เขม..คนสัญชาติลาวในแม่อาย : เราจะให้คำแนะนำแก่เขาอย่างไรดี ?
อ่านอีเมลล์แล้วอยากตอบมาก ไม่รู้ว่า คนอื่นว่าอย่างไร แต่ไม่มีความรู้จะตอบ เลยมานึก work process ที่จะผลิตคำแนะนำทางกฎหมายให้เขม
ในประการแรก เลยอีเมลล์ให้ อ.ไหมเช็คกับทาง ตม.ไทย หรือกรมการกงสุลไทยว่า มันมีนโยบายแบบนี้จริงหรือ ? และนโยบายมันออกมาจากใคร ? ในรูปแบบไหน ?
นอกจากนั้น ในประการที่สอง นึกได้ว่า อ.บุญมีน่าจะเช็ควิธีการกับสถานทูตลาวประจำไทย หรือกระทรวงการต่างประเทศลาว ก็อีเมลล์ไปแล้วล่ะ ? นโยบายลาวเป็นอย่างไรในเรื่องนี้ การเข้าสู่ความเป็นแรงงานใน MOU ไทย-ลาวนั้น จะต้องทำอย่างไร หนึ่ง...สอง....สาม...สี่.... สรุปมาหน่อยก็ดีค่ะบุญมี
ในประการที่สาม ก็คงต้องย้อนกลับไปบอกเหล่าทนายความแห่งคลินิกแม่อาย (บุญ ใสแดง สุ และลืนหอม) ที่จะต้องสรุปข้อเท็จจริงส่วนบุคคลของนายเขมมา ทยอยส่งให้ได้ศึกษากันก็ได้ การร่วมกันศึกษาจะสร้างปัญญาร่วมกัน อย่าง family tree ของนายเขม เป็นแพทย์ทางสังคมก็ต้องกลับไปตรวจร่างกายคนไข้อย่างละเอียด ทนายความแห่งคลินิกแม่อายมีหน้าที่เบื้องต้นที่จะเป็น "คนแถวสอง" ก็คือ มีหน้าที่สอบข้อเท็จจริง เอาออกมาให้ได้ค่ะ
ในประการที่สี่ ก็ต้องบอกคนแถวสามและสี่ กล่าวคือ เหล่าคนที่อาสาศึกษาข้อกฎหมายและข้อนโยบายว่า ช่วยค้นข้อกฎหมายให้หน่อยได้ไหม อยากวาน อ.ด๋าว หรือ อ.วีนัส มาดูกันหน่อยว่า การเข้าถึงสิทธิเข้าเมืองและอาศัยในไทยของนายเขมมีความเป็นไปได้ทางกฎหมายอย่างไร ต้องดู พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ความตกลงระหว่างประเทศ และหนังสือสั่งการของกระทรวงอะไรบ้างเนี่ย ??
ในประการที่ห้า ต้องดูว่า การจัดการตัวเองของเคสในอดีตที่ผ่านมา ทำอย่างไรกัน จะเห็นจากข้อเท็จจริงที่บุญบอกมา เขมพยายามจะใช้สิทธิต่อวีซา ซึ่งตรงนี้ ต้องขอดูหนังสือเดินทางว่า เป็นกรณีตามมาตรา ๑๒ หรือ มาตรา ๑๓ (๒) แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.๒๕๒๒ ดังนั้น ขอบุญสแกนหนังสือเดินทางของเขมทุกหน้ามาให้ดูด้วยค่ะ อันนี้ จะช่วยให้วิเคราะห์ร่วมกับข้อกฎหมายลาวที่ อ.บุญส่งมาให้ ถ้าเป็นกรณีที่เข้ามาตามสนธิสัญญาชายแดนไทยลาว มารอดูกัน
ในประการที่หก ต้องมาคิดทบทวนแนวคิดใหม่ที่เขมอยากใช้ว่า เป็นคุณต่อเขาจริงไหม ? กล่าวคือ การจะไปแสดงตนขึ้นทะเบียนแรงงานที่จะเปิดรอบใหม่ตั้งแต่วันที่ ๑ - ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๒ ก็คือ การจะไปร้องขอใช้สิทธิตามมาตรา ๑๗ แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.๒๕๒๒ ก็น่าจะเป็นไปได้นะ แต่จะดีไหม ต้องขอ อ.บอมเป็นคนเริ่มคิดค่ะ หรือ อ.วีนัสด้วยล่ะ พวกภาครัฐ จะว่าอย่างไรนะเนี่ย เรื่องนี้ ต้องคิดให้ตกก่อนเดือนกรกฏาคมจะหมดไป ปัญหา ก็คือ เขาเป็นลูกจ้างหรือนายจ้างกันแน่ ??? ถ้าเขาเข้ามาใน ท.ร.๓๘/๑ เราจะเห็นว่า คนใน ท.ร.๓๘/๑ จะมีความหลากหลายให้ต้องจำแนกทางวิชาการมากขึ้นดี เรื่องของเขมจึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจ จนอยากกระโดดไปสอบปากคำเอง
มีใครรู้สึกสนุกสนานกับการคิดงานวิชาการที่ติดดินแบบนี้บ้างไหมคะ ??? สนุกจนจะไปเขียนแผนผังของคนใน ท.ร.๓๘/๑ มาดูกันในไม่ช้าเลยล่ะ
ความเห็น (5)
From: Bounmy Ladsamyxay
Sent: Saturday, June 13, 2009 9:37 PM
"เรียนอ.แหวว
จากเท่าที่ได้อ่านในบล็อกของอาจารย์แล้ว บุญมี คิดว่า นายเขม น่าจะเป็นบุคคลที่ถือ passport เข้ามาในปะเทศไทย ในลักษณะท่องเที่ยว ซึ่งสามารถอาศัยในประเทศไทยได้เพียงแต่ ๓๐ วันเท่านั้น ถ้าครบ ๓๐ วันแล้ว นายเขมจะต้องออกประเทศไทย เพือไปประทับตราออกจากไปประเทศไทย แล้วจึงกลับเข้ามาในประเทศไทยใหม่อีกครั้ง หมายความว่านายเขมจะออกไปผ่านด่านที่ไหนก็ได้ที่เห็นว่ามันใกล้ที่สุดสำหลับเขาเอง
ตัวอย่างของ บุญมีเอง ก็เหนือนกัน เพราะผมไม่ได้ทำวีชา หลังจากที่หมดวิชาเรียนแล้ว ผมก็ไปต่อวีชาที่ด่านทุกเดือน เหมือนกับเขมนั้นและ จนหมด passport หนึ่งเล่ม หาก passport ขาดอายุ ก็ต้องไปเปลี่ยนเป็นเล่มใหม่
แต่ก็ไม่เคยถูกเจ้าหน้าที่ที่ด่านถามเหมือนกับกรณีของเขมเลย
คนลาวที่ถือ passport เข้ามาในประเทศไทยแล้วกลับไปต่อวีชาที่ด่านเหมือนกับเขมก็เป็นจำนวนมาก เท่าที่ทราบมากที่สุด ก็คือ จังหวัดสระแก้วชายแดนไทยกัมพูชา ต.ม.หนองคาย ต.ม.มุกดาหาร และที่อื่นๆ
บุญมี"
Date: Sun, 14 Jun 2009 10:53:49 +0700
อาจารย์ครับ
การจดทะเบียนแรงงาน ๓ สัญชาติรอบใหม่จะเริ่มระหว่างวันที่ ๑-๓๐ กรกฎาคม ๒๕๕๒
โดยกลุ่มเป้าหมายมีอยู่ ๒ กลุ่มคือกลุ่มแรงงานที่เคยจดทะเบียนไว้ตั้งแต่ปี ๒๕๔๗ เป็นต้นมาแต่ไม่ได้รายงานตัวต่อเนื่องทุกปี กับกลุ่มแรงงานที่ไม่เคยจดทะเบียนเลย (ไม่มี ท.ร.๓๘/๑)
การจดทะเบียนรอบนี้จะเน้นเฉพาะกลุ่มที่เป็นแรงงานเท่านั้นไม่รวมผู้ติดตามไม่ว่าจะเป็นญาติหรือบุตรของแรงงานก็ตาม
ปัญหาที่เกิดแน่ๆ คือตัวแรงงานจะได้รับความคุ้มครองตามมาตรา ๑๗ แต่บุตรที่เกิดในประเทศไทยจะไม่ได้รับความคุ้มครอง อย่างนี้แล้วครอบครัวจะอยู่กันอย่างไรครับ.....
วีนัส
From: Bounmy Ladsamyxay
Sent: Sunday, June 14, 2009 7:59 AM
เรียนอ.แหวว
บุญมีลืมบอกว่า ในกรณีนี้ผมคิดว่ายังคงไม่จำเป็นที่จะต้องโทรหาทางสะถานทูตลาวและกระทรวงการต่างประเทศเทื่อ เพราะว่า ถ้านายเขมเข้ามาในประเทศไทยโดยที่ได้ถือ passport แล้วก็หมายความว่าถูกต้องแล้ว จากมันไปตามกฎหมายไทยเท่านั้นที่จะให้หรือไม่ให้วีชาของนายเขม
ถ้านายเขมหากถูกเจ้าหน้าที่จับหรือกรณีอื่นๆ จึงแจ้งถึงสถานทูตลาวหน้าจะดีกว่า
วันที่: วันอาทิตย์, 14 มิถุนายน 2009 00:37 น.
บุญมีคะ ขอบคุณค่ะ
เรามารอดูสำเนาหนังสือเดินทางของนายเขมกันค่ะ
จะได้ทราบว่า สาเหตุการต่อหนังสือเดินทางไม่ได้นั้น เป็นเพราะอะไร
อ.แหววค่ะ
From: adisorn kerdmongkol
Sent: Sunday, June 14, 2009 10:21 PM
6. ถามบอมว่า คนที่มีเอกสารพิสูจน์ตนแล้วไปขึ้น ท.ร.๓๘/๑ ดี หรือถอยกลับไปใช้มาไทยตาม MOU ดี เคยศึกษาตรงนี้แล้วยัง คิดออกแล้วยัง
คือถ้าถามกระบวนการนะครับ เขมมีหนังสือเดินทางอยู่แล้ว การจะกลับมาเอาสถานะหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย ผมว่ากระไร ๆ อยู่
ตอนนี้มีทางเลือกสองทางครับ คือ
หนึ่ง ให้เขมกลับบ้าน เพื่อใช้หนังสือเดินทางเดิม และติดต่อบริษัทจัดหางานในประเทศลาว เพื่อขอเข้ามาทำงานอย่างถูกกฎหมายตาม MoU ขออนุญาตทำงานได้สองปี ต่อสองปี
สอง คือไปรายงานตัวขอขึ้นทะเบียนแรงงานข้ามชาติ และไปเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สัญชาติลาว (สถานภาพของเขมก็จะกลายเป็นคนเข้าเมืองผิดกฎหมายแต่ได้รับอนุญาตให้อยู่อาศัยและทำงานได้ชั่วคราว)ซึ่งในกระบวนการพิสูจน์สัญชาติ ก็ให้เขมนำหนังสือเดินทางนี้ไปแสดงว่าเขาเป็นคนลาวจริง ๆ หลังจากนั้นเขมก็จะสามารถทำงานในประเทศไทยในฐานะแรงงานที่เข้าเมืองถูกกฎหมาย 2 ปี ต่ออีก 2 ปี วิธีหลังเขมก็ไม่จำเป็นต้องกลับไปลาว ในช่วงเวลาสั้น ๆ นี้
เบื้องต้นให้ความเห็นแค่นี้ก่อนนะครับ
บอม