เด็กหนีเรียนเพราะเหตุนี้ไง... [เกียรติภายใน เกียรติภายนอก]
ครูกานท์
.
.
.
● เกียรติเอ๋ยเกียรติยศ
ปรากฏใครใครก็ใฝ่หา
โภคทรัพย์นับรวมท่วมกายา
อำนาจวาสนาบารมี
ตำแหน่งแต่งองค์ชวนหลงหลอก
ล้วนเงื่อนไขภายนอกพอกราศี
หากภายในไส้แกนไร้แก่นดี
ฤๅเกียรติที่มีนั้นมั่นยืนเอย
.
ใครจะรู้บ้างว่าที่เด็กวัยรุ่นบางคนเกเรหนีเรียน นั่นเพราะเขาไร้เกียรติยศที่จะอยู่ในห้องเรียน เหตุที่เขาไร้เกียรติยศก็เพราะว่าเขาเรียนไม่เก่ง ไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจในวิชาต่างๆ ที่ครูสอน การบ้านก็ทำไม่ได้ หลายครั้งจึงไม่ได้ทำ ถูกครูดุครูด่า บางครั้งคราก็ถูกทำโทษต่างๆ นานวันเข้าเขาก็ไม่อาจที่จะทนทานกับความรู้สึกแย่ๆ นั้นต่อไปได้ จึงหาทางปลดปล่อยตัวตนให้เป็นอิสระจากห้องเรียน แสวงหาความมีเกียรติยศจากความเป็นหัวโจกเกเร บางทีก็พบทางหาประโยชน์จากความเสื่อมของสังคม หลายคนได้พบ “ที่ยืนของจิต” จากการใช้กำลัง ใช้อาวุธ และใช้พฤติกรรมแบบพาลชน ดังนั้น ในทางกลับกันถ้าเขาเรียนเก่ง ประสบความสำเร็จในกิจกรรมต่างๆ ได้รับคำชื่นชมจากครูและเพื่อน ทุกคนมองเขาด้วยความศรัทธา มีหรือที่เขาจะหนีจากห้องเรียน...
.
อาจมีผู้แย้งว่าที่เขาเรียนไม่เก่งและไร้เกียรติในห้องเรียนก็เพราะเขาทำตัวของเขาให้เป็นเช่นนั้นเอง ไม่ตั้งใจเรียนบ้าง เกียจคร้านบ้าง ไม่รับผิดชอบบ้าง และอะไรๆ ทำนองนั้น เรื่องนี้ก็ต้องมองกันให้ลึกลงไปอีก ว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้นล่ะ พ่อแม่คนไหนให้กำเนิดและเลี้ยงดูเขาอย่างไรจนทำให้เขาเป็นคนด้อยคุณภาพ ครูคนไหนบ้าง ตั้งแต่ชั้นอนุบาลผ่านประถมจนกระทั่งถึงมัธยม สอนกันอย่างไร ได้เยียวยาบาดแผลชีวิตของเขา หรือกระทำซ้ำเติมกันกี่มากน้อย อีกรวมทั้งความเสื่อมความเลวร้ายในสังคมนี้เล่า มีส่วนกระทำซ้ำซัดความเสื่อมใดใส่ชีวิตของเขาบ้าง ใช่สิ...อาจมีผู้แย้งอีกว่าทำไมเด็กคนอื่นที่อยู่ในสังคมเดียวกันนี้จึงเป็นเด็กดีได้เล่า คำตอบก็คือเด็กคนอื่นที่พูดถึงนั่นถูกกระทำน้อยกว่า และถูกผลิตมาจากครอบครัวที่มีคุณภาพแตกต่างกันนั่นเอง
.
