นายแสง หนานกาวิ ชาติพันธุ์ ไทยใหญ่ อายุ ๑๖ ปี เกิดที่เกิดหมู่บ้านเมืองสาด อำเภอแม่สอน จังหวัดเชียงตุง เมื่อ พ.ศ.๒๕๓๗ จากนายอินปั๋น ลุงอ่อง ซึ่งเกิด ณ เมืองสาด ตำบลแม่สอน จังหวัดเชียงตุง เมื่อวันที่ ๑ กุมภาพันธุ์ พ.ศ.๒๕๐๐ และจากนางสล้าย ลุงอ่อง ชาติพันธุ์ไทยใหญ่ ซึ่งเกิด ณ เมืองสาด ตำบลแม่สอน อำเภอแม่สอน จังหวัดเชียงตุง เมื่อวันที่ ๗ เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๐๓ ทั้งบิดาและมารดาของแสงเป็นคนชาติพันธุ์ไทยใหญ่
อินปั๋น กับสล้าย มีบุตรด้วยกันสามคน กล่าวคือ (๑) นางใบ๋ ลุงอ่อง (๒) นางดาว ลุงอ่อง และ (๓) นายแสง หนานกาวิ ซึ่งบุตรทั้งสามของอินปันและสล้ายล้วนเกิดที่เมืองสาด ตำบลแม่สอน อำเภอแม่สอน จังหวัดเชียงตุง
อินปันและครอบครัวบางส่วนเดินทางเข้ามาผ่านเปียงคำเพื่อเข้ามาในประเทศไทย เมื่อ พ.ศ.๒๕๔๒ โดยเข้ามาอยู่ที่ หมู่บ้านร่มไทย ตำบลท่าตอน อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ในขณะที่สล้ายเดินทางเข้าในประเทศไทยเมื่อ พ.ศ.๒๕๔๖ ผ่านทางเปียงคำเช่นกัน และเข้ามาอยู่ที่หมู่บ้านร่มไทย หมู่ ๑๔ ตำบลท่าตอน อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ปู่ย่าตายายของแสงเสียชีวิตในประเทศพม่า ไม่ได้เข้ามาในประเทศไทย
สาเหตุที่ครอบครัวของอินปันและสล้ายหนีเข้ามาในประเทศไทย ก็เพราะทหารไทยใหญ่เข้ามาในหมู่บ้านฮุ้ง แล้วใช้ปืนไฟยิงใส่ในหมู่บ้านฮุ้ง และเผาหมู่บ้าน นางสล้ายจึงหลบหนีไปนอนอยู่ตามในไร่ ต่อจากนั้นก็หนีเข้าในประเทศไทย ไม่มีข้าวของติดตัวมาเลยเพราะไฟไหม้หมด[1]
อินปันหรือปั๋น สล้าย ดาว และแสง ได้รับการบันทึกในทะเบียนประวัติประเภทแรงงานต่างด้าว (ท.ร. ๓๘/๑) ใน พ.ศ.๒๕๔๗ ในขณะที่นางใบ๋ ลุงอ่อง ไม่มีเอกสารใดๆ เลย
ในปัจจุบัน เขาศึกษาชั้นประถมปีที่ ๕ โ รงเรียนไลออนมหาจักร ๘ อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่
[1][1] บันทึกข้อเท็จจริงจากการสอบปากคำแสงและครอบครัวโดยนางบุญ พงษ์มา เมื่อวันที่ ๒๒ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๒
ไม่มีความเห็น