การปฏิบัติงาน foot clinicที่ ร.พ.สงฆ์

การปฏิบัติงาน foot clinicที่ ร.พ.สงฆ์

                วันนี้ วันที่ 11มิถุนายน 2552 พวกเราทั้ง  3 คน ซึ่งประกอบด้วย แค กอล์ฟ และก๊อฟ ได้มีโอกาส ออกปฏิบัติงาน foot clinic ร.พ.สงฆ์  ซึ่งหลายๆคน รวมถึงพวกเรา อาจจะไม่เคยได้ยินถึงสิ่งนี้มาก่อน และไม่เห็นความสำคัญของclinicนี้  ณ ตอนแรกที่พวกเราคิดเกี่ยวกับสิ่งนี้ พวกเรา ก็เพียงคิดว่า เป็นclinicธรรมดา ไม่ได้มีความสำคัญมากมายคงจะเพียงแค่ทำหน้าที่เกี่ยวกับ ทำความสะอาดแผล หรือ ดูแลเกี่ยวกับเท้า ทั่วๆไป  แต่ในความเป็นจริงแล้ว  การที่เราได้มีโอกาส ปฏิบัติงานใน foot clinic นั้น ทำให้เราได้เห็นและได้รับประสบการณ์ใหม่มากมาย เมื่อเทียบกับสิ่งที่คิดไว้ในตอนแรกเป็นอย่างมาก มีcaseนึงที่น่าสนใจและน่าเรียนรู้ คือ พระสงฆ์ไทย อายุ 42 ปี จำพรรษาที่วัด ศรีโพธิ์ทอง จ.นครราชสีมา มาด้วยอาการมีแผลที่เท้าข้างขวามา 1 ปีครึ่ง ท่านเล่าว่าเมื่อประมาณปีครึ่งก่อนนั้น ท่านได้ลงไปเก็บบัวในสระเพื่อนำไปถวายพระ หลังจากนั้น 2วันก็มีอาการบวมแดงที่หลังเท้าด้านซ้าย อาการบวมแดงเป็นมากขึ้นเรื่อยๆร่วมกับมีอาการปวดต่อมามีการลอกที่ผิวหนังบริเวรที่บวมแดงเห็นข้างในเป็นหนองสีขาวๆปริมาณมากมีกลิ่นเหม็น จึงไปหาหมอที่สถานีอนามัยใกล้บ้าน หมอทำแผลให้และให้ยามากิน แผลและหนองก็ยังไม่หาย แต่ก็ยังคงรักษาที่อนามัยต่อไป

                6 เดือนก่อนมาโรงพยาบาลพบว่าแผลที่หลังเท้าด้านซ้ายก็เริ่มหายแต่พบว่าเริ่มมีบวมแดงบริเวรนิ้วเท้าด้านขวาและมีน้ำใสๆ ไหลออกมา ไม่รู้สึกเจ็บ แต่บวมมากจนเดินไม่ได้ จึงๆปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลชัยภูมิ ทำincision&drainage แต่พบว่าอาการบวมแดงและอาการอักเสบเป็นมากขึ้น จนออกไปบิณฑบาตไม่ได้ เดินจงกรมไม่ได้  จึงมาพบแพทย์ที่โรงพยาบาลสงฆ์ แพทย์ได้ทำหัตถการ amputation ตัดนิ้วเท้าข้างซ้ายที่ 4-5 หลังจากนั้นอาการบวมแดง ดีขึ้น  ครั้งนี้แพทย์จึงนัดมาที่ foot clinic เพื่อทำรองเท้าและทำแผล

                การมาโรงพยาบาลสงฆ์ในครั้งนี้ต้องผจญกับอุปสรรคต่างๆนานา ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางที่ลำบาก ต้องนั่งรถโดยสารติดต่อกันเป็นเวลา 5ชม. เสียค่าใช้จ่าย 300 บาท แต่มีเงินการสงฆ์ช่วย

                นอกจากอาการเจ็บป่วยที่เท้าแล้ว พระรูปนี้ยังมีโรคประจำตัวอีก คือ โรคเบาหวาน โลหิตจาง นิ่วที่กระเพาะปัสสาวะ และยังเป็นโรคไตวายเรื้อรัง ทำให้ต้องเดินทางมาล้างไตทุกวันพุธและศุกร์  ทำให้มาสามารถอยู่ปฏิบัติภารกิจที่วัดได้เต็มที่ แต่เจ้าอาวาสและพระที่วัดรูปอื่นก็ให้การช่วยเหลือและดูแลอย่างดี

                ส่วนประวัติครอบครัวก่อนบวช ท่านเคยมีภรรยาและมีลูก 2คน แต่ต่อมาได้แยกทางกัน โดยลูกไปอาศัยอยู่กับภรรยา ท่านมีพี่น้อง3คน มีน้องชายเป็นโรคเบาหวาน 1คน ส่วนบิดามารดาเสียชีวิตไปแล้ว โดยไม่ทราบว่ามีประวัติเบาหวานหรือไม่

                ประวัติส่วนตัว สูบบุหรี่มา 14 ปี โดยสูบเป็นจำนวน 24 pack years เลิกมาแล้ว 1 ปี

ดื่มเหล้าวันเว้นวัน ดื่มมากจนกระเพาะทะลุ

 

หลักการเชื่อมโยง

การเดินมี 2 phase ที่สำคัญ

1.stance phase คือช่วงที่เท้ามีการสัมผัสกับพื้นผิว มี 3กรณี

                1.heel strike คือช่วงที่ส้นเท้ามีการสัมผัมกับผิวสัมผัส

                2.flat foot คือช่วงที่ส้นเท้า จมูกเท้า และนิ้วเท้าสัมผัสพื้นพร้อมกัน

                3.heel off คือช่วงที่ปลายเท้าสัมผัสกับพื้น

2.swing phase คือช่วงที่เท้าไม่สัมผัสกับพื้นผิวสัมผัสเลย ซึ่งลักษณะการเคลื่อนที่จะเป็นแบบแกว่ง

ซึ่งในการเดินปกตินั้น 2 phase นี้จะสลับกันไปมาอย่างต่อเนื่องอย่างน่าตะลึง

สำหรับในเรื่องของการดูแลแผลที่เท้านั้นมีหลักการอยู่ว่าต้องลดแรงกระทำต่อแผลให้เหลือน้อยที่สุดหรือไม่มีเลยดังนั้นphase ที่สำคัญที่สุดคือ stance phase นั่นก็คือมีแรงปฏิกิริยาจาพื้นมากระทำต่อแผลนั่นเอง

ผู้ป่วยรายนี้มีพยาธิสภาพที่ส้นจึงต้องลดแรงกระทำที่ส้นเท้านั่นคือพยายามเดินแบบ heel off ตลอดเวลา แต่ในทางปฏิบัติคงจะลำบากน่าดู จึงต้องมีกายอุปกรณ์เสริม(orthosis) นั่นก็คือทำรองเท้าพิเศษที่มีขนาดพอดีกับเท้าและมีการเสริมส้นเท้าให้สูงขึ้น ดังภาพ

รายชื่อสมาชิกในกลุ่ม

1.       น.ส.ธัญวรรณ     เกียรติไกรวัลศิริ            4802038

2.       นายธีรวัฒน์        โสธนนันทน์                 4802042

3.       นาย ปิตุลา          เล้าศิริมงคล                    4802059

[สาวบ้านนา]

เอาใจช่วยคุณหมอ ทุกท่าน แล้วจะกลับมาอ่านใหม่ค่ะ