โรงเรียนและครูไม่ใช่ผู้ซ้ำเติมนะครับ แต่คือผู้เยียวยา ผู้รักษา และผู้มีหน้าที่แสวงหาแนวทางสร้างสรรค์ปั้นแต่งชีวิตของเด็กๆ ทุกคน บนพื้นฐานของความเคารพความแตกต่าง ต้องกระทำอะไรและอย่างไรบ้างนั้น ครูต้องคิดให้เป็น ผู้บริหารโรงเรียนต้องคิดให้ออก ชีวิตไม่มีสูตรสำเร็จ ศิลปะการสอนก็เช่นกันหารู้จบสิ้นไม่ สิ่งสำคัญอันเป็นเป้าหมายก็คือ จะต้องทำให้เด็กมีความสุขและมีเกียรติยศ ทั้งในห้องเรียนและในโรงเรียน แต่ถ้าครูเอาแต่ก้มหน้าก้มตา “ว่าตามหนังสือ” และ “บอกอธิบายความรู้” โดยไม่ให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ชีวิต สอนชีวิต และเยียวยาชีวิตเด็กๆ อย่างมีศิลปะควบคู่กันไปด้วย ก็ไม่อาจที่จะนำพาการแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างแท้จริงได้
.
“เกียรติยศของความเป็นมนุษย์” นี่สำคัญไม่น้อยนะครับ มันเป็นที่หยัดที่ยืนของจิตวิญญาณ คนที่ฆ่าตัวตายทุกคนต่างก็ต้องการเรียกร้องความสนใจ ความเห็นใจ และความมีเกียรติยศจากคนรอบข้าง เพียงแต่ว่าวิธีการคิดและกระทำเช่นนั้นของเขาเป็นวิธีที่มืดบอด และอ่อนแอเกินไปเท่านั้นเอง
.
คนอีกจำนวนไม่น้อยก็หลงผิดกับการสร้างเกียรติยศปลอมๆ แก่ตนเอง เช่น ชาวบ้านบางคนใส่สร้อยทองเส้นใหญ่ๆ โตๆ และแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าแพรไหมราคาแพงเกินจำเป็นไปอวดกันบนศาลาวัด ในเทศกาลเข้าพรรษา ออกพรรษา สงกรานต์ และงานทอดกฐิน ซึ่งบางรายถึงกับไปกู้หนี้ยืมสินเขามาซื้อมาใส่ก็ยังมี นี่ก็ล้วนต้องการมีเกียรติยศ มีความภูมิใจ ที่ต้องการได้รับจากสายตาการยอมรับของผู้อื่น
.
นักการเมืองท้องถิ่นที่เดินอย่างนอบน้อมเคียงข้างนักการเมืองใหญ่ หรือข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ หรือผู้มีอิทธิพลยิ่งใหญ่ ต่างก็ล้วนต้องการมีเกียรติยศจากบารมีของบุคคลเหล่านั้นที่แผ่ปกมาถึงตน
.
รวมความแล้ว “จิต” ของเราต้องการมี “ที่ยืน” อย่างมั่นใจ มั่นคง และบางทีก็ต้องการไปถึงความมั่งคั่งโน่นทีเดียว แต่ก็น่าเวทนานัก สำหรับผู้ที่ต้องการเกียรติยศเพียง “ภายนอก” ชั่วครู่ชั่วยาม โดยละเลยการสั่งสมสร้างเสริมเกียรติยศ “ภายใน” อันได้แก่ ความดีงามในพฤติกรรมชีวิต ความรู้ ความคิด และสติปัญญา ซึ่งจะยังผลให้เกิดความเชื่อมั่นในตนเอง ความเคารพตนเอง และมี “ตัวตน” ของตนเองเป็น “ที่ยืน” แท้จริงของ “จิต” ให้ยืดอกพกความมี “เกียรติภูมิ” ได้ตลอดเวลา
.
เรามาช่วยกันสร้าง “เกียรติยศภายใน” ให้ตนเองและบุคคลที่เรารักใกล้ตัวกันเถิด...เพื่อเราและเขาจะยืนอยู่เคียงข้างกันอย่างมี “เกียรติยศ” ที่แท้จริงเสียที
.
กราบสวัสดีค่ะครูกานท์ผลงานลึกซึ้งมากค่ะ...สมเป็นบรมครูค่ะ..
อายุบวรครับคุณ "อ้อยเล็ก"
ดอกลั่นทมเหมือนเด็กน้อมไหว้
ในร่มเรือนเขียวขจีแห่งดวงใจ
ใครพบเห็นแล้วใครจะไม่รัก
...
ครูกานท์
ซำบายดีบุญรักษา "อ.วราภรณ์"
ภาพสะท้อนวิถีแสนมีค่า
เหมือนภาพบอกบางใครทิ้งไร่นา
ให้กลับมากราบแม่รักแท้จริง
...
ครูกานท์