KM. 43 จัดการความรู้ พาลูกเที่ยวไทย ถักทอสายใยแห่งรัก ในวันที่งดงาม


3 วัน 2 คืนกับพัทยา ไม่ผิดหวังนะ กับ โปรแกรมท่องเที่ยวเมนูด่วน คุ้มค่ากับช่วงเวลาถักทอสายใยแห่งรักของครอบครัวและกัลยาณมิตร รักนะประเทศไทย

 

 

ในช่วงปลายภาคฤดูร้อนเป็นอีกช่วงเวลาหนึ่งที่ฉันจัดสรรเวลาให้กับลูกสาวสุดที่รัก คือน้องอิน และกัลยาณมิตร อีก 2 คน เพื่อไปพักผ่อนตามความต้องการของทุกคนโดยเฉพาะน้องอิน ที่ร่ำร้องอยากไปทะเลในช่วงสั้นๆ เท่าที่จะพอปลีกเวลามาจากเชียงใหม่ก่อนเปิดเทอมเนื่องจากต้องเรียนพิเศษตลอด

         

ถอดบทเรียนก่อนไป เพื่อการวางแผนจัดการที่ดี

  • สหายหรือกัลยาณมิตรผู้ร่วมเดินทางคือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับฉัน ประสบการณ์ที่ผ่านมาทุกครั้งทำให้เรามั่นใจว่า สหายบุญ หรือเพื่อนแท้ในการเที่ยวด้วยกันนั้นสำคัญมาก เพราะการไปจะพบแต่ความสุข อุปสรรคน้อยที่สุดหรือเราแทบจะไม่รู้สึกว่าเป็นอุปสรรค ดินฟ้าก็จะเป็นใจ ไม่มีฝนตกแม้ว่าจะอยู่ในฤดูกาลนั้น เรากลับเมื่อไหร่ ฝนฟ้า ก็เข้าไปพื้นที่นั้นทุกที จะตกลงทำอะไร ก็จะราบรื่น กินอิ่มอร่อย นอนหลับสบาย เดินทางปลอดโปร่งโล่งใจ ได้รับการบริการในพื้นที่ๆไปเที่ยวแบบอบอุ่นเพราะเป็นสหายในทางดี
  • ความรู้ในสถานที่ๆจะไป ซึ่งสถานที่ควรเป็นที่ๆ เหมาะกับจริตนิสัยของเรา เพื่อจะได้รับความสุนทรี เป็นที่ๆดีงามทั้งสถานที่และผู้คน ความรู้นี้จะทำให้เราได้เตรียมใจ เตรียมกาย อุปกรณ์ เสื้อผ้า เตรียมเวลา และเส้นทางได้อย่างเหมาะสมลงตัวและมีความสุขจริงๆ บางแห่งต้องพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ของสถานที่นั้นก่อน อันเป็นการผูกมิตรที่ดี และเตรียมหนทางที่ดี ไม่หลงทาง ไปถึงก็มีผู้มาต้อนรับดี

  

โปรแกรมในช่วงวันหยุด 3 วันจึงถูกจัดการด้วยสมาชิกอันเป็นกัลยาณมิตรแท้มายาวนาน เป็นการวางแผนร่วมกันเพื่อการพักผ่อนที่มีคุณค่าที่สุด และมีความสุขตลอดระยะเวลา ซึ่งที่ๆ ใกล้ที่สุดสำหรับเราคงไม่พ้นพัทยา ไปมาหลายครั้ง แต่ก็ยังมีที่ๆน่าสนใจให้เราไปได้อีก ในช่วงเวลาอันสั้นที่พอจะพึงมี ซึ่งสรุปว่าโปรแกรมง่ายๆ แต่คิดว่าน่าจะได้อะไรดีๆ สมกับเป็น Trip ครอบครัวผนวกด้วยสหายทางธรรมก็ได้ออกมาดังนี้

 

  

  

  

 

วันที่ 1 เดินทางถึงที่พัก 12.00 น. ช่วงบ่าย เข้าชม ปราสาทสัจธรรม อลังการงานแกะสลักวิจิตรตระการตาด้วยไม้ทั้งหลัง สมเป็นสถาปัตยกรรมไม้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกด้วยหลักคิดเชิงปรัชญาซึ่งเป็นสิ่งก่อกำเนิดทั้ง 7 ของมนุษย์และโลก ร่วมด้วยหลักประพฤติปฏิบัติที่ดีงาม ริมทะเล (ค่าเข้าชมหัวละ 500 บาท) ด้วยโปรแกรมหลากหลายให้เลือกตามความถนัด และตามวัย

 

วันที่ 2 เดินทางไปสัตหีบเพื่อเล่นเรือใบ ที่สโมสรเรือใบ กองเรือยุทธการ ซึ่งต้องติดต่อจองไว้ก่อนล่วงหน้าเช่นกัน กับผู้จัดการ(คุณครูที่แสนดี) ส่วนช่วงเย็นคงต้องผ่อนคลายด้วยการลงสระนวดตัว ณ ที่พักเป็นแน่แท้ หลังจากใช้พลังงานกับเรือใบ สายลม และแสงแดด บนท้องทะเล ซึ่งสำหรับที่นี่เราต้องเตรียมความรู้ก่อนไป พร้อมด้วยการป้องกันแสงแดดและ UV

 

วันที่ 3 เช้าเดินทางไปลงเรือดำน้ำ (โปรแกรมนี้ต้องจองกันทาง Internet ราคาหัวละ 900 บาท เสร็จภารกิจ ก็ไปรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านมุมอร่อยแถวนาเกลือ แล้วค่อยเดินทางกลับอยุธยา

 

 

วางแผนจากการศึกษาข้อมูล แผนที่ ต่างๆ ทาง Internet แล้วก็จัดเตรียมอุปกรณ์ ให้พร้อมเพื่อการเดินทาง และเพื่อการท่องเที่ยวที่มีความสุข ลดอุปสรรคให้น้อยที่สุด สุดท้ายก็ไม่ผิดหวังเลยจริงๆ เที่ยวไทย ไม่ใกล้ ไม่ไกล แต่มีอะไรที่ดีๆ ให้เลือกสรรในวันเวลาสั้นๆ กับกลุ่มเล็กๆ แบบนี้เลย

 

 

 

 

วันที่ 1 เดินทางออกจากบ้านเวลา 06.00 น. มุ่งตรงสู่พัทยา เข้าถึงที่พักที่เคยๆ และมั่นใจว่า อยู่อย่างสบาย อาหารเช้าก็อร่อย เลือกได้ตามความเหมาะสมกับสภาพร่างกายที่แพ้อาหารสะสมหลายชนิด คือ โรงแรม มณเฑียร พัทยา ในช่วงเวลา 11.00 น. ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นเหมือนเคย เจ้าหน้าที่ห้องอาหารของที่นี่ทำออมเลตที่ปราศจากไข่แดงที่เราแพ้ให้อย่างเต็มใจ และน่ารักมากๆ

  

 

ช่วงบ่ายก็เดินทางไปยังปราสาทสัจธรรม ที่นี้มีโปรแกรมให้เลือกหลายโปรแกรม ดูรายละเอียดได้ที่นี่ ปราสาทสัจธรรม (http://www.sanctuaryoftruth.com) ณ แหลมราชเวช ต.นาเกลือ อ.บางละมุง ซึ่งกลุ่มของเราเลือกแบบการเข้าชมรอบปราสาทด้วยรถม้า  ที่นี่อากาศดีมากทีเดียว เพราะติดทะเล มีกำแพงเป็นอาณาเขต เนื้อที่ประกอบด้วยเนินเขา เนินทราย แอ่งน้ำ ธรรมชาติที่เหมาะสม

 

 

 

 

  

                       

ช่วงที่เข้าชมปราสาทจะมี ไกด์แนะนำเป็นกลุ่มๆให้ ซึ่งทำให้เราได้รู้ถึงความเป็นมาอย่างละเอียด ถึงวัตถุประสงค์ในการสร้าง ปรัชญาอันเป็นหลักคิดซึ่งแสดงด้วยสัญลักษณ์จากรูปสลักอันอลังการและวิจิตรบรรจง มีความหมายทุกสิ่งอัน ดูขรึม ขลังด้วยอายุของไม้สักเก่าแก่ สีของไม้ และความอลังการงานสร้างที่ทำมาเป็น 20 ปี และจะยังสร้างไปอีกยาวนาน ชมไป ก็คิดไปว่า “ทำไปได้อย่างไรเนี่ย ?”  ชื่นชมพร้อมถ่ายรูปด้วยความอัศจรรย์ใจ ทั้งกับปราสาทและธรรมชาติโดยรอบ เสร็จสรรพก็ได้เวลา 17.00 น. เดินทางกลับที่พัก  ไม่ผิดหวังจริงๆ

 

 

 

วันที่ 2 พวกเราออกจากที่พักไปสัตหีบ ที่ สโมสรเรือใบ กองเรือยุทธการ ซึ่งเป็นโปรแกรมที่รอคอยมานาน เนื่องจากฉันเองชื่นชอบเรือใบเป็นพิเศษ ชอบมาตั้งแต่เด็กชนิดที่อยู่ชั้นประถม ไม่เคยเห็นของจริง แต่ก็ชอบวาดในรูปวิวทิวทัศน์ชายทะเล เวลาได้ไปเล่นจริง ก็จะมีความสุขมากๆ เพราะเป็นเรือที่ใช้ใบรับทิศทางลมที่เหมาะสม ไม่เร็วจนเกินไป เวลานั่งออกไปกลางทะเล ให้ความรู้สึกอิสระแต่อบอุ่นด้วยน้ำกับฟ้า กว้างไกล ไร้ขอบเขต

 

 

 

 

 ซึ่งครั้งนี้เราไปกัน 4 คน   จึงได้เล่นเรือใบชนิด Enterprise (มีอยู่ 2 ลำ เป็นชนิดแบบมี 2 ใบ นั่งสองคน ค่าใช้จ่ายลำละ 1,100 บาทต่อวัน ซึ่งรวมค่าครูฝึกเพราะเราอยากนั่งสบายๆ เพียงแค่ช่วยเปลี่ยนใบเรือหรืออื่นๆ เล็กๆน้อยๆ เนื่องจากดูทิศทางลมไม่ค่อยเป็น และไม่อยากที่จะต้องกู้เรือเองถ้าเรือเกิดพลิกคว่ำขึ้นมา อันเกิด จากการปรับใบเรือไม่หมาะสม)  พวกเราเล่นจากหน้าสโมสรเรือใบ ( Navy sailing) ไปขึ้นที่หาดนางรำเพื่อกินข้าวกลางวันที่นั่น (น้ำทะเลที่หาดนางรำใสสะอาดดี) แล้วก็นั่งเรือใบกลับรวมประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง(ไป-กลับ) อากาศร้อน อยู่ท่ามกลางแสงแดด แต่ก็คุ้มค่า ซึ่งตรงนี้ต้องบริหารจัดการเวลา และเตรียมเรื่องอาหาร และข้อมูลให้ดีถ้ายังไม่เคย

 

 

 

 เสร็จภารกิจกับเรือใบประมาณ 15.00 น. เดินทางกลับที่พัก เพื่อผ่อนคลายร่างกายด้วยวารีบำบัดกับการนวดตัวด้วยจากุชชีของโรงแรม สดชื่น..น...จริงๆ

วันที่  3 เป็นวันสุดท้ายที่ต้องเดินทางกลับ ฉันกับน้องอินตื่นแต่เช้า มาเดินเล่นที่ลานลีลาวดี ซึ่งเป็นลานก่อนลงชายหาด ถ่ายรูปที่โรงแรมเป็นที่ระลึกเหมือนเคย

 

 

ก่อนออกไปลงเรือดำน้ำ (ภิรมย์) ของบริษัทวิมานใต้ทะเล เวลา 10.00 น. (ราคาตั๋วหัวละ 900 บาท) เป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่ดีกรณีที่จะพาครอบครัวหรือเด็กๆ ไปดูปะการังและสัตว์น้ำใต้ทะเลรอบเกาะ อาทิ ฝูงปลาหลากหลาย รวมถึงนีโมกับดอกไม้ทะเล แบบไม่ต้องเปียก สัตว์ทะเลและปะการังอาจไม่สวยกระจ่างใสเหมือนแถวอันดามัน แต่เป็นประสบการณ์ลงเรือดำน้ำ  ซึ่งครั้งนี้ฉันชอบปักเป้าทุเรียนที่นักประดาน้ำจับมาให้ดูที่หน้าต่างกระจกของเรือที่สุด ชอบตรงปาก ตา และก็ครีบสีเหลืองพริ้วไหวของเขา น่ารักมากๆ

หลังจากที่ขึ้นมาจากเรือดำน้ำก็ไปรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านมุมอร่อยแถวนาเกลือ อร่อยจริงๆ ชายหาดที่นี่น้ำทะเลงวดลง อย่างมาก แต่มีเรือลำใหญ่จอดอยู่ 2 ลำ ขณะรับประทานอาหารไป มองออกไปชายทะเลให้ความรู้สึกเหมือนนั่งดูภาพวาดภาพใหญ่ แปลกจริงๆ ที่ของจริงเหมือนภาพวาด อดใจไม่ไหว ก็ต้องไปถ่ายภาพเก็บไว้ เสียดายไม่ติดตอนนกนางนวลบินถลาเล่นลม

 

                        

       

 

 

        ถอดบทเรียนหลังการท่องเที่ยวครั้งนี้

  • การเตรียมเพื่อนร่วมทางอันเป็นเพื่อนแท้หรือกัลยาณมิตร สำคัญเหมือนเคย สหายบุญคือคุณแห่งการท่องเที่ยวร่วมกัน ไร้อุปสรรค และเป็นสุขทุกกิจกรรม ตลอด 24 ชั่วโมง และลูกก็คือเพื่อนแท้ที่สำคัญของฉันคนหนึ่ง
  • การวางเป้าหมาย และการวางแผนร่วมกัน คือความสำคัญของ Trip ความคิดเห็นที่แตกต่างจะสร้างความพร้อมสรรพสมบูรณ์ที่ลงตัวด้วยฉันทามติ
  • การติดต่อด้วยความเป็นกัลยาณมิตรกับบุคคล ณ สถานที่ๆ ท่องเที่ยวก่อนไป เพื่อข้อมูลและความพร้อม คือการเตรียมการที่พร้อมสรรพ และความสุขที่จะตามมาในช่วงเวลาของการท่องเที่ยว ช่วยลดปัญหาอุปสรรค หรือจัดการกับปัญหาที่จะเกิดขึ้น สร้างความอบอุ่นกับสถานที่ใหม่ ไร้กังวล

 

  

        3 วัน 2 คืนกับพัทยา ไม่ผิดหวังและประทับใจ กับ โปรแกรมท่องเที่ยวเมนูด่วน คุ้มค่ากับช่วงเวลาถักทอสายใยแห่งรักของครอบครัวและกัลยาณมิตร

 

 

 

 

รักนะ ประเทศไทย

 

 

หมายเลขบันทึก: 269592เขียนเมื่อ 20 มิถุนายน 2009 23:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 มิถุนายน 2012 00:24 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

ไทย เที่ยวไทย ไทยเจริญค่ะ

แม่ ลูก สดใสมีความสุข ก็คุ้มแล้วค่ะ

สวัสดีค่ะพี่ P  แก้ว..อุบล จ๋วงพานิช

มาเยี่ยมเยียนแต่เช้าเลย สบายดีนะคะ ช่วงนี้แหววก็ห่าง Blog ไปนานมากๆ เลย คิดถึงและขอบคุณนะคะที่มาเยี่ยมเยือนและทักทายค่ะ

สวัสดี คร๊าบ...บบบ คุณพี่แหวว คนสวยเสมอ....

ส่งรูป ลับเฉพาะ ตอนใส่ชุดว่ายน้ำ มาให้เพิ่มเติม... อิอิ

โคนันคุง

หวัดดี... โคนัน คุง P

  • แหม... ยังไว้ลายยอดนักสืบ...ภาพลับเฉพาะจริงๆ ก็ต้องลับเฉพาะซีจ๊ะ..
  • ขอบคุณมากที่มาทักทายคลายร้อนจ้า...

ม่อยากเชื่อว่าพี่เเหววมีลูกโตขนาดนี้เเล้ว โธ่ นึกว่ายังโสด นั่งเพ่งอยู่ตั้งนานว่า ไหนบอกว่าพาลูกไปเที่ยวมองหาลูกไม่เจอ พอมองลงมาที่มุมน้องอินจึงถึงบางอ้อ...เเม่ลูกน่ารักมากค่ะคราวนี้เลยไม่ยอมเเพ้พี่เเหววกุ้งเลยเอาลูกชายมาอวด หล่อซึ้งนี่เเม่เพื่อนเขา(น้องเเคนครับป้าเเหวว) ตั้งฉายาให้ค่ะ

โอ้โฮ!! น้องกุ้งนางP  สุธีรา

 

เห็นหลานแคนแล้วแบบว่า อมยิ้มเลยอ่ะค่ะ หล่อซึ้งๆ จริงๆ ด้วย ชื่อก็บ่งบอกถึงความปราณีตทางอารมณ์ของคนตั้ง นึกถึงเสียงแคน ดนตรีธรรมชาติแบบบริสุทธิ์ สงสัยจะได้จิตใจและอารมณ์สุนทรีย์มาจากคุณแม่  ยินดีที่ได้รูจักน้องแคนค่ะ

ขอบคุณครับป้าเเหวว ... พี่เเหววช่างเข้าใจความรู้สึกของคนตั้งชื่อให้เเคน เเม่กุ้งเป็นคนตั้งเองจริงๆค่ะ เเคนที่นึกถึงอารมณ์เเรกก็ถูกอีกค่ะพี่เเหววคือ เสียงเเคน เพราะเเคนเกิดที่เมืองหมอเเคน เเดนไดโนเสาร์ขอนเเก่นค่ะ ส่วน can หนึ่งที่อยากสื่อคือ can สามารถค่ะ อยากให้เเคนเก่งๆค่ะ ส่วนชื่อจริงคุณพ่อเขาตั้งให้ คือ พุทธางกูร หน่อเนื้อพุทธางกูรค่ะพี่เเหวว

ขอบคุณค่ะกุ้งนาง ที่่มาเฉลยให้ ไม่ต้องสงสัยเลย  ป้าแหววปลื้มด้วยคน (ถูกใจชื่อจริงมากๆ)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท