.เขต 2มีความเห็นว่า โรงเรียนนำร่อง นำร่องไม่จริง เป็นความคิดของฝ่ายบริหารที่ถูกเขตพื้นที่บีบบังคับ ครูไม่ปฏิบัติ เป็นผลการที่ฝ่ายบริหารไปรับปากและคิดไปเอง ทำให้การผลักดันไม่เกิดผล แล้วทุกวันนี้เข้าสุภาษิตที่ว่า แก้ผ้าเอาหน้ารอด ลองดูอย่างวันนี้ผมไปร.ร.บดินทรเดชา (10ส.ค.53)บางสหวิทยาเขตยังไม่รู้เลยว่าจะเอาอะไรมาโชว์ หลักสูตรกลุ่มสาระยังไม่มีเลย ท่านคิดเช่นไรกับการที่ว่า เขตพื้นที่การศึกษา กทม.2 เป็นเขตเดียวในประเทศไทย ที่นำร่องหลักสูตรใหม่ โดยที่โรงเรียนยังไม่รู้เรื่องเลย ฝ่ายบริหารบางคนก็ยังไม่รู้เรื่องเลย
1. ครูสองคนสอนวิชาเดียวกัน ชั้นเดียวกันแต่คนละห้อง เขียนหน่วยการเรียนรู้ต่างกันได้หรือไม่
2. โครงสร้างหลักสูตรประถมมี 8 สาระ 9 รายวิชาใช่ไหมครับ(ไม่ทราบว่ารายวิชาเพิ่มเติมถือว่าเป็นรายวิชาใหม่ใช่หรือไม)