อ.ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม ได้แสดงความชื่นชมยินดีกับความก้าวหน้าของกระบวนการจัดทำตัวชี้วัดความสุขมวลรวมของชาวชุมชนตำบลบ้านเลือกและได้แสดงทัศนะว่า การจัดทำตัวชี้วัดความสุขของชุมชนท้องถิ่นไม่จำเป็นต้องทำให้ครบทุกเรื่อง ตัวชี้วัดไม่จำเป็นต้องมีหลายข้อ สิ่งสำคัญอยู่ที่กระบวนการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันของคนในชุมชน หากว่าคนในชุมชนได้มีส่วนในการจัดทำ ได้มีความเข้าใจ มีความตระหนักและมีความรู้สึกผูกพันเป็นเจ้าของกับตัวชี้วัดเหล่านั้น เป็นอันใช้ได้ แต่หากจะทำให้กระบวนการจัดทำตัวชี้วัดมีพลังมากขึ้น หรือมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น ทำให้ตัววัดมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ชุมชนอาจจะได้ประสานความร่วมมือกับภาคีวิชาการหรือคนที่มีประสบการณ์ในเรื่องตัวชี้วัดมาช่วยชุมชนอีกแรงหนึ่งได้
แนวปรัชญาความคิดตัวชี้วัดความสุข หรือความสุขมวลรวมประชาชาติ ได้มีการริเริ่มขึ้นมาโดยพระราชาธิบดีจิกเม ซิงเย วังชุก กษัตริย์แห่งภูฏาน เมื่อครั้งพระองค์ทรงครองราชสมบัติ เมื่อกว่า 25 ปีที่แล้ว ต่อมาทางโครงการพัฒนาแห่งองค์การสหประชาชาติ(UNDP) ได้มีการศึกษาวิจัยและจัดสัมมนาเรื่องนี้ในระดับนานาชาติ ทำให้แนวคิดเรื่องตัวชี้วัดความสุขมวลรวมของประเทศภูฏาน ได้รับความสนใจและถูกกล่าวขานถึงมากขึ้นเรื่อยๆ ท่านอาจารย์ไพบูลย์ ท่านก็เคยไปศึกษาดูงานที่ประเทศภูฏานมาแล้วเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ท่านจึงรู้สึกประทับใจและให้ความสนใจเรื่องนี้เป็นพิเศษ
สำหรับในบ้านเราอาจารย์ไพบูลย์ท่านเห็นว่า ความสนใจในเรื่องนี้ยังอยู่ในแวดวงนักวิชาการ การที่สภาองค์กรชุมชนตำบลบ้านเลือกและสภาองค์กรชุมชนตำบลหนองสาหร่ายได้ริเริ่มจัดทำตัวชี้วัดความสุขมวลรวมชุมชนท้องถิ่น หรือตัวชี้วัดความดีของคนทั้งตำบลจึงเป็นเรื่องน่ายินดี และเห็นว่าเรื่องนี้จะเป็นประโยชน์ต่อสภาองค์กรชุมชนตำบลทั่วประเทศที่ได้มีการจัดตั้งตามพรบ.สภาองค์กรชุมชน พ.ศ. 2551 ไปแล้วกว่า 1200 ตำบลทั่วประเทศเพราะจะเป็นเครื่องมือสำหรับในการเอื้ออำนวยให้ชุมชนเป็นแกนหลักได้ เป็นเจ้าของงานพัฒนาได้ โดยสภาฯมีบทบาทในการเชื่อมประสานกับภาคี ในการสนับสนุนกิจกรรมของชุมชนให้สอดคล้องกับเป้าหมายตัวชี้วัดของชุมชน
นอกจากนี้ท่านยังได้แลกเปลี่ยนกับผู้เข้าร่วมเวทีว่า แนวคิดเรื่องตัวชี้วัดการพัฒนาของชุมชนท้องถิ่นอาจจะพิจารณาใน 3 มิติ คือตัวชี้วัดความสุข ตัวชี้วัดความดีและ ตัวชี้วัดความสามารถ และโดยเฉพาะตัวชี้วัดเรื่องความสุข ก็สามารถพิจารณาได้ 4 มิติ คือ
ภาพพึงประสงค์ของสังคมในอนาคต คือ สังคมอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกัน โดยใช้กลไก 3 เสาหลักดังแสดงในรูปด้านล่าง
จากข้อคิดต่างๆทีมงานของสภาฯบ้านเลือกคงได้แง่มุมจากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ไปปรับใช้พัฒนางานของตนและพัฒนาภาวะผู้นำการเสริมสร้างความสุขมวลรวมชุมชนท้องถิ่นให้มีพลังภาวะผู้นำทั้งความดี ความสุขและความสามารถที่สูงขึ้นด้วยครับ
สำหรับผมในโอกาสที่มาร่วมเวทีในครั้งนี้อย่างน้อยก็มีความสุขทางปากครับ กับอาหารมื้อกลางวันที่แสนจะอร่อย กับแกงขี้เหล็กและต้มหน่อไม้จิ้มนำพริกแมงดาสูตรลาวเวียง แกงบอนมอญ ผัดหัวแชโป้สูตรเด็ดจากเจ็ดเสมียน และปิดท้ายด้วยข้าวโพดแปดแถวบ้านเลือก(เขาบอกว่าอร่อยที่สุดของประเทศ) สำหรับตัวชี้วัดความสำเร็จก็ดูได้จากการที่ผู้เข้าร่วมแต่ละท่านล้วนพูงกางกันถ้วนหน้าครับ
ไม่มีความเห็น