องค์กรภาคี

                    จากการที่ได้มาทำงานที่หน่วยปฐมพยาบาลคามิลเลียนฯ ได้ประมาณ 3 เดือน มีคนไข้ที่เราเจอมากมาย ส่วนใหญ่ที่พบมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ไข้ ไอ และรองลงมาคือ ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ ซึ่งเราสามารถดูแลคนไข้ได้ และก็จะมีคนไข้อีกหลายคนเช่นกันที่เราจะดูแลไม่ได้ต้องส่งต่อให้กับทางโรงพยาบาลระนอง เช่น คนไข้ที่ป่วยเป็นเบาหวาน ไขมัน อัมพฤต อัมพาต เนื่องจากมีไขมันในเลือดสูง ซึ่งการประสานกับทางโรงพยาบาลส่วนใหญ่ก็จะได้รับความร่วมมือจากทีมโรงพยาบาลดีเกือบทุกฝ่าย อาจจะมีเจ้าหน้าที่บางคนที่ไม่เข้าใจว่าองค์กรของเราทำไมต้องมาทำงานช่วยเหลือพม่า(เสียดายเงิน ทำไมไม่เอาเงินไปช่วยเหลือคนไทย) เราก็จะต้องคุยทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล แต่ก็ต้องมีการประสานงานกับฝ่ายประชาสงเคราะห์ของโรงพยาบาล ชื่อ คุณพี่ติ๊ก ซึ่งให้ความร่วมมือดีมาก  เวลาที่เราเข้าไปคุยประสานขอความช่วยเหลือซึ่งก็มีคนไข้จำนวนไม่น้อยที่เรานำส่งโรงพยาบาลและมีค่าใช้ค่อนข้างจ่ายสูง เพราะคนไข้นอนพักที่โรงพยาบาลหลายคืนเนื่องจากเป็นอัมพาตเบาหวานกินยาแล้ว  แต่วันที่แพทย์นัดเพื่อไปรับยาต่อป่วยมีอาการทรุดเพราะปอดติดเชื้อต้องนอนพักรักษาตัวหลายวัน อาการไม่ดีขึ้นจนเสียชีวิตในที่สุดญาติของคนไข้ไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาล เพราะคนไข้เคยเป็นหัวหน้าครอบครัวหารายได้หลักตอนที่ยังไม่ป่วย จึงมาเจอกับเราซึ่งคนไข้ป่วยเป็นอัมพาตอยู่แล้วตั้งหลายเดือน ทำให้ไม่รายได้ ทางหน่วยฯเข้าไปคุยกับพี่ติ๊กในเรื่องค่าใช้จ่าย ซึ่งรวมแล้วประมาณหมื่นกว่าบาท พี่ติ๊กถามว่าเราและญาติพอมีค่าใช้จ่ายอยู่เท่าไรและจะช่วยโรงพยาบาลในเรื่องอะไรบ้าง ซึ่งอยากให้ช่วยโรงพยาบาลในเรื่องค่ายาเวชภัณฑ์ต่างๆที่ต้องจัดซื้อมา เราก็บอกว่าทางหน่วยฯ มีเงินสำหรับช่วยเหลือคนไข้ในกรณีที่ฉุกเฉินต่อคนๆละสามพันบาท แต่ถ้าเป็นคนไข้ที่ไม่ฉุกเฉินต้องดูเป็นรายกรณีไป ซึ่งกับคนไข้คนนี้ก็จะช่วยได้ในเรื่องที่จำเป็นจะต้องช่วยโรงพยาบาล ซึ่งทางพี่ติ๊กก็ตกลงจะให้เราช่วยสามพันบาท และส่วนที่เหลือทางโรงพยาบาลจ่ายด้วยความเต็มใจในการทำงานร่วมกันและอีกหลายครั้งที่เราเข้าไปประสานก็ได้รับการตอบกลับที่ดีเสมอ

                และอีกองค์กรหนึ่งที่เราได้ประสานความร่วมมือคือ MMR (เมรี่มิชชั่น) ซึ่งเริ่มต้นด้วยการช่วยเหลือคนไข้จากโรงพยาบาลระนอง คนไข้ไม่ได้เป็นคนไข้ที่เราไปส่ง และเราไปเยี่ยมคนไข้ของเราที่ผ่าตัดไส้เลื่อนและทีมพยาบาลตึกศัลยกรรมชาย ขอความร่วมมือกับเราให้น้องๆไปเป็นล่ามให้ ซึ่งคนไข้เล่าให้ฟังว่าไปทำงานที่หาดใหญ่ได้ระยะหนึ่งแล้วและต้องการกลับเมืองพม่า ระหว่างทางกลับที่จะไประนอง ถูกด่านเรียกให้จอดแล้วคนที่พาไม่จอด ตำรวจเลยยิงใส่กระสุนไปโดนถูกคนไข้และนำคนไข้มาส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลระนอง กลายเป็นอัมพาตท่อนล่าง ซึ่งทางคนไข้มีความประสงค์ที่จะกลับไปพม่า แต่ไม่มีเงินที่จะกลับเพราะเงินที่ได้มาเอาไปจ่ายค่ารักษาไปหมดแล้ว หลังจากที่เข้าไปช่วยเป็นล่ามให้กับทีมพยาบาลเรารู้สึกสงสาร แต่ทางเราไม่รู้จะช่วยอย่างไร เพราะไม่ได้มีในวัตถุประสงค์ของโครงการ ก็เลยเข้าไปประสานกับทาง MMR  หลังจากที่เข้าไปคุยในวันรุ่งเช้า วันที่คนไข้ออกจากโรงพยาบาล คพ.จอห์น ก็มารับคนไข้ออกจากโรงพยาบาลและเอามาพักที่บ้าน และทางหน่วยก็ตามไปดูแลในเรื่องการล้างแผลให้เพราะคนไข้ยังมีปัญหาเรื่องแผลกดทับกับคนไข้เมื่อถึงวันที่คนไข้จะได้กลับบ้าเมืองของเขา ซึ่งเราเองก็รู้สึกดีใจที่ได้ช่วยกันกับ MMR  ช่วยคน ๆ หนึ่งกลับบ้านผู้ชายอายุแค่เพียง 19 ปี ต้องกลายเป็นอัมพาตหรือจะเกิดอะไรขึ้นกับเขาอีก  แต่อย่างน้อยเราก็ได้ช่วยกันทุกฝ่ายอย่างเต็มที่เท่าที่เราจะทำได้ให้คนไข้ได้กลับบ้านเขาไปเจอกับพ่อแม่และครอบครัวของเขาซึ่งเป็นสิ่งที่คนไข้พึงพอใจ

                                                                                                                    หน่วยปฐมพยาบาล คามิลเลียน โซเชียล เซนเตอร์ ระนอง