คุณค่า...ของลมหายใจสุดท้าย


การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายเป็นงานประจำ....จริงหรือ

การดูแลระยะสุดท้ายเป็นงานประจำ   เป็นลักษณะของระบบสุขภาพที่ทุกคนมีส่วนร่วม    ทำให้เกิดสุขภาพในสังคม   การช่วยกันดูแลผู้ป่วย   ระยะสุดท้ายโดยบุคลากรทางการแพทย์   ญาติมิตร   เพื่อนบ้าน    และอาสาสมัคร  

    ฉันได้มีโอกาสดูแลผู้ป่วยชายไทย  อายุ 40  ปี  ซึ่งป่วยเป็นโรค CHF  และ MS   ระยะสุดท้าย  เขามีอาการหายใจเหนื่อยหอบ   นอนราบไม่ได้    กระสับกระส่าย  หลังเท้า  2  ข้างบวม   กลางวันพักหลับโดยฟุบ  over  bed   กลางคืนตื่น   ร้องครางโวยวาย  เสียงดัง      ตลอดเวลาที่รักษาตัวในโรงพยาบาล  เขามีภรรยาดูแลไม่ห่าง   แววตาของเขา  ของภรรยา และของมารดา   แสดงออกว่าพวกเขาทุกข์ใจ  ขนาดไหน    ดิฉันรู้สึกสงสารและเห็นใจมาก   

   ภรรยาของเขาเล่าให้ฟังว่าเดิมเขาเป็นคนชัยภูมิ     แต่งงานและย้ายมาอยู่ที่อำเภอสอง   ไม่มีบุตรด้วยกัน   ขยันหมั่นเพียรทำให้ครอบครัวอยู่อย่างสุขสบาย    ครอบครัวภูมิใจในตัวเขามาก   ทุกคนในบ้านรักเขา     มีสิ่งหนึ่งที่เขาต้องการมากในตอนนี้    เขาอยากพบหน้าแม่     

  แม่ของเขาบอกว่า    รู้ว่าอีกไม่นานลูกชายสุดที่รักจะต้องเสียชีวิตลง   เมื่อถึงวันนั้นตนยอมรับได้  แต่ช่วงเวลาที่ลูกชายเจ็บป่วยทุกข์ทรมานก่อนจะเสียชีวิตนี้เป็นช่วงที่หัวใจของแม่ปวดร้าวและเหมือนแตกดับ  แต่แม่ของเขา   ภรรยาของเขาไม่เคยมีน้ำตาให้เขาได้เห็น  รอยยิ้ม  คำปลอบประโลมใจ  พ่อต้องหายนะ  แม่รออยู่   ราวกับว่าคำพูดเหล่านั้นจะช่วยเยียวยาร่างกายนั้นให้กลับคืนมาอยู่ในอ้อมกอดกันอีกครั้ง      น้ำในดวงตาและเอ่อล้นจนไหลขณะที่กำลังคุยกับฉัน   ฉันจับมือแม่และภรรยาของเขาและบอกว่าเราจะช่วยกันดูแลเขาให้ดีที่สุด      ถ้าอยากร้องไห้ให้มาร้องไห้กับดิฉันนะคะ   แล้วดิฉันจะเป็นกำลังใจให้   ลูกชายของแม่เป็นคนดีที่เข้มแข็ง   ภรรยาของเขา  เคยบอกกับดิฉันว่าเขาเป็นคนใจดี   ชอบช่วยเหลือเพื่อนบ้าน   ชอบทำบุญ    รักพี่น้อง   ดิฉันมั่นใจว่าบุญที่เขาสะสมมาจะทำให้เขาจากไปอยู่ในที่ที่ดี    แม่ของเขายกมือไหว้ฉัน   ดิฉันรีบยกมือไหว้ตอบและกุมมือทั้งสองไว้ในอุ้งมือเพื่อส่งถ่ายความเห็นใจ   ภรรยาของเขายังทำใจไม่ได้ที่เขาจะจากไปเร็วขนาดนี้     สามีของเธอทำงานหนักมาตลอด   แต่ในวันนี้ที่ฐานะเริ่มดีขึ้น  เขากลับอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถจะมีความสุขกับเงินทองและบ้านที่สร้างหามาด้วยกัน      ดิฉันได้แต่เพียงพูดปลอบใจ    การที่คุณมาอยู่ดูแลเขาและแสดงความห่วงใยต่อเขามากขนาดนี้   คุณทำได้ดีแล้วค่ะดีมากๆด้วย  เราอาจย้อนเวลากลับไปไม่ได้แต่ในวันนี้และขณะนี้ดิฉันเชื่อว่าเขาเห็นแล้วว่าคุณเป็นภรรยาที่ดี    เพราะฉันเห็นแววตาเขามีความสุขในเวลาที่คุณมาดูแล    จง ทำช่วงเวลาต่อจากนี้ไปดีที่สุดจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิตของเขาแล้ว   

           ทุกครั้งที่ได้พูดคุยกับผู้ป่วยรายนี้   ดิฉันมักกล่าวชื่นชมคุณแม่และภรรยาของเขาให้ฟังบ่อยๆ   บอกกับเขาว่า   คุณแม่และภรรยาของเขาคงจะดูแลตัวเองได้     เธอเป็นคนนิสัยดี และน่ารัก เขายิ้มภูมิใจในตัวภรรยาของเขามาก     เขาเองก็รู้ดีว่าอีกไม่นาน   เขาก็คงต้องจากโลกนี้ไป   เขาเลือกที่จะไม่ใส่ท่อช่วยหายใจ   และไม่นวดหัวใจเพื่อช่วยฟื้นคืนชีพ  และช่วงเวลาอันน้อยนิดที่เหลืออยู่เขาได้ขอให้คุณแม่และภรรยาขออนุญาตพยาบาลดูแลเข้าพักห้องพิเศษเพื่อการดูแลเป็นส่วนตัวอย่างใกล้ชิด  ซึ่งทีมดูแลผู้ป่วยก็เห็นด้วยเช่นกัน จึงได้ย้ายเขาเข้ารักษาตัวอยู่ห้องพิเศษ  3  และถ้าหากสิ้นลมหายใจให้สวมชุดกางเกงทหารที่เขาเคยภูมิใจมาตลอดชีวิต         ฉันได้ให้ความรู้และแนะนำเรื่องการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายด้านร่างกาย  จิตใจ  อารมณ์  สังคมและจิตวิญญาณ   ดิฉันได้บอกให้เขาคิดถึงสิ่งดีงามที่เคยทำมา  ตอนนี้ทำใจให้สบาย   หายใจเข้าออกลึกๆ   ไม่ต้องกังวล  และนำทางผู้ป่วยให้หายใจตามจังหวะที่บอกว่า  หายใจเข้า  พุทธ  หายใจออก  โธ    หลังจากนั้จึงจับมือภรรยาและแม่ของเขาให้กุมมือผู้ป่วยเพื่อถ่ายทอดความรู้สึกให้แก่กันและกัน  โดยมีดิฉันช่วยอยู่ข้างๆ  สังเกตเห็นว่าผู้ป่วยหายใจดีขึ้น  สงบลง  ไม่กระวนกระวาย  ไม่ร้องครางเสียงดัง และพักหลับได้

                   กลางดึกของคืนวันหนึ่ง เขามีอาการเหนื่อยหอบมาก    เพ้อเรียกหาคุณแม่และภรรยาตลอด  ไม่ยอมให้ปิดไฟ  ไม่ยอมให้คุณแม่และภรรยาอยู่ห่าง  กลัวความมืด   เหมือนเขาเริ่มรู้ตัวแล้วว่าถึงเวลาที่เขาต้องจากไปแล้ว   ด้วยความเป็นห่วง

ดิฉันไปเยี่ยมอาการของเขาทันทีที่ขึ้นปฏิบัติงาน  คุณแม่และภรรยาของเขาดูแลตามคำแนะนำทั้งด้านร่างกาย  จิตใจ  อารมณ์  สังคม  จิตวิญาณ  คุณแม่ของเขาสวดมนต์อยู่ใกล้ๆ   ฉันรู้สึกว่าผู้ป่วยกังวลกลัวอยู่ลึกๆ   ดิฉันจึงเข้าไปจับมือผู้ป่วย  นำทางผู้ป่วยให้หายใจตามจังหวะ  หายใจเข้า  พุทธ  หายใจออก  โธ   และให้ภรรยาของเขาปฏิบัติเป็นผู้นำทางแทนดิฉัน    ดิฉันกระซิบข้างหูของเขาบอกว่า  เขาเป็นคนโชคดี  สังเกตเห็นว่า  ผู้ป่วยหายใจสงบนิ่ง  สม่ำเสมอและแผ่วลงเรื่อยๆ   ประมาณ  20  นาทีผู้ป่วยจึงหยุดหายใจและจากไปอย่างสงบท่ามกลางการประสานมือของคุณแม่และภรรยาผู้ป่วย   รวมทั้งมือของดิฉัน

 ความรู้สึกของเขาเต็มสุขพร้อมที่จะไปแล้ว     คุณแม่และภรรยาของเขาได้เข้ามากอดดิฉันและดิฉันได้กอดตอบอยู่สักครู่ใหญ่  จากนั้นคุณแม่และภรรยาของเขาจับมือดิฉันกล่าวขอบคุณมากค่ะที่ดูแลสามีของเธอเป็นอย่างดีมาตลอดระยะเวลาที่อยู่โรงพยาบาล   จนกระทั่งตอนนี้เธอได้มาอยู่กับผู้ป่วย    ดิฉันจึงได้กล่าวตอบว่า  ดิฉันยินดีค่ะที่เห็นผู้ป่วยมีความสุขที่ได้อยู่กับคนที่รักในช่วงสุดท้ายของชีวิตและจากไปอย่างสงบ  ขอให้คุณมีจิตใจที่เข้มแข็ง  ต่อไปนะคะ

           เพียงแค่เห็นแววตาของญาติที่แสดงออกว่าเขาทุกข์ใจขนาดไหนและดิฉันสมารถช่วยผ่อนคลายความทุกข์โศกได้   การแสดงออกของญาติที่จับมือดิฉันไว้   กล่าวขอบคุณ รวมทั้งการแสดงออกว่าเข้าใจและเห็นว่าดิฉันได้ทำสิ่งที่ดีและให้การดูแลช่วยเหลือแก่ผู้ป่วยและญาติ    เพียงเท่านี้ก็เป็นแรงบันดาลใจให้เรามีกำลังใจในการทำงานต่อไปได้อย่างมีความสุข   

          เมื่อเจ้าหน้าที่เปลมารับศพผู้ป่วยเพื่อไปประกอบพิธีศาสนาต่อไป  ดิฉันและตัวแทนพยาบาลส่งเขาในสภาพนอนหลับอย่างสงบบนเปลนอน กลับบ้านพร้อมครอบครัว ด้วยความภูมิใจอย่างลึกๆ ว่าเราได้ดูแลเขาและครอบครัวอย่างดีที่สุดแล้ว

         ประมาณ  10  วันต่อมา    ภรรยาของเขากลับมาพร้อมผลไม้ตามฤดูกาลและเห็ดป่ามาฝากให้เจ้าหน้าที่ตึกผู้ป่วยใน  เพื่อมาขอบคุณพยาบาลที่ให้การดูแลสามีของเธอเป็นอย่างดี    และกล่าวว่าในวันรดน้ำศพ   ทุกคนที่ไปร่วมรดน้ำพูดเหมือนกันว่าไม่น่าเชื่อเลยว่าเขาจะจบชีวิตลง    ดูเหมือนเขานอนหลับ  ทำให้ตัวภรรยาผู้ป่วยเองมีความสุขมาก  

         ผู้ป่วยระยะสุดท้ายไม่ใช่ผู้ป่วยที่สิ้นหวังแต่เป็นผู้ป่วยที่ควรจะอยู่อย่างมีความหวัง  คือหวังที่จะให้ได้ทุกลมหายใจสุดท้ายที่เหลืออยู่มีคุณค่า   และมีความหมายในชีวิต   ซึ่งทีมผู้ดูแลก็สามารถทำให้ความหวังของผู้ป่วยทุกคนเป็นจริงได้ด้วยสองมือและหัวใจที่เป็นหัวใจของการให้ ที่แท้จริง 

 

หมายเลขบันทึก: 271991เขียนเมื่อ 29 มิถุนายน 2009 15:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 พฤษภาคม 2012 23:22 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ซาบซึ้งนะคะ เขียนอีกนะคะ อยากอ่าน

ชอบมากค่ะ

“หัวใจของการให้” ที่แท้จริง

นางสุวรรณา วาสนาทิพย์

ขอให้ดวงวิณญาณของคุณชายไทยอายุ40ปีที่ป่วยเป็นโรค CHF และ MF ระยะสุดท้ายนี้ ท่านพบแสงสว่างในการเดินทาง ขอให้ท่านพ้นเวรกรรม ความดีของลูกเมียท่านและคุณของพ่อคุณของแม่ จะส่งผลบุญให้ท่านพบแสงสว่างและพบหนทางนิพพานขอให้ท่านพบพระโพธิสัตย์ และพระศรีอาน ความดีของคุณที่เฝ้าไข้นี้ท่านผลบุญมากที่สุดดิฉันปราบปลื้มและภูมใจในการกระทำครั้งนี้ของท่านขอให้ครอบครัวท่านพบแต่ความสุข อย่าได้มีเวรกรรมใดๆเลย ขอผลบุญนี้แผ่ให้กับเจ้ากรรมนายเวรทุกท่านพ้นเวรกรรมได้เลื่อนภพเลื่อนภูมิสูงๆขึ้นๆและขอให้ ท่านผู้อ่านทุกท่านมีความสุขและกระทำแต่สิ่งดีๆเพื่อลูกหลาน และบรรพบุรุษ สิ่งดีๆๆนี้จงอยู่กับท่านผู้อ่านทุกท่าน ให้ท่านมีความสุขและปลอดภัยต่อภัยใดๆทั้งปวงด้วยเทิด สาธุ สาธุ สาธุ

xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท