พิธีกรรม....หมอเมืองที่ผมยังประทับใจ


คุณแม่จะตามหมอพื้นบ้านมารักษา หลังจากการทำพิธีตรวจและ"ขึ้นขันตั้ง"เพื่อการรักษาเรียบร้อย โดยนำเอาข้าวตอกดอกไม้ไปวางไว้บนหิ้งพระ แล้วพ่อหมอท่านก็จะมากราบพระสวดคาถาอะไรงึมงำ ๆ

ผมยังจำได้ในตอนที่ผมยังเป็นเด็ก ๆเมื่อใดที่ผมมีอาการป่วยไข้ คุณแม่ท่านจะไปหาพ่อหมอพื้นบ้านในหมู่บ้านที่ผมอาศัยอยู่เป็นอันดับแรก ก่อนไปหาหมออนามัยในหมู่บ้านเสียอีกครับ หลังจากคุณแม่ผมไปหาพ่อหมอพื้นบ้านตกตอนเย็น ๆท่านก็จะมาเดินมาที่บ้านผม มาจับมือ มาเอามือมาแตะที่หน้าผาก เสร็จแล้วก็นั่งนึกนั่งคิดอะไรสักครู่ ก็จะงัดเอาข้าวตอกดอกไม้ออกมา สั่งให้แม่ผมเอาจานหรือพานมาใส่แล้วก็เอาไปไว้บนหิ้งพระซึ่งสมัยนั้นผมจำได้ว่าที่บ้านผมมีหิ้งพระขนาดใหญ่ หิ้งพระนี่ก็บอกถึงศักดิ์ฐานะของเจ้าของบ้านเหมือนกัน เท่าที่ผมทราบจากคุณพ่อ เล่าว่าคุณปู่ที่ผมไม่เคยเห็นหน้าท่านเพราะท่านเสียชีวิตก่อนผมเกิดนั้นท่านเป็นผู้นำระดับสูงของเมืองปายเลยทีเดียวครับก่อนสมัยที่จะมาเป็นอำเภอปายนั้น เขาว่าเมืองปายแบ่งเป็น 2ฟาก รีมน้ำฝั่งโน้นที่เป็นที่ตั้งขอตำบลเวียงเหนือปัจจุบันกับฝั่งทางทิศตะวัตกที่เป็นที่ตั้งของตำบลเวียงใต้ ทุ่งยาวและแม่นาเติง ปู่ผมเป็นผู้นำ หรือพ่อบ้านทางฟากตะวันตกส่วนอีกฟากผมไม่ทราบ บ้านหลังใหญ่ที่ผมเคยอยู่ เป็นบ้านไม้ 2 ชั้นหลังใหญ่ ทราบมาว่าชาวบ้านปลูกบ้านให้ ซึ่งบ้านหลังนี้ผมอาศัยอยู่จนจบการศึกษาระดับปริญญาตรีเลยทีเดียว เพิ่งรื้อตอนที่ผมจบมานี่แหละ ยังรู้สึกเสียดายว่าตอนนั้นคิดยังไงถึงรื้อบ้านหลังนั้น ภายหลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นอำเภอปายเริ่มต้นมีเพียง 2 ตำบลคือตำบลทุ่งยาวและตำบลแม่นาเติงเท่านั้น ปู่ผมได้รับการแต่งตั้งเป็นกำนันคนแรกของตำบลแม่นาเติงจนท่านเสียชีวิต หลังจากนั้นเมืองปายก็แบ่งเป็น 4 ตำบล 5 ตำบล 6 ตำบล และ7 ตำบลในปัจจุบัน

        เอ๊ะผมเขียนเรื่องอะไรเนี่ย ที่จริงผมอยากบอกว่าสมัยนั้นตอนที่ผมป่วยไข้ คุณแม่จะตามหมอพื้นบ้านมารักษา หลังจากการทำพิธีตรวจและ"ขึ้นขันตั้ง"เพื่อการรักษาเรียบร้อย โดยนำเอาข้าวตอกดอกไม้ไปวางไว้บนหิ้งพระ แล้วพ่อหมอท่านก็จะมากราบพระสวดคาถาอะไรงึมงำ ๆ สักครู่ก็จะควักเอารากไม้สีดำ ๆออกมาจากย่าม ชุบนำอุ่นที่แม่ผมเตรียมมาให้ลงมือฝนรากไม้นั้นกับก้อนหินสักครู่จะได้น้ำดำ ๆออกมาสักครึ่งถ้วยยื่นให้ผมดื่ม ตอนดื่มนำยากระดำกระด่างทุกครั้งผมรู้สึกเย็นผ่านลำคอลงไปทุกครั้ง ถึงแม้จะขมก็ทานจนหมดทุกที บางครั้งผมกินยาของพ่อหมอท่านซึ่งแวะเวียนมาเยี่ยมและฝนยาให้ผมทานเช้า-เย็น ไม่เกิน 3 วัน หาย ?

         ครั้งใดที่ผมกินยาพ่อหมอท่านแล้ว 3 วันไม่หาย พอตกเย็นวันนั้นจะมีพิธีกรรมเพิ่มเข้ามาทันที พิธีกรรมนั้นเรียกว่า "ปัดภัย" วิธีการก็คือ ผมจะถูกจับออกไปนั่งบนตั่งไม้เล็ก ๆที่ชานหน้าบ้าน เสร็จแล้วพี่ชายผมก็จะจัดแจงเอาผ้าห่ม(เหม็นซะ)มาคลุมหัวผมไว้ผมแอบดูจะเห็นพ่อหมอจัดแจงเอาไม้เกี๊ยะหรือไม้สนที่ผ่าเป็นซีกเล็ก ๆมัดรวมกันมาจุดไฟพร้อมบริกรรมคาถางึมงำ ๆ ๆ แล้วเอาคบไฟนั้นปัดไปปัดมารอบผ้าห่มที่มีผมอยู่ข้างใน รู้สึกความร้อนผ่านตัวเราไป ๆมา ๆ สักครู่เป็นอันเสร็จพิธี พี่ชาย พ่อ แม่ก็จะพาผมเข้าไปนอนหรือพัก ด้วยความมั่นใจว่าพรุ่งนี้ก็หายแน่นอน รุ่งเช้ามาผมก็หายทุกที แปลกดีครับ

          แต่ก็มีบางครั้งครับที่ไม่หาย ซึ่งหากผ่านพิธีกรรม 2 อย่างนี้แล้วยังไม่หายเค้าก็จะมีพิธีอื่น ๆตามมาอีกครับ รอตอนต่อไปครับ

หมายเลขบันทึก: 262542เขียนเมื่อ 21 พฤษภาคม 2009 21:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 06:52 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีค่ะ 

รู้สึกว่าตอนเด็กๆ  เคยได้ทานเหมือนกันค่ะ คุณตาฝนให้ (ไม่แน่ใจเรียกว่า ยาฝน หรือยาอะไรสักอย่าง นานมาก ลืมไปแล้วอะค่ะ...อิอิ)

สวัสดครับคุณP

ที่บ้านผมเรียกยาฝนเหมือนกันครับ

อย่าว่านานมาก...เพราะเขาจะรู้ว่าอยู่มานานครับ ฮิ ฮิ ฮิ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท