การแข่งชิงแชมป์โยโย่อย่างเป็นทางการ ครั้งแรกของประเทศไทย
ลูกดิ่งโยโย่ของเล่นเก่าแก่อันดับสองของโลกรองจากตุ๊กตา โยโย่เป็นของเล่นเงื่อนห่วง ปลายเชือกข้างหนึ่งคล้องนิ้วมือ ส่วนปลายอีกข้างหนึ่งพันรอบแกนโยโย่ เมื่อสลัดเชือกปล่อยลูกโยโย่ ลงพื้น โย่โย่ก็สามารถหมุนประคองตัวเองตั้งตรงและเคลื่อนไปได้เรื่อย ๆ เป็นของเล่นถูกใจเด็ก ๆ ผู้เริ่มต้นความคิดประดิษฐ์ของเล่นโยโย่นั้นคือ นายเปโดร ฟลอเรส (Pedro Flores) ในปีค.ศ. 1920 เขาตั้งชื่อของเล่นของเขาว่า “ฟลอเรสโยโย่” (Flores yo-yo) จดทะเบียนสิทธิบัตรที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ต่อมาปี ค.ศ. 1932 นายโดนัลด์ ดันแดน (Donald Duncan) ได้ซื้อลิขสิทธิ์อันนี้จากฟลอเรส เปลี่ยนชื่อเป็น “ดันแดนโยโย่” (Duncan- yo-yo) ผลิตของเล่นชนิดนี้ ออกมาขายทั่วประเทศ และต่อมาปี ค.ศ. 1965 คำว่า “โยโย่” (yo-yo) กลายเป็นคำศัพท์สามัญที่เรียกของเล่นประเภทนี้
หลายคนคิดว่าโยโย่เป็นแค่การเล่นลูกดิ่งโยนขึ้น-ลงเท่านั้น แต่ความจริงแล้วต้นแบบของโยโย่มาจากอาวุธล่าสัตว์โบราณชนิดหนึ่งที่ใช้ในยุคหินของชนเผ่าในประเทศฟิลิปปินส์ อาวุธนี้เป็นเชือกผูกกับก้อนหิน ใช้ขว้างเกี่ยวขาสัตว์ คำว่า โยโย่ แปลว่า “จงมา” และปัจจุบันโยโย่ยังถูกจัดว่าเป็นกีฬาประเภทหนึ่งที่นิยมเล่นกันมานานเช่นกัน มีการแข่งขันกันในหลายระดับทั้งระดับประเทศและชิงแชมป์ระดับโลก ซึ่งเป็นกีฬาที่ต้องใช้ทักษะฝึกฝนและใช้สมาธิในการเล่นเป็นอย่างมาก
และเป็นครั้งแรกของเมืองไทยที่มีการจัดการแข่งขันโยโย่ชิงแชมป์ประเทศไทยขึ้นอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา งานนี้จัดขึ้นที่บริเวณลานกิจกรรมชั้น 3 ศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ โดยใช้ชื่องานว่า “Fortune Yo-Yo Thailand Championship” การแข่งขันครั้งนี้แม้จะจัดขึ้นเป็นครั้งแรกแต่ก็ได้รับความสนใจจากเหล่าบรรดาเซียนโยโย่ทั่วประเทศและมีการเชิญโปรจากต่างประเทศมาร่วมเป็นคณะกรรม การตัดสินเพื่อรับรองผลการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นคุณ MAYA NAKAMURA (Bu-ko) จากประเทศญี่ปุ่น เจ้าของแชมป์โลกโยโย่ปี 2005 ประเภท 5A Division, คุณ Colin Wan ซึ่งเป็นพ่อค้าปลีกโยโย่รายใหญ่และเป็นเซียนโยโย่จากประเทศสิงคโปร์ที่สามารถคิดทริกในการเล่นท่าพลิกแผลงต่างๆทั้งการเล่นแบบมือเดียวและสองมือได้เองและคุณDimi ซุปเปอร์สตาร์โยโย่จากประเทศมาเลเซีย
การแข่งขันโยโย่นั้นไม่จำกัดเพศและวัย ทำให้ผู้เข้าแข่งขันได้มีโอกาสแสดงความสามารถ ตลอดจนความคิดสร้างสรรค์ และการแล่นโยโย่ยังส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาและฝึกฝนทักษะทางด้านต่าง ๆ อาทิ ตา มือ และสมอง ซึ่งผู้ลงแข่งจำเป็นต้องอาศัยทักษะในการประสานความสัมพันธ์ระหว่างมือ สมอง สายตา กับความไว ซึ่งในการแข่งขันครั้งนี้ถือเป็นการแข่งขันอย่างเป็นทางการ ที่มีรูปแบบการแข่งขันเป็นสากลครั้งแรกของประเทศไทย (อ้างอิงกติกาการแข่งขันจาก Asia Pacific Yoyo Championship เป็นหลัก)
โดยการแข่งขันแบ่งออกเป็น 4 Divisions ได้แก่ 1. Single A (1A) One Handed String Trick Division เป็นการเล่นที่เน้นความสวยงามในการเล่นท่าต่าง ๆ กับเชือก โดยปลายด้านหนึ่งจะผูกติดกับนิ้ว ส่วนปลายอีกด้านหนึ่งจะผูกติดกับโยโย่ 2. Double A (2A) Two Handed Looping Division เป็นการเล่นที่ใช้สองมือเป็นหลัก โดยเน้นในเรื่องของการสะบัดโยโย่ออกเป็นวงกลมโดยที่ไม่จับลูกโยโย่ 3. Off-String Division (4A) เป็นการเล่นแบบที่ปลายเชือกผูกติดกับโยโย่ โดยเมื่อสะบัดโยโย่ออกไปแล้วโยโย่จะลอยอยู่ในอากาศ ผู้เล่นจะใช้เชือกที่อยู่ในมือรับโยโย่และเล่นท่าต่าง ๆ 4. Counter-Weight Division (5A) เป็นการเล่นที่ปลายเชือกไม่ผูกติดกับมือ แต่นำไปผูกติดกับวัสดุอื่น ๆ แทน เช่น ลูกเต๋า หรือลูกบอล และปลายอีกด้านจะผูกติดกับโยโย่ไว้ตามปกติ การเล่นจะเน้น ความสวยงามของการปล่อยลูกเต๋าไปมา และการสร้างสรรค์ท่าของผู้เล่นเอง
ในการแข่งขันจะแบ่งออกเป็นรอบคัดเลือกและรอบชิงชนะเลิศ รอบคัดเลือกในแต่ละ division ผู้เข้าแข่งขันจะมีเวลา 1 นาทีในการแสดงการเล่นแบบ freestyle ประกอบเพลง ผู้ที่ทำคะแนนได้ดีที่สุดประมาณ 6-8 คน ในแต่ละ division จะเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศต่อไป
รอบชิงชนะเลิศ ในแต่ละ division ผู้เข้าแข่งขันจะมีเวลา 3 นาทีในการแสดงการเล่นแบบ freestyle ประกอบเพลง โดยผู้เข้าแข่งขันจะต้องเตรียมเพลง และ อุปกรณ์ในการแข่งขันมาเอง ผู้เข้าแข่งขันสามารถลงแข่งขันได้มากกว่า 1 division ส่วนการตัดสิน กรรมการจะให้คะแนนทั้งด้านเทคนิคการเล่นและคะแนนการแสดงออกบนเวที โดยมีโปรแกรมคำนวนคะแนนที่ใช้ในระดับโลกเป็นตัวตัดสินผู้ชนะ
กฎของการเล่นแบบฟรีสไตล์ที่น่าสนใจมีดังนี้ ผู้เข้าแข่งขันมีเวลา 3 นาทีในการเล่นโยโย่
ซึ่งจะเริ่มจับทันทีที่เพลงเริ่มและจะไม่มีการให้คะแนนสำหรับท่าหรือการแสดงก่อนหรือหลังเพลงเริ่ม
ส่วนเพลงที่ใช้ต้องจัดอยู่ในหมวด “ทั่วไป” หากกรรมการเห็นว่าเพลงที่ใช้มีความไม่เหมาะสม ผู้เข้าแข่งขันจะถูกปรับให้ตกรอบ รวมไปถึงท่าทางการแสดงที่ใช้ต้องจัดอยู่ในหมวด “ทั่วไป” รวมถึงความปลอดภัยของผู้ชมด้วย หากกรรมการเห็นว่าการแสดงที่ใช้มีความไม่เหมาะสมและมีอันตรายต่อคนดู ผู้เข้าแข่งขันจะถูกปรับให้ตกรอบ ขณะทำการแสดงลูกโยโย่ที่ออกนอกพื้นที่เวที จะไม่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ และผู้เข้าแข่งขันไม่สามารถรับลูกจากผู้ชมหรือผู้ช่วย
ทั้งนี้ ผู้ชนะในแต่ละ Division จะได้รับสิทธิ์ในฐานะตัวแทนประเทศไทยเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศในการแข่งขันโยโย่ระดับเอเซีย หรือ Asia Pacific Yoyo Championships ที่จะมีผู้เข้าแข่งขันในเอเซียมาร่วมแข่งขัน ซึ่งในระดับ Counter-Weight Division (5A) ประเทศไทยเคยคว้าอันดับที่ 11 ในการแข่งขันมาแล้ว
นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันประเภทพิเศษหรือการแข่งขัน Speed Challenge* (การแข่งขันเสริม) ซึ่งเป็นการแข่งขันที่มีท่าบังคับ 10 ท่าพื้นฐานที่ผู้เข้าแข่งขันต้องทำตามลำดับให้ครบทุกท่า ได้แก่ท่า The Wind Up, Gravity Pull, Forward Pass, Break-Away, Around the World (อย่างน้อยต้องวนครบ 1 รอบ), Walk the Dog, Rock the Baby (3 รอบ), The Bikini, Stop and Go และท่าสุดท้าย Skyrocket (โยโย่ต้องโยนขึ้นไปลอยเหนือศรีษะ) โดยการแข่งขันประเภทเสริมนี้จะถูกแบ่งออกเป็น 2 สาย โดยจับคู่ผู้เข้าแข่งขัน ให้ทำการแข่งขันพร้อมกันทั้งสองคน โดยผู้ที่ทำครบ 10 ท่าก่อนจะได้เข้ารอบต่อไปเพื่อพบกับผู้ชนะในแต่ละรอบของสายตัวเอง ผู้ชนะในแต่ละสายจะทำการชิงชนะเลิศในรอบสุดท้าย (คล้าย ๆ กับการแข่งขันเทนนิส)
โดยผลการแข่งขันปรากฎว่าดาวเด่นในการแข่งขันครั้งนี้คือนายซุน วู (Chun Wu) นักแข่งชาวไต้หวันสัญชาติไทย ซึ่งชนะการแข่งขันในรอบ Preliminary ประเภท 5 A Division ด้วยคะแนนเต็ม 100 คะแนน, ประเภท 1 A Division ด้วยคะแนน 98.08 คะแนน และในการแข่งขันรอบ Final ประเภท 5 A Division ด้วยคะแนนเต็ม 98.93 คะแนน, ประเภท 1 A Division ด้วยคะแนน 92.96 คะแนน และชนะเลิศในประเภท Speed Challenge และมีคะแนนนำในลำดับที่ 2 ในประเภท 2 A และลำดับที่ 3 ในประเภท 4 A
สนใจติดตามความเคลื่อนไหวของชมรมโยโย่ประเทศไทยได้ที่ http://www.yoyothailand.com
ว้าว ๆๆๆ ผม กำลัง จะ ได้ เเข่ง โยโย่ ครับ ขอ ยืม ท่า ไป เล่น หน่อย นะ ครับ รุ่น พี่
superyoyo
liliy