Digital Divide VS Information Oveloaded

ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตควรคิดวิเคราะห์และสังเคราะห์สารสนเทศอย่างถ้วนถี่

Digital Divide VS Information Oveloaded

...วันก่อนเคยเขียนเกี่ยวกับ Digital Divide "กลัวโรค...Digital Divide" ก่อนที่กระแสข่าว โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ จะเป็นข่าวกันอยู่ในขณะนี้ ก็พยายามหาวิธีรับมือป้องกันต่อไป ...เอาล่ะครับ ทีนี้ เราลองพิจารณากันในมุมมองอีกด้าน ขณะที่เรากำลังช่วยกันลดอาการ Digital Divede กันอยู่นี้ มีองค์กรที่ช่วยวางนโยบาย มีการวางโครงสร้างพื้นฐาน สร้างสมรรถนะให้กับประชากรแต่ละระดับของประเทศ ฯลฯ ขณะเดียวกันกระแสแห่งการใช้ ICT ทำให้ประชาชนมีการใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างแพร่หลาย มีเว็บไซต์อย่างมากมาย ขณะที่เราใช้งานอินเทอร์เน็ตเราก็ได้รับ(เสพ)เอาสารสนเทศ โดยไม่รู้ตัวทำให้สารสนเทศนั้นได้ไหลบ่าเข้ามามากจนเกินไป (Information Overloaded) หากผู้ใช้ไม่มีทักษะการคัดกรอง การคิดวิเคราะห์และสังเคราะห์สารสนเทศเหล่านั้นให้ถ้วนถี่และดีพอ แน่นอน...กระแสแห่ง Information Overloaded ก็จะไหลทะลักเข้ามาท่วมท้นวิถีสังคมวัฒนธรรมความเป็นไทย โดยที่เราอาจจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม และด้วยเหตุนี้อาจทำให้เรา อาจมีอาการของ"โรคติดอินเทอร์เน็ต" เพิ่มมาอีกก็เป็นได้

มีนักจิตวิทยาชื่อ Kimberly S Young จาก University of Pittsburgh Medical School ได้นิยามเอาไว้ว่า โรคติดอินเทอร์เน็ต (Internet Addiction Disorder หรือ IAD) เป็นกลุ่มอาการทางจิตอย่างหนึ่ง ซึ่งเกิดจากการใช้อินเทอร์เน็ตในการเสพข้อมูลหรือข่าวสารมากเกินไป (Information Overloaded) และหากเปรียบเทียบกับการติดดูโทรทัศน์หรือการติดอย่างอื่นๆ แล้ว อินเทอร์เน็ตจะมีข้อแตกต่างกับสื่ออื่นๆ ก็คือ ความสามารถโต้ตอบ (interact) กับผู้ที่เข้ามาใช้คนอื่นๆ ได้ทันที (Real Time) ซึ่งทำโลกของอินเทอร์เน็ตมีความเสมือนเป็นเหมือนโลกอีกโลกหนึ่งที่ผู้ใช้สามารถมีตัวตนในโลกนั้นได้ โดยปราศจากกฎเกณฑ์ และไร้ขอบเขตในการเดินทาง และสร้างตัวตนในโลกอินเทอร์เน็ตตามที่ตัวเองต้องการได้ ซึ่งหากผู้ใช้ยึดติดกับสังคมในโลกของ อินเทอร์เน็ต จนแยกไม่ออกว่าโลกของความจริงและโลกเสมือนจะนำมาซึ่งสาเหตุของเป็นโรคติดอินเทอร์เน็ตได้ ตัวอย่างของบริการอินเทอร์เน็ตที่มีลักษณะการสร้างเป็นสังคมเสมือน (Virtual -Community) ได้แก่ ห้องแช๊ตรูม เว็บบอร์ด หรือแม้กระทั่ง เกมส์ออนไลน์ ที่เด็กๆ (อาจมีผู้ใหญ่) นิยมเข้าไปเล่นกันมากมาย ตัวอย่าง ปัจจุบันที่กำลัง "ติด" กันงอมแงม ได้แก่ Hi5 ,Tagged, Windows Live, Facebook หรือบรรดา blog และ Social Network อื่นๆ อีกเป็นล้าน ...สำหรับอาการของโรคติดอินเทอร์เน็ตนั้นก็คล้ายๆ กับการติดสิ่งเสพติดต่างที่สร้าง ปัญหาให้เกิดกับ ระบบร่างกาย ทั้งการกิน การขับถ่าย และกระทบต่อการเรียน สภาพสังคมของคนๆ นั้น   ...หากต้องการทดสอบว่า คุณติดอินเทอร์เน็ตในระดับไหนก็สามารถเข้าไปได้ที่ http://www.netaddiction.com/resources/iaindex.htm

เรา...ในฐานะประชาชนคนไทย จะช่วยกันจัดการความสมดุลระหว่าง Digital Divide VS Information Oveloaded กันอย่างไร?