จุดประสงค์ของผมที่เขียนบันทึกนี้ ไม่ได้ต้องการเสนอในเรื่องของ ความรวย หรือ ความจน แต่ผมอยากจะฝากไว้สักนิดว่า "ถ้าคุณเปิดใจ และรับโอกาสใหม่ๆ ที่จะเข้ามาในชีวิต" คุณควรหาความรู้เพิ่มเติมในเรื่องนี้เพราะจะให้ประโยชน์มาก มีหนังสือหลายเล่ม อธิบายไว้อย่างดี เล่มหนึ่งที่น่าสนใจคือ "Rich Dad Poor Dad" by Robert T. Kiyosaki
ทำงานเพื่อเรียนรู้ – อย่าทำงานเพื่อเงิน
โรงเรียนไม่เคยสอนว่าความรู้ทางการเงินเป็นไหวพริบ เป็นสิ่งจำเป็น คนจำนวนมากจึงได้แต่ทำงานเพื่อให้ได้เงินมาจ่ายภาระต่างๆ อีกอย่างที่เคยได้ยินคือ “ลูกจ้างทำงานพอที่จะไม่ให้ถูกไล่ออก และนายจ้างก็จ่ายค่าจ้างพอที่จะไม่ให้ลูกจ้างลาออก” ผลลัพธ์ก็คือ ลูกจ้างไม่เคยก้าวไปทางไหนได้ไกล พวกเขาจะติดอยู่กับ “ความมั่นคงของงาน” เงินเดือน และผลตอบแทนซึ่งเป็นเพียงรางวัลระยะสั้น แต่อาจกลายเป็นปัญหาระยะยาว ผมอยากแนะนำให้คุณทำงานเพื่อประสบการณ์ และการเรียนรู้ที่คุณจะได้รับ มากกว่าเพื่อค่าตอบแทนที่ได้รับ มองไปข้างหน้าว่า คุณต้องการฝึกประสบการณ์ เรียนรู้ทักษะด้านไหน อะไรที่จะช่วยให้คุณหลุดออกไปจาก “สนามแข่งหนู” ถ้าคุณติดกับอยู่ในสนามนี้ คุณจะวิ่งวุ่นเพื่อหาเงินมาจ่ายบิลต่างๆ เดือนแล้วเดือนเล่า อยู่ในกรงเก่าใบนี้ที่เรียกว่า “งานที่มั่นคง”
คุณหวังอะไรในอนาคต จากการทำงานหนักวันแล้ววันเล่า
ปัจจุบันค่ายาและค่ารักษาพยาบาลเป็นบริการสังคมที่รัฐจัดให้แก่ประชาชน การให้ยาและการรักษาพยาบาลขึ้นอยู่กับการตัดสินใจว่า “ใครควรจะอยู่ และใครควรจะตาย” องค์ประกอบการตัดสินใจก็คือ คนไข้มีเงินมากเท่าไหร่และอายุมากแค่ไหน คนอายุน้อยกว่าจะได้รับการรักษา คนมีเงินจะมีโอกาสมากกว่าคนจน เช่นเดียวกันคนมีเงิน มีโอกาสได้รับการศึกษาที่ดี มีชีวิตที่ยืนยาวกว่า และคนจนกว่าก็คงอยู่ได้ไม่นาน “ผมอดสงสัยไม่ได้ว่า ลูกจ้าง(มนุษย์เงินเดือน)ทั้งหลาย เคยมองอนาคตที่ไกลกว่าวันเงินเดือนออกหรือไม่”
หากคุณอยากมีรายได้เพิ่มขึ้น คุณควรมองอนาคตไกลๆ แทนที่จะทำงานเพื่อเงินและความมั่นคง ซึ่งก็ยอมรับว่าเป็นสิ่งสำคัญ แต่คุณควรหางานที่สองทำ เพื่อเพิ่มทักษะให้ตัวเอง เช่น ทำงานกับบริษัทเครือข่าย ซึ่งบริษัทเหล่านี้มีการฝึกอบรมที่ดีมาก ที่ช่วยให้คนเลิกกลัวการถูกปฏิเสธ ซึ่งเป็นสาเหตุของความล้มเหลว
สำหรับคนที่กลัว “ยุ่งยาก” และคุณยอมทำงานเพื่อเอาเงินรายได้ครึ่งหนึ่งไปเลี้ยงรัฐบาลอย่างนั้นหรือ
สำหรับคนที่ชอบแต่สิ่งที่ตัวเองสนใจ ลองคิดดูว่า “หลายคนไม่ชอบการออกกำลังกาย แต่ก็ต้องทำเพราะว่าไม่อยากตายเร็ว”
สำหรับคนที่กำลังตัดสินใจหรือลังเลว่าจะออกแรงแสวงหาทักษะใหม่ๆ ดีหรือไม่ ขอให้คุณคิดถึงเวลาคุณไปออกกำลังกาย ตอนที่ยากที่สุด คือการตัดสินใจว่า จะไปดีหรือไม่ ถ้าผ่านจุดนี้ไปได้แล้ว ที่เหลือสบายมาก ระหว่างออกกำลังกายคุณจะรู้สึกมีความสุข มีความภูมิใจในตัวเอง และเมื่อออกกำลังกายเสร็จ คุณจะรู้สึกดีใจที่ ตัดสินใจถูกต้อง
แทนที่จะมุ่งเน้นความรู้ความชำนาญด้านเดียว ทำไมไม่ใฝ่หาความรู้ แทนที่จะหาแต่เงิน คุณอาจมีรายได้น้อยในระยะแรก แต่ในบั้นปลายคุณจะได้ผลตอบแทนงดงาม
ทักษะสำคัญสำหรับการบริหารธุรกิจหรือการทำงานกับบริษัทเครือข่าย
1.การบริหารกระแสเงินสด
2.การจัดการระบบ(รวมทั้งการจัดการตัวเองและเวลาให้ครอบครัว)
3.การบริหารบุคลากร
ทักษะเฉพาะด้านที่สำคัญในการทำธุรกิจเครือข่าย คือ การขายและความเข้าใจเรื่องการตลาด ทักษะพื้นฐานที่ต้องฝึกฝนให้ชำนาญคือ การสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็นการพูด การเขียน ต่อรอง ล้วนเป็นสิ่งสำคัญและมีผลต่อความสำเร็จ
ความลับอย่างหนึ่งของคนรวยที่นิยมปฏิบัติ คือ การให้แก่ผู้อื่นก่อน เช่น การสอนผู้อื่น ยิ่งให้ก็ยิ่งได้กลับคืนมามาก คนรวยชอบบริจาคเงิน ในขณะที่หลายๆ คนมักพูดว่า “เมื่อไหร่มีเงิน จะเอาไปบริจาค” ปัญหาก็คือ พวกเขาไม่เคยมีเงินเสียที จึงมุ่งหน้าหาแต่เงิน จนลืมคติที่ว่า “จงให้แล้วคุณจะได้รับ” แต่กลับกลายเป็นว่า “ได้รับแล้วจึงให้ตอบแทน”
การเป็นนักลงทุน ควรมีสามสิ่งต่อไปนี้
1.ทำอย่างไร จึงจะเห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น
2.ทำอย่างไร จึงจะได้เงินมาทำทุน
3.ทำอย่างไร จึงจะได้คนฉลาดมาเป็นลูกจ้าง
สนใจธุรกิจที่มั่นคง ลงทุนต่ำ รายได้ไร้ขีดจำกัด สามารถขยายตลาดได้กว่า 50 ประเทศทั่วโลก เปิดตัวเพียง ปีเศษ แจกรถเบนซ์ ไปแล้ว 10 คัน ฟรีๆ www.richagel.com/?id=paisan
ไม่มีความเห็น