ค่าของคน...หนุ่มน้อย...ที่อยู่ในความมืดมาตลอด 20 ปี


“ พี่ยาครับ.....ตอนนี้นันมีเงินให้แม่และน้องใช้แล้วน่ะ... ขอบคุณพี่ยามากที่ช่วยผม แต่ก่อนต้องขอตังค์แม่รู้สึกไม่มีค่าในตัวเองเลย แต่ตอนนี้ผมเป็นหัวหน้าครอบครัวได้ ”

      แค่อยากจะร้องเพลงบอก.....แค่อยากให้เธอนั้นเข้าใจ สิ่งที่ฉันทำลงไป...ใจสั่งมา

         เสียงเพลงพี่เสกโลโซลอยตามสายลม ซึ่งเป็นเสียงต้อนรับจากหนุ่มน้อยที่ขับกล่อมพวกเรา พยาบาลชุมชน อย่างไพเราะเพราะพริ้ง ( เหมือนพี่เสกจริงจริงด้วย )

         พอสิ้นเสียงเพลงเสียงตบมือก็ดังขึ้นเป็นรางวัลมอบแด่นักร้องเสียงใส พร้อมกับการทักทายทุกข์สุขด้วยความเป็นกันเองวันนี้ไม่มีงานโชว์ตัวที่ไหนหรือฉันทักนักร้องเสียงดีที่อยู่ในความมืดมาตลอด 20 ปี อดินันท์ หรือน้องนัน หนุ่มน้อยที่ชอบการร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจ หนุ่มใต้ผิวดำแดง รูปร่างเล็กและมีความพิการทางสายตามาตั่งแต่เกิด นันมีพี่น้อง 7 คน ตัวเองคนที่ 5 พี่ ๆ ทุกคนทำงานตามอัตภาพทำสวนบ้างรับจ้างบ้างเนื่องจากเป็นครอบครัวที่มีฐานะยากจนและนันเองก็มีรายได้บ้างเล็กน้อย จากการไปร้องเพลงตาม งานบูญ งานแต่ง รายได้ครั้งละประมาณ 100บาทหรือ ถ้าโชคดี พบคนใจบุญอาจจะได้เพิ่มอีกเล็กน้อย ก็พอซื้อขนมกินไปวัน ๆได้ และการเดินทางในแต่ละครั้ง ก็ต้องอาศัยพี่บ้าง, เพื่อนบ้านบ้างในการรับส่ง ซึ่งนานๆถึงจะมีงานโชว์สักครั้ง และถ้าไม่มีงานเข้าเลย แม่เท่านั้นจะเป็นผู้ให้ที่ดีที่สุด

        ผมสงสารแม่.....ผมช่วยแม่ไม่ได้เลย น้ำเสียงลูกผู้ชายที่มี ความรู้สึกว่า ตนเป็นภาระของครอบครัว ผมอยากทำงานเหมือนคนอื่น....แม่จะได้ไม่ลำบากกับผม ฉันอึ้งกับคำพูดและความคิดของน้อง ถึงแม้นันจะอยู่ในสภาพเช่นนี้แต่จิตใจสูงส่งยิ่งนักมีความกตัญญูรักแม่เป็นห่วงแม่มาตลอด คนเราเลือกเกิดไม่ได้....แต่เลือกทางเดินของชีวิตได้น่ะ......ฉันให้กำลังใจน้องอยากให้เขา สู้ ในชีวิตที่เขาเลือกเกิดไม่ได้

        ฉับพลันก็เกิดความคิดขึ้นมาเอาอย่างงี้น่ะ....นันสนใจการนวดมั้ยฉันถามด้วยความดีใจที่สามารถหาทางออกที่ดีสำหรับน้องแต่นันนิ่งและตอบแบบไม่ค่อยมั่นใจเลย ผมจะทำได้หรือ..นวด...ตาก็มองไม่เห็น” 

       ได้ซิ...พี่เคยเห็นคนตาบอดเป็นหมอนวดโบราณตั้งหลายคนแน่ะ.....มันอยู่ที่ความตั้งใจของเรามากกว่า.....ถ้านันสนใจพี่จะพานันไปเรียนที่โรงพยาบาล รับรองสอนจนนันนวดเป็นเลย....ลองดูมั้ย ...ถ้าสนใจค่อยบอกพี่ก้อได้จ๊ะ.

       วันรุ่งขึ้น....นันไปหาฉันตั้งแต่เช้าในชุดที่คิดว่าหล่อสุด....กางเกงขายาวตังเก่งสวมเสื้อยึดตัวใหม่สุดจากตู้ที่บ้านและหวีผมซะเรียบโดยมีสีหน้าเหมือนคนที่กำลังจะมีความหวังในชีวิต หลังจากพูดกับทีมแพทย์แผนไทย นันเริ่มเรียนในวันนั้นทันทีด้วยใจที่มีความมุ่งมั่น.....และกระหายวิชาอย่างเหลือเกิน

       เพียงแค่ 3 วัน นันจบหลักสูตรการนวดฝ่าเท้า และฉันก็เป็นเคสแรกที่นันจะนวดโชว์ฝีมือถึงความสำเร็จของตน และนันก็นวดได้ดีใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษบวกฝากครีม ที่ขอบกางเกงไว้หลายรอย แต่ก็เป็นความยินดีในความสำเร็จขั้นที่ 1 ของหนุ่มน้อยที่รู้สึกน้อยใจ ในโชคชะตาของตัวเองมาตลอด

       ในที่สุดโรงพยาบาลรามัน  ก็มี อาสาสมัครที่คอยให้บริการนวดฝ่าเท้าแก่ผู้ป่วยและผู้สนใจที่ได้มาแวะเวียนโรงพยาบาลแห่งนี้ สิ่งที่นันจะได้รับจากการนวดเป็นค่าตอบแทนครั้งละประมาณ 40 บาทและเฉลี่ยวันละ 3-4 ราย และในวันหนึ่งทางโรงพยาบาลได้จัดงานสำหรับผู้พิการระดับอำเภอมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 700 คน นันได้โชว์ลีลาการร้องเพลงบวกกับเสียงอันไพเราะเหมือนเดิม ถ้าไม่ดูหน้าคนร้องนึกว่าพี่เสกกล้ามาโชว์ตัวที่รามันซะแล้ว การโชว์ตัวในครั้งนี้เพื่อเป็นกำลังใจแก่เพื่อนผู้พิการคนอื่นๆไม่ว่าเราจะเกิดมาอย่างไรทุกคนมีค่าในตัวเองอยู่ที่ว่าจะค้นหาให้พบและมีโอกาสที่จะแสดงออกมาหรือไม่นอกจากการร้องเพลงแล้วยังมีมุมนวดฝ่าเท้าสำหรับแขกผู้มีเกียรติที่เข้ามาในงานโดยฝีมือโดยนันสุดหล่อ

          และเย็นวันนั้นหลังจากงานได้เลิกราฉันก็เป็นคนสุดท้ายที่เข้ารับบริการการนวดจากการเชื้อเชิญจากหนุ่มนัน
พี่ยา...เหนื่อยมั้ย...นันนวดเท้าให้ ฉันไม่รอช้าขอนั่งสักนิดหนึ่ง หลังจากที่เหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน ส่วนนันก็กุลีกุจรเตรียมอุปกรณ์พร้อมที่จะนวดตามขั้นตอนที่ได้ร่ำเรียนมาซึ่งเวลาผ่านไป 6 เดือน 

        “ พี่ยาครับ.....ตอนนี้ นันมีเงินให้แม่และน้องใช้แล้วน่ะ... ขอบคุณพี่ยามากที่ช่วยผม แต่ก่อนต้องขอตังค์แม่รู้สึกไม่มีค่าในตัวเองเลย แต่ตอนนี้ผมเป็นหัวหน้าครอบครัวได้  นันพูดด้วยสีหน้าภูมิใจในตนเองที่สุดซึ่งมันต่างจาก 6 เดือนที่มา

         ฉันฟังด้วยความอิ่มเอมใจและรู้สึกภูมิใจในตัวนัน ทุกคนมีค่าความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน" ฉันลุกจากเตียงนวดโดยที่ไม่มีรอยครีมฝากไว้ที่ขอบกางเกงเหมือนเช่นที่ผ่านมา

    
รางวัลจิตอาสาดีเด่นระดับชาติประจำปี 2551 ”
ณ คอนเวนชั่นฮอล์ล เซ็นทรัลลาดพร้าว

            นันอยู่ในชุดเสื้อเชิตแขนยาวนุ่งกางเกงแสลคใหม่เอี่ยมทั้งชุด ( จากร้านไม่ใช่จากตู้ที่บ้าน) ทับด้วยสูทสีดำ ( ที่ยืมมา) ทรงผมตั้งที่ทันสมัย  ....ยืนรับรางวัลบนเวที   ด้วยใบหน้าที่มีความสุขที่สุดในชีวิต....

คำสำคัญ (Tags): #sha
หมายเลขบันทึก: 265391เขียนเมื่อ 3 มิถุนายน 2009 11:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:51 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

สวัสดีค่ะ

มาตามข้อมูลค่ะ

สวัสดีคะ

ภูมิใจด้วยนะคะ

เอาเรื่องราวดีดี มาเขียนอีกนะคะ

แม่ต้อยจะตามมาอ่านคะ

ขอบคุณค่ะสำหรับเรื่องดีๆน่ารักมากเลยค่ะ

การให้โอกาส...ทำให้คนเรารู้สึกว่าชีวิตนี้มีคุณค่าขึ้นตั้งเยอะเลยนะคะ

 ^_^

สุดยอดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

สวัสดีรอบสองของวันนี้ค่ะ พี่ยา

ตามกันไม่ทันเลยนะคะเนี่ย สงสัยต้องรับปั่นนนนนนนนนนนนนน

คิดถึงค่ะ

ขอบคุณน่ะค่ะ..

จากทุกกำลังใจที่ได้รับ..จะพยายามเขียนเรื่องเล่าดีดีที่เกิดขึ้น

ให้อีก..ในโอกาสต่อไป

ขอบคูณมากมากค่ะ

sharaman

คนเราเกิดมาย่อมไม่เท่าเทียมกันอยู่แล้วไม่ว่าจะเปงทางด้านฐานะทางสังคมและอีกหลายๆๆอย่าง ถ้าคนทุกคนที่มีฐานะดีกว่า หรือความเปงอยู่ที่ดีกว่า ให้โอกาสเชื่อว่าคนเหล่านั้นสามารถทำงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับองค์และตัวเองได้ ดีจัยที่คนในสังคมให้โอกาสเค้า และดีจัยที่เค้ายังมีโอกาศช่วยเหลือตัวเองและครอบครัวดี เยี่ยมมาก เปงคนหนึ่งเรยที่สู้ชีวิต...(เอาไปเรย...รางวัลคนสู้ชีวิตดีเด่นแห่งปี)

น้องนันน่ารักมากค่ะ

วันนี้ได้มีโอกาสมาฟังน้องนันร้องเพลงด้วย....

ร้องเพราะมากๆๆๆๆๆ

ป็นกำลังใจให้สู้ต่อไปค่ะ....

พี่มะลิโรงพยาบาลกะพ้อค่ะ......

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท