นักเรียนผู้เป็นกรณีศึกษามีชื่อที่สกดด้วยตัวอักษรต่างกัน เธอใช้ชื่อว่า “เด็กหญิงจรรยาลักษ์ ลุงยะ” ในเอกสารราชการฉบับหนึ่ง[1] หรือว่า “เด็กหญิงจรรยารักษ์ ลุงยะ” ในเอกสารราชการอีกฉบับหนึ่ง[2]
เธอให้ปากคำต่อครูแถวสอง[3]ว่า เธอเกิดที่หมู่บ้านเมืองนาง ตำบลเมืองนาง อำเภอกีชี จังหวัดดอยแหลม ประเทศพม่า เมื่อ พ.ศ.๒๕๓๗ แต่ในส่วนวันที่เกิดนั้น ยังมีความแตกต่างเป็น ๓ อย่าง (๑) จรรยาลักษ์ให้ปากคำในแบบสอบถามของคลินิกแม่อายว่า เกิดเมื่อวันที่ ๒ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๓๗ (๒) ปรากฏสำเนาเอกสาร ท.ร.๓๘/๑ ที่อำเภอแม่อายออกให้แก่จรรยาลักษ์ระบุเพียงว่า เธอเกิดเมื่อ พ.ศ.๒๕๓๗ และ (๓) บัตรประจำตัวบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียนและแบบรับรองรายการจากฐานข้อมูลการทะเบียน (ท.ร.๑๔/๑) ระบุว่า เธอเกิดเมื่อวันที่ ๒ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๓๗
เธอเป็นคนชาติพันธุ์ไทยใหญ่ และสำเนา ท.ร.๓๘/๑ ระบุว่า เธอเป็นคนสัญชาติพม่า
ไม่ปรากฏว่า จรรยาลักษ์มีเอกสารการเกิดที่ออกโดยรัฐบาลพม่า
ในส่วนที่เกี่ยวกับบิดานั้น ก็มีข้อมูลที่ไม่ตรงกันนัก สำเนา ท.ร.๓๘/๑ ระบุว่า บิดาของจรรยาลักษ์มีชื่อว่า “อ่อว” แต่สำเนา ท.ร.๑๔/๑ ที่อำเภอแม่อายออกให้แก่จรรยารักษ์ ระบุว่า บิดาของจรรยาลักษ์มีชื่อว่า “อ่อง” นอกจากนั้น สำเนา ท.ร.๓๘/๑[4] ไม่ระบุสัญชาติบิดาของจรรยาลักษ์ ในขณะที่สำเนา ท.ร.๑๔/๑ ระบุว่า บิดาของจรรยารักษ์มีสัญชาติพม่าใน แต่ในการสอบปากคำของจรรยาลักษ์ในกระบวนการห้องเรียนแม่อายในช่วง พ.ศ.๒๕๕๒ บิดาของจรรยาลักษ์มีบัตรประจำตัวประชาชนที่ออกให้โดยรัฐบาลพม่า[5] และยังได้รับบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย โดยมีเลขประจำตัว ๐๐-๕๐๑๐-๑๐๙๒๙๖-๒ ที่ออกโดยอำเภอแม่อายตามกฎหมายไทย[6] และมีใบรับคำขอต่ออายุใบอนุญาตทำงานที่ใช้แทนใบอนญาตทำงานชั่วคราว[7]
ในส่วนของมารดานั้น ก็มีข้อมูลที่ไม่ตรงกันนักเช่นกัน สำเนา ท.ร.๓๘/๑ ระบุว่า มารดามีชื่อว่า “กลม” แต่สำเนา ท.ร.๑๔/๑ ที่อำเภอแม่อายออกให้แก่จรรยารักษ์ ระบุว่า มารดาของจรรยาลักษ์มีชื่อว่า “กรม” นอกจากนั้น สำเนา ท.ร.๓๘/๑[8] ไม่ระบุสัญชาติมารดาของจรรยาลักษ์ ในขณะที่ สำเนา ท.ร.๑๔/๑ ระบุว่า มารดาของจรรยารักษ์มีสัญชาติพม่า แต่ในการสอบปากคำของจรรยาลักษ์ในกระบวนการห้องเรียนแม่อายในช่วง พ.ศ.๒๕๕๒ มารดาของจรรยาลักษ์มีบัตรประจำตัวประชาชนที่ออกให้โดยรัฐบาลพม่า[9] และยังมีบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย[10] ไม่ปรากฏว่า มารดาต่อใบอนุญาตทำงาน
เธอเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติบ้านห้วยมะเฟือง ตำบลท่าตอน อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อ พ.ศ.๒๕๔๒ และได้รับการบันทึกใน ท.ร.๓๘/๑ เมื่อ พ.ศ.๒๕๔๗ ขอให้สังเกตว่า จรรยาลักษ์หรือจรรยารักษ์ได้รับการยอมรับในสถานะ “ผู้ติดตามแรงงานต่างด้าว” ในทะเบียนประวัติประเภท ท.ร.๓๘/๑
จรรยาลักษ์เรียนหนังสืออยู่ชั้นมัธยมศึกษาปี ๑ โรงเรียนบ้านท่าตอน อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ จึงมีสถานะเป็น “คนไร้สถานะทางกฎหมาย” ในสถาบันการศึกษา ซึ่งเป็นบุคคลเป้าหมายของยุทธศาสตร์เพื่อการจัดการสถานะและสิทธิของบุคคลตามมติคณธรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๘ มกราคม พ.ศ.๒๕๔๘ ดังนั้น ใน พ.ศ.๒๕๕๑ จรรยาลักษ์หรือจรรยารักษ์จึงได้รับการบันทึกใน ท.ร.๓๘ ก ในสถานะ “บุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร” [11] และได้รับการจัดทำบัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน[12]
[1] ปรากฏตาม ท.ร.๓๘/๑
[2] ปรากฏตามบัตรประจำตัวบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียนและแบบรับรองรายการจากฐานข้อมูลการทะเบียน (ท.ร.๑๔/๑)
[3] ภาษาทำงานของโครงการต่อยอดองค์ความรู้แม่อาย “คนแถวสอง” หมายถึงคนที่ทำหน้าสืบข้อเท็จจริงของกรณีศึกษา “ครูแถวสอง” จึงหมายความถึงครูที่ทำหน้าที่สอนแนวคิดและวิธีการสืบข้อเท็จจริงให้แก่นักเรียนผู้เป็นกรณีศึกษา
[4] แบบรับรองรายการทะเบียนประวัติของคนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ใน ราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ (ท.ร.๓๘/๑) รับรองรายการจากฐานข้อมูล ลว.๑๑ ก.พ.๒๕๕๑
[5] ระบุเลข ๐๐๒๐๖๔
[6] โดยกำหนดให้มีเลขประจำตัว ๐๐-๕๐๑๐-๑๐๙๒๙๗-๑ บัตรหมดอายุ ๓๐ มิ.ย.๒๕๔๙
[7] เลขรับที่ ๘๑๔๐๓ ลงวันที่ ๒๕ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๑ พร้อมมีใบเสร็จรับเงินค่าธรรมเนียมในการยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตทำงาน เลขรับคำขอที่ ๘๑๔๐๓ ลงวันที่ ๒๕ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๑
[8] แบบรับรองรายการทะเบียนประวัติของคนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ (ท.ร.๓๘/๑) รับรองรายการจากฐานข้อมูล ลว.๑๑ ก.พ.๒๕๕๑
[9] ระบุเลข ๐๑๒๐๔๑
[10] บัตรหมดอายุ ๓๐ มิ.ย.๒๕๔๙
[11] ปรากฏมีชื่อในแบบรับรองรายการทะเบียนราษฎร จากฐานข้อมูลการทะเบียนฯ (ท.ร.๑๔/๑) เลขประจำตัวประชาชน ๐-๕๐๑๐-๘๙๐๒๖-๗๘-๗ เลขรหัสประจำบ้าน ๕๐๑๐-๐๒๙๖๓๔-๓ เข้ามาอยู่เมื่อ ๒๐ ส.ค.๒๕๕๑ ปรับปรุงเมื่อ ๒๔ พ.ย.๒๕๕๑ รับรองรายการ ลว.๒๕ พ.ย.๒๕๕๑ ออกโดย สนท.อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่
[12] เลขประจำตัวประชาชน ๐-๕๐๑๐-๘๙๐๒๖-๗๘-๗ วันออกบัตร ๒๕ พ.ย.๒๕๕๑ วันบัตรหมดอายุ ๒๔ พ.ย.๒๕๖๑ ที่อยู่ ๘๙ หมู่ที่ ๓ ต.ท่าตอนอ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ออกโดย สนท.อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่
ไม่มีความเห็